เมแกน นีลีย์ ผู้อำนวยการระดับบัณฑิตศึกษาของหลักสูตรปริญญาโททางด้านชีวสถิติ วิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยดุ๊กในสหรัฐฯ ส่งอีเมลถึงนักศึกษาในหลักสูตรปริญญาโทของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เตือนให้นักศึกษาชาติต่างๆ ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารขณะที่อยู่ภายในวิทยาลัย เพราะจะสะท้อนให้เห็นว่านักศึกษาไม่ตั้งใจจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
ในอีเมลดังกล่าวระบุด้วยว่า มีผู้ร้องเรียนเรื่องว่ากลุ่มนักศึกษาจีนคุยกันเสียงดังด้วยภาษาจีนในบริเวณห้องโถงกลางของวิทยาลัย โดยผู้ร้องเรียนเป็นอาจารย์ 2 รายของวิทยาลัยการแพทย์ ซึ่งระบุว่า รู้สึกผิดหวังที่นักศึกษากลุ่มนี้ใช้ภาษาจีนในการพูดคุย ทำให้ไม่ได้ฝึกทักษะภาษาอังกฤษ และพฤติกรรมการพูดภาษาจีนของนักศึกษากลุ่มนี้ถือว่า 'ไม่สุภาพ' เนื่องจากคนอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงไม่เข้าใจบทสนทนาดังกล่าว
ทั้งนี้ ดร.นีลีย์ยังกล่าวด้วยว่า เธอเคารพภาษาอื่นที่เป็นภาษาแม่ของนักเรียนต่างชาติ แต่เธออยากให้นักเรียนต่างชาติใช้ภาษาอังกฤษ 100 เปอร์เซ็นต์ตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในอาคารเรียนของคณะหรือสถานที่อื่นที่คณาจารย์ของวิทยาลัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ดร.นีลีย์เคยส่งอีเมลลักษณะดังกล่าวให้แก่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของหลักสูตรดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยอีเมลฉบับนั้นระบุว่า ห้ามนักศึกษาใช้ 'ภาษาอื่น' ในการพูดคุย แต่ไม่ได้มีการเจาะจงว่าเป็นภาษาจีนเหมือนในอีเมลฉบับล่าสุด
ขณะที่ ดร.แมรี่ ค็อตแมน คณบดีวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่าทางคณะไม่มีนโยบายจำกัดการใช้ภาษาในการสื่อสารของนักศึกษากับบุคคลอื่นๆ และภาษาที่ใช้สื่อสารของนักศึกษาต่างชาติ ไม่มีผลต่อความก้าวหน้าในสายงาน การทำงานวิจัย หรือการขอจดหมายแนะนำ
นอกจากนี้ยังระบุว่า ทางคณะได้มีคำสั่งปลด ดร.นีลีย์ออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการหลักสูตรฯ พร้อมสั่งไต่สวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการกระทำผิดวินัยหรือไม่ เนิื่องจากมีนักศึกษา อาจารย์ และบุคลากรอื่นๆ ในวิทยาลัย ร่วมกันล่ารายชื่อผ่านสื่อออนไลน์เพื่อเรียกร้องให้มีการไต่สวนข้อเท็จจริง แต่ ดร.นีลีย์จะยังคงเป็นอาจารย์ในสาขาวิชาชีวสถิติและชีวสารสนเทศศาสตร์ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยดุ๊กต่อไปตามเดิม
ทั้งนี้ หลักสูตรชีวสถิตของมหาวิทยาลัยดุ๊กมีนักเรียนสัญชาติจีน 36 คน จากนักเรียนในหลักสูตรทั้งหมด 54 คน และมีคณาจารย์ที่เป็นคนจีนอีกประมาณ 10 คนจากจำนวนคณาจารย์ทั้งหมดของคณะที่มี 50 คน
ปัจจุบัน จำนวนนักศึกษาต่างชาติในระดับอุดมศึกษาของสหรัฐฯ นั้นมีมากกว่า 1 ล้านคน และ 1 ใน 3 ของนักศึกษาต่างชาติต่างเป็นคนจีน ส่วนมหาวิทยาลัยดุ๊กเป็นสถาบันเอกชนในมลรัฐนอร์ทแคโรไลน่าของสหรัฐฯ โดยมีชื่อเสียงด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์และชีววิทยา ทั้งยังมีศิษย์เก่าได้รับรางวัลโนเบลสาขาต่างๆ หลายราย