ในวันพุธ (8 พ.ค.) ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่าน แถลงว่า อิหร่านจะยุติการจำกัดปริมาณการครอบครองแร่ยูเรเนียมเสริมคุณภาพและน้ำมวลหนัก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในข้อตกลงระงับโครงการนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำกับชาติมหาอำนาจเมื่อปี 2015 ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐฯ
การยุติการปฏิบัติตามพันธะในข้อตกลงดังกล่าวเป็นการตอบโต้ที่ชาติมหาอำนาจ ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี และรัสเซีย หันไปเดินตามรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ที่กดดันให้นานาชาติยุติการทำธุรกรรมกับธนาคารอิหร่านและซื้อน้ำมันจากอิหร่าน
นับแต่รัฐบาลทรัมป์ถอนตัวฝ่ายเดียวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเมื่อ 12 เดือนก่อน รัฐบาลสหรัฐฯ ได้นำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน
เวลานี้ สหรัฐฯกำลังส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน พร้อมเครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 ซึ่งใช้ลำเลียงระเบิดนิวเคลียร์ได้จำนวนหลายลำ มุ่งหน้าไปยังตะวันออกกลาง ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ นายจอห์น โบลตัน เตือนว่า สหรัฐฯ จะตอบโต้ด้วยกำลังหากอิหร่านโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐหรือชาติพันธมิตร ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายไมค์ ปอมเปโอ บอกว่า อิหร่านมีแผนที่จะโจมตีในระยะเวลาอันใกล้นี้
อิหร่านประกาศว่า ห้าชาติภาคีของข้อตกลงมีเวลา 60 วันที่จะกลับมาทำธุรกรรมกับธนาคารอิหร่านและซื้อน้ำมันจากอิหร่านถึงแม้สหรัฐฯขู่ที่จะคว่ำบาตรประเทศที่คบค้ากับอิหร่านก็ตาม หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว อิหร่านจะระงับพันธะอื่นๆ ในข้อตกลงเพิ่มขึ้นอีก
ทั้งนี้ ยูเรเนียมที่เสริมคุณภาพจนเข้มข้นกว่าระดับที่อิหร่านมีในปัจจุบันจะนำไปใช้ทำระเบิดนิวเคลียร์ได้ ส่วนน้ำมวลหนักนั้นเป็นสารที่ใช้ในการผลิตพลูโตเนียม ซึ่งนำไปใช้ในการผลิตหัวรบได้เช่นกัน