ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย' แถลงย้ำ ข่าวนายกฯ เตรียมลาออก-ยุบสภา ไม่เป็นความจริง ยันรัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อ ทั้ง "เศรษฐกิจ นิติบัญญัติ รัฐธรรมนูญ นิรโทษกรรม หวยเกษียณ บ้านเพื่อคนไทย" สถานการณ์ชายแดนรัฐบาลยกระดับทุกด้านเพื่อปกป้องอธิปไตย แจงปมรองนายกฯพีระพันธุ์

วันที่ 22 มิถุนายน 2568 - ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชน เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องในประเด็นสำคัญที่สังคมกำลังให้ความสนใจ โดยเน้นย้ำว่า "รัฐบาลมีเสถียรภาพ และจะเดินหน้าทำงานต่อเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ"


[ ยืนยันข่าวลือ "นายกรัฐมนตรีเตรียมลาออกหรือยุบสภา" ไม่เป็นความจริง ]

ขัตติยา กล่าวถึงข่าวลือที่ระบุว่า นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เตรียมลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 ว่า ข่าวลือดังกล่าวไม่เป็นความจริง และถือเป็นความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความสับสนในสังคม และบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาล

โดยนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการลาออกหรือยุบสภา โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน เช่น ปัญหาความมั่นคงชายแดน, ยาเสพติด, อาชญากรรมไซเบอร์, การค้าระหว่างประเทศ, ค่าครองชีพ, ราคาสินค้าเกษตร และการปฏิรูปการเมือง สถานการณ์เหล่านี้ยิ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลต้องเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มความสามารถ 

ขัตตินา ระบุว่า ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี รัฐบาลจะเร่งสานต่อภารกิจต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ การปราบปรามยาเสพติด อาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรการลดหนี้ ลดรายจ่ายประชาชน รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนใหม่ ๆ

นอกจากนี้ ยังมีภารกิจด้านนิติบัญญัติที่รอการผลักดัน เช่น

- การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

- ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่เสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายค้าน และภาคประชาชน

- ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

- ร่างกฎหมายลดค่าครองชีพ เช่น ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย

- โครงการบ้านเพื่อคนไทย และหวยเกษียณ

"ทั้งหมดนี้คือภารกิจที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในสภาชุดนี้ ยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปเพื่อประชาชน" เธอกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีเจตนาในการปล่อยข่าวลือหยุดบิดเบือน และคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติ


[ ชี้แจงประเด็น "ไม่มีชื่อพีระพันธุ์" ในคำสั่งมอบหมายงาน ]

ในประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการไม่มีชื่อของพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ ในคำสั่งมอบหมายงานของนายกรัฐมนตรีนั้น ขัตติยากล่าวว่า พีระพันธุ์ยังคงดำรงตำแหน่งตามเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ และเหตุผลที่ไม่มีชื่อในคำสั่งล่าสุด เป็นเพราะเป็นการมอบหมายเฉพาะกรณีให้รองนายกฯ ที่เหลือ รับช่วงงานจาก อนุทิน ชาญวีรกูล ที่พ้นจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ 

ขัตติยา ย้ำว่า พีระพันธุ์มีภารกิจอยู่แล้วตามคำสั่งก่อนหน้านี้ จึงไม่จำเป็นต้องระบุใหม่ในคำสั่งปัจจุบัน และโครงสร้าง ครม. ยังเดินหน้าอย่างมีเสถียรภาพ


[ แสดงจุดยืนชัด "ไทยต้องปกป้องอธิปไตย-ตอบโต้เหมาะสม" ต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ]

ในส่วนของข้อพิพาทแนวชายแดนและความสัมพันธ์กับกัมพูชา ขัตติยา ระบุว่า รัฐบาลตระหนักถึงความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ และดำเนินการภายใต้กรอบการทูตและความมั่นคงอย่างรอบคอบ

"การแสดงออกของอดีตผู้นำกัมพูชาที่ผ่านมา ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศความร่วมมือระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยจึงจำเป็นต้องตอบโต้ในระดับที่เหมาะสม"

มาตรการที่รัฐบาลไทยดำเนินการแล้ว ได้แก่

- ควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

- ยื่นหนังสือประท้วงต่อเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย

- เชิญเอกอัครราชทูตไทยในกัมพูชากลับมาหารือ

- อยู่ระหว่างการพิจารณาลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต

- ควบคุมนักท่องเที่ยว-แรงงานไทยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเสี่ยงในกัมพูชา

- เพิ่มความเข้มงวดการนำเข้าสินค้าบางรายการ เช่น มันสำปะหลัง

ขัตติยา ยืนยันว่า "รัฐบาลไม่มีความประสงค์ให้สถานการณ์บานปลาย แต่ต้องปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของประเทศไทย"

พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบและส่งต่อข้อมูลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะข้อมูลคลาดเคลื่อนในโลกออนไลน์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงโดยไม่ตั้งใจ

"รัฐบาลชุดนี้จะยังคงยืนหยัดในการทำงานเพื่อประชาชน และจะไม่ปล่อยให้ข่าวลือที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง มาสร้างอุปสรรคในการทำหน้าที่" ขัตติยา กล่าวทิ้งท้าย

"รัฐบาลชุดนี้จะยังคงยืนหยัดในการทำงานเพื่อประชาชน และจะไม่ปล่อยให้ข่าวลือที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง มาสร้างอุปสรรคในการทำหน้าที่"