ไม่พบผลการค้นหา
ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดแบงก์พาณิชย์เบิกธนบัตรสำรองเงินสดตรุษจีน 62,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 36 ขณะที่แบงก์กรุงเทพสำรองเงินสดผ่านสาขาและตู้เอทีเอ็มกว่า 5 หมื่นล้านบาท ฟากศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินคนกรุงใช้จ่ายตรุษจีนปีนี้ 13,560 ล้านบาท และเน้นประหยัด

นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายออกบัตรธนาคาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประชาชนมีความต้องการใช้ธนบัตรสูงกว่าปกติ ขณะที่ ธปท. คาดว่าธนาคารพาณิชย์จะเบิกจ่ายธนบัตรสุทธิประมาณ 62,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาที่มีจำนวน 46,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 ทั้งนี้ ธปท. ได้กำชับให้ธนาคารพาณิชย์เตรียมสำรองธนบัตรใหม่อย่างพอเพียง เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนในช่วงเทศกาล

ขณะที่ ธนาคารพาณิชย์เตรียมสำรองเงินสดไว้บริการลูกค้าในช่วงเทศกาลตรุษจีน อาทิ ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดไว้กว่า 50,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร สาขาไมโครภายในห้างสรรพสินค้ากว่า 1,000 แห่ง และตู้เอทีเอ็มอีกกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ พร้อมสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนสำหรับใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีน  

อีกทั้ง ธนาคารยังเตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการเพิ่มความถี่ในการเติมเงินในตู้บัวหลวงเอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าจะสามารถเบิกถอนเงินสดมาใช้ในช่วงเทศกาลดังกล่าวได้อย่างสบายใจ

ด้านธนาคารกสิกรไทย เตรียมสำรองเงินสดในช่วงวันที่ 2 – 5 ก.พ. 2562 รวมทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา 22,300 ล้านบาท สำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 9,200 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาคจำนวน 13,100 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 960 สาขา ทั่วประเทศ ส่วนเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 9,369 เครื่องทั่วประเทศ สำรองเงินสดไว้ 25,700 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 13,200 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 12,500 ล้านบาท

ส่วนธนาคารกรุงศรี เตรียมสำรองเงินสดเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2562 ระหว่างวันที่ 28 ม.ค. – 5 ก.พ. 2562 ( 9 วัน) รวม 21,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดเงินสดที่ลูกค้าใช้จริงในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนราวร้อยละ 2.5 แบ่งเป็นการให้บริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 11,882 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 9,745 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาจำนวน 664 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,680 เครื่องทั่วประเทศ ขณะที่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สำรองเงินสด จำนวน 625.90 ล้านบาท 

ประเมินคนกรุุงใช้จ่ายตรุษจีน 13,560 ล้านบาท เน้นประหยัด

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจพบว่า เทศกาลตรุษจีนปีนี้ประชาชนส่วนใหญ่เน้นประหยัด ทั้งการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ การแจกเงินแต๊ะเอีย รวมถึงการทำบุญท่องเที่ยว พร้อมกับลดงบประมาณ การซื้อของเซ่นไหว้ การทำบุญท่องเที่ยวก็เน้นเดินทางระยะใกล้ เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดราชการ ส่วนการแจกแต๊ะเอียหลายคนงดกิจกรรมส่วนนี้ ส่วนที่มีกิจกรรมนี้ มีงบประมาณเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2.4 ต่อคน ส่วนกลุ่มคนที่ได้รับแต๊ะเอียจะนำเงินไปฝากธนาคารมากที่สุด ทำให้เงินแต๊ะเอียไม่ได้เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในทันที 

ขณะที่ เม็ดเงินค่าใช้จ่ายที่คนกรุงเทพฯ จะใช้ในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ น่าจะอยู่ที่ 13,560 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.9 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปรับเพิ่มจากค่าใช้จ่ายทำบุญ/ท่องเที่ยว 3,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.6 ส่วนค่าใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ 5,990 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 และเงินแต๊ะเอีย 3,620 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 7.9  

ส่วนภาคธุรกิจ อาจต้องวางแผนรับมือบริหารสต็อกให้ตรงกับความต้องการของผู้ซื้อ เนื่องจากประชาชนซื้อของเซ่นไหว้ไม่มากนัก อีกด้านหนึ่งคือ มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงตรุษจีน ที่เพิ่งออกมา แม้ว่าจากการสำรวจจะพบว่าประชาชนซื้อสินค้าผ่านตลาดสด มากกว่าในห้างสรรพสินค้า ซึ่งจะไม่ได้อานิสงส์จากมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 

อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังมองว่า มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 5 อาจจะเป็นโอกาสให้ธุรกิจค้าปลีกต่างๆ อาทิ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไอที ของใช้ส่วนตัว เพิ่มยอดขายทั้งจากคนไทยเชื้อสายจีนและประชาชนทั่วไป