การเมือง
'นักรบองค์ดำฯ' ยันกรณีบุกบ้านผู้เห็นต่าง เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
หลังจากเกิดกรณีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า 'นักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร' นำโดย สุเมธ ตระกูลวุ่นหนู และพวกจำนวนกว่า 10 คน เดินทางไปยังบ้านชายคนหนึ่งที่ ต.ทุ่งควายกิน อ.แกลง จ.ระยอง ผ่านการยื่นหนังสือถึงผู้นำชุมชน เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยอ้างว่าชายคนดังกล่าวได้แสดงความเห็นเชิงหมิ่นสถาบันกษัตริย์ผ่านเฟซบุ๊ก จึงเดินทางมาพูดคุย
ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนักถึงการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว ว่าเป็นการคุกคามผู้เห็นต่างและเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
ล่าสุดวันนี้ (25 เม.ย.) ทางกลุ่มนักรบองค์ดำฯ ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเพจ นักรบองค์ดำ-สองคาบสมุทร ใจความว่า กรณีที่ทางกลุ่มเดินทางไปยังบ้านของชายคนดังกล่าว เนื่องจากมีสมาชิกของกลุ่มได้ข้อมูลมาว่าบุคคลผู้นั้นเป็นผู้ป่วยทางจิตประสาท ใช้ชีวิตลำพังและดูแลลูกสาววัย 10 กว่าปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 เพียงสองคน และถูกภรรยาทิ้งไป
และเพื่อ 'มนุษยธรรม' ทางกลุ่มจึงตัดสินใจเดินทางเข้าสอบถามกับผู้นำชุมนุมแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง เพื่อพิสูจน์อาการป่วยทางจิตของชายคนดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับการยืนยันจากผู้ซึ่งเป็นแม่ว่าป่วยจริง ทางผู้ใหญ่บ้านจึงได้ใช้ดุลยพินิจของตนจัดพิธีอภัยโทษเพื่อความสบายใจ และรับเรื่องจากทางกลุ่มดังกล่าวว่าจะนำไปพิจารณาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
ในแถลงการณ์ของกลุ่มนักรบองค์ดำฯ ยังยืนยันอีกว่า เขามิได้เข้าไปคุกคาม ข่มขู่ ข่มขืนใจ หรือประทุษร้ายแก่ร่างกายต่อบุคคลดังกล่าว แต่อย่างใด เป็นความสมัครใจของบุคคลนั้นและแม่เขาเอง
ส่วนประเด็นเรื่องที่มาที่ไปของกลุ่มดังกล่าว ทางกลุ่มชี้แจงว่า ได้ดำเนินการในนามของกลุ่มส่วนตัวเอง มิใช่หน่วยงานของรัฐ หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) หรือหน่วยงานรัฐใดๆ ทั้งสิ้น และไม่มีสมาชิกคนใดใช้หรือแอบอ้างติดตราสัญลักษณ์ของ กอ.รมน. ลงพื้นที่ จ.ระยอง ในเหตุการณ์ที่ผ่านมา เป็นเพียงการโจมตีของผู้ไม่หวังดี และต้องการทำลายกลุ่มตนเท่านั้น
ทั้งนี้ทางกลุ่มนักรบองค์ดำฯ ยังยืนยันอีกว่าการกระทำของตน ถูกต้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 5 ที่ระบุว่า
"รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ เมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้กระทำการนั้นหรือวินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข"
และมาตรา 50 ที่ว่าด้วยเรื่องหน้าที่ของปวงชนชาวไทย ข้อ 1 ที่ระบุว่า "บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปนี้ (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข..."
