ไม่พบผลการค้นหา
ส.ว.ถวิล แจง อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ทำสังคมเข้าใจ 'สมาชิกวุฒิสภา' คลาดเคลื่อน ขาดความน่าเชื่อถือ ชี้การเลือก 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯ เป็นไปตามความสามารถ ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณ

นายถวิล เปลี่ยนศรี สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชี้แจงต่อคำถามของคนในสังว่า 'ส.ว.มีไว้ทำไม' ภายหลังกรณีมีมติเห็นชอบให้ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ซึ่งมีข้อถกเถียงในเรื่องคุณสมบัติอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยมีเนื้อหาระบุผ่านเฟซบุ๊ก ดังนี้ 

"ผมฟังคุณ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร พรรคอนาคตใหม่ พูดประเด็นเรื่องวุฒิสภามีไว้ทำไมแล้วไม่ค่อยสบายใจ เพราะบ่อยครั้งที่อาจารย์ท่านนี้ พูดเรื่องต่างๆ ไม่ครบ เลือกพูดในบางแง่บางประเด็นของเรื่อง จนทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนไป นับว่าไม่เป็นธรรมต่อองค์กรวุฒิสภา ที่ผมสังกัดอยู่อย่างยิ่ง  

เมื่อสองวันก่อน ก็วิจารณ์กรณีวุฒิสภาเห็นชอบอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ท่านหนึ่งดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช. เมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์  เข้าทำนองผลัดกันเกาหลัง ทั้งๆที่เรื่องนี้ มันมีกฎหมายแยกหน้าที่อำนาจกันอยู่ ระหว่างกลไกสรรหาและพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครกับกลไกของวุฒิสภา ที่มีหน้าที่ตรวจสอบด้านคุณธรรมจริยธรรมของผู้ผ่านการสรรหาเท่านั้น ผมไม่ขอลงรายละเอียดเรื่องนี้

เพราะเลขาธิการวุฒิสภา และสมาชิกวุฒิสภาบางท่าน ได้ชี้แจงชัดเจนไปแล้ว แต่ขอพูดอีกเรื่องที่อาจารย์ท่านนี้พูดถึงในคราวเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้สมาชิกวุฒิสภาเสียหาย และขาดความน่าเชื่อถือได้เช่นกัน ทั้งๆ ที่สมาชิกวุฒิสภาก็เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ เหมือนกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่อาจารย์ท่านนี้เพิ่งพ้นสถานะมาหมาดๆ นั่นเอง   

อาจารย์ท่านนี้ พูดย้อนไปถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรัฐสภาลงมติเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 500 คะแนน โดยในจำนวนนี้ 249 คะแนน มาจากสมาชิกวุฒิสภา

ซึ่งอาจารย์ท่านนี้เห็นว่า เป็นการตอบแทนกัน วุฒิสภาจึงเป็นกลไกที่ตั้งมาเพื่อสืบทอดอำนาจของ คสช. ผมขอชี้แจงตรงนี้สักเล็กน้อย เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องมากกว่าจะปล่อยให้กล่าวหากันลอยๆ 

1. การเลือกนายกรัฐมนตรีของวุฒิสภา เป็นไปตามบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่เป็นผลมาจากคำถามพ่วง ที่ผ่านประชามติของประชาชนร้อยละ 58.07 มาแล้วไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หรือใครอยากให้เกิดก็เกิด

2. หน้าที่นี้ของวุฒิสภาจะสิ้นสุดลง เมื่อบทเฉพาะกาลสิ้นสุดลงเมื่อครบ 5 ปี ไม่ได้มีตลอดไป 

3. ที่สำคัญเหตุผลที่ผมและสมาชิกวุฒิสภาอีก 248 คน. ลงมติเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการตอบแทนบุญคุณ สืบทอดหรือไม่สืบทอดอำนาจหรอกครับ แต่เป็นเหตุผลธรรมดาที่เราพิจารณา ถึงประวัติความรู้ความสามารถประสบการณ์ และความเหมาะสมของผู้ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งเราเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ท่านมีความรู้ความสามารถ เหมาะสมกับในการนำพาบ้านเมืองในขณะนั้น 

โดยเฉพาะตลอดเวลาที่ท่านทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีทีผ่านมาร่วม 5 ปี ท่านไม่มีประวัติด่างพร้อย ในเรื่องการทุจริตคอรัปชันหรือประพฤติมิชอบ เราก็เลือก 

มาบัดนี้เวลาผ่านมา 1 ปี ผมคิดว่าวุฒิสภาเราเลือกไม่ผิด ไม่นับผลงานที่ผลักดันการแก้ไขปัญหายากๆ ที่แก้ไข หรือทำไม่ได้มาก่อนมากมาย หรือการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจมากมายที่หยุดชะงักมานาน ทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ถนนหนทางรถไฟฟ้าทั้งบนดินใต้ดิน รถไฟทางคู่ ทางเดี่ยว ฯลฯ แค่การรับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่าเราเลือกถูกแล้ว  

ผมไม่ได้ดูถูกดูแคลนความรู้ ความสามารถของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่อย่างใด แต่ผมก็จินตนาการไม่ออกเอาเลยจริงๆ ว่า ถ้าวันนั้นรัฐสภาเลือกคนซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์บริหารบ้านเมืองมาก่อน แล้วต้องมารับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 ที่ระบาดเช่นนี้ จะสามารถรับมือได้ขนาดไหน"

อ่านเพิ่มเติม