'ดร. นิคกี แม็คคูลลอค' ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยของบริษัท 3M กล่าวว่า บริษัทต้องเผชิญหน้ากำลังเร่งดำเนินการผลิตหน้ากากอนามัย N95 เพิ่มขึ้นเพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค
โรงงานในเมืองอเบอร์ดีน มลรัฐเซาท์ดาโคตา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานผลิตที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ต้องจ้างพนักงานกว่า 650 คน ให้ทำงานล่วงเวลา และเปลี่ยนจากการทำงาน 5 วัน เป็นการทำงานตลอด 7 วัน
'แอนดี เรห์เดอร์' ผู้จัดการโรงงาน 3M อเบอร์ดีน กล่าวว่า ที่โรงงานเร่งการผลิตอย่างทันท่วงที หลังการแพร่ระบาดมีขึ้นอย่างรวดเร็วและกระจายไปยังหลายประเทศ
แม็คคูลลอค ชี้ว่า ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังไม่มียารักษาโรคโควิด-19 ให้หายขาดได้ การป้องกันจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการลดการแพร่ระบาดให้ไม่ลุกลามมากขึ้น แม็คคูลอค ย้ำว่า "สิ่งที่เป็นความท้าทายสำหรับทุกคนทั่วโลกตอนนี้คือไวรัสดังกล่าวจะแพร่กระจายไปทั่วโรคได้เร็วแค่ไหน และตอนนี้มันส่งผลกับทุกทวีปแล้วยกเว้นก็แต่ทวีปแอนตาร์กติกา"
ตามข้อมูลจากศูนย์ควบคุมการระบาดของสหรัฐฯ ชีว่าหน้ากากอนามัยแบบ N95 สามารถป้องกันอนุภาคในกาศ รวมทั้งการกรองแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ถึงร้อยละ 95 ขณะที่หน้ากากอนามัยแบบอื่นๆ ไม่สามารถกรองอนุภาคในอากาศได้ถึงขนาดนั้น
แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจะออกมาแสดงความกังวลว่าบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยอาจไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาได้ทันกับความต้องการของผู้บริโภค แต่ 'ทิม โฮเฟอร์' พนักงานประจำสายการผลิต ชี้ว่า คนงานทุกคนทราบดีว่าต้องเพิ่มกำลังผลิตขึ้นอีกเพื่อตอบสนองความมต้องการของตลาด แต่ก็ยังต้องคงเอาไว้ซึ่งคุณภาพ
พร้อมปิดท้ายว่า "การทำงานในโรงงานตลอดย่อมทำให้เกิดความเบื่อหน่าย แต่เมื่อคุณหยุดพักและคิดว่าสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มันส่งผลกระทบสำคัญกับประชาชน" มันก็คุ้มค่ากับความน่าเบื่อเหล่านั้น
อ้างอิง; CNBC, ABERDEENNEWS