วันนี้ (วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568) ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย พร้อมด้วยนางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และคณะ ร่วมหารือกับได้พบหารือกับนาย Nguyen Doan Vite Hung รองผู้จัดการบริษัท Dong Thanh Joint Stock Company ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าโคเนื้อรายใหญ่ของเวียดนาม โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ผู้แทนการค้าไทยเปิดเผยว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมโคเนื้อ โดยได้ดำเนินโครงการปรับปรุงสายพันธุ์โคเนื้อไทย ให้สามารถผลิตเนื้อที่มีคุณภาพสูง มีไขมันแทรกดี และรสชาติเข้มข้น สามารถแข่งขันกับเนื้อนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ ได้ พร้อมเชื่อมั่นว่าหากมีการส่งออกร่วมกันต่อเนื่อง จะสามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าระหว่างกันได้ถึง 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกทั้งในเดือนสิงหาคมนี้ ไทยจะมีการส่งออกโคมีชีวิตล็อตแรก จำนวน 2,300 ตัว จากท่าเรือไทยที่ได้รับการตรวจเชื้อโรคและควบคุมอย่างต่อเนื่องไปยังเวียดนาม และใช้ระยะเวลาเดินทางสั้นกว่า ส่งผลให้สัตว์ไม่บอบช้ำ น้ำหนักไม่ลด และสามารถเลี้ยงขุนต่อเพื่อเพิ่มมูลค่าได้
ด้านนาย Nguyen Doan Vite Hung แสดงความสนใจในการนำเข้าโคเนื้อจากไทย โดยเห็นว่าไทยมีศักยภาพทั้งในด้านโลจิสติกส์ เมื่อเทียบกับการนำเข้าจากประเทศอื่น ซึ่งปัจจุบันโคมีชีวิตที่นำเข้ามามีน้ำหนักเฉลี่ย 350–450 กิโลกรัม และเมื่อเลี้ยงขุนต่ออีก 3–4 เดือน จะได้น้ำหนักเพิ่มเป็น 600–700 กิโลกรัม ซึ่งเหมาะกับตลาดเนื้อพรีเมียมที่เวียดนามกำลังขยายตัว
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันว่า ตลาดเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางที่ต้องการสินค้าคุณภาพ ซึ่งการส่งเสริมความร่วมมือในด้านนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศในระยะยาว โดยผู้แทนการค้าไทยได้เสนอให้มีการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออกเนื้อพรีเมียมของไทยที่ผ่านการรับรองจากกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยกับผู้นำเข้าที่มีคุณภาพของเวียดนาม เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการผลิตและความปลอดภัยของสินค้า พร้อมเชิญผู้ประกอบการเวียดนามเดินทางเยือนไทย เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเนื้อโคไทย และศึกษาผลิตภัณฑ์จริงก่อนตัดสินใจนำเข้า
ซึ่งผู้ประกอบการเวียดนามให้ความสนใจ โดยย้ำว่า เวียดนามกำลังมองหาแหล่งนำเข้าโคเนื้อคุณภาพที่มีมาตรฐานและราคาสมเหตุสมผล ซึ่งไทยถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจทั้งในด้านคุณภาพสินค้า ระยะทาง และต้นทุนการขนส่ง พร้อมยินดีที่จะร่วมมือกับไทยในการสร้างเครือข่ายผู้นำเข้า–ผู้ส่งออก พร้อมยืนยันความพร้อมที่จะหารือในรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือในอนาคต