เป็นลิสต์ร้านที่เราอยากไปมานานแล้ว สำหรับ 'SAVA all day dining' ของ 'หมู- พลพัฒน์ อัศวะประภา' หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ 'หมู อาซาว่า' เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ASAVA และหนึ่งในเมนเทอร์ขาประจำรายการ เดอะ เฟซ ไทยแลนด์

เรียบง่ายแต่มีอะไร มักเป็นนิยามการออกแบบเครื่องแต่งกายของหมู อาซาว่า เมื่อไล่มาในแต่ละงานดีไซน์ของเขา เรามักจะเห็นชุดที่เรียบๆ แต่ดึงดูดสายตาด้วยดีเทลของรูปทรง ที่สำคัญงานออกแบบของ ASAVA มักเล่นกับสีสัน และพี่หมูก็กล้าพอที่จะเสี่ยงกับสีสันจัดจ้านบ่อยครั้ง

สำหรับ SAVA all day dining ถือว่าสะท้อนตัวตนของพี่หมูไว้อย่างครบถ้วน การตกแต่งร้านดูเรียบง่าย คุมโทนด้วยสีกรมท่า ซึ่งน่าจะเป็นสีโปรดของพี่หมู แต่ก็ซ่อนดีเทลระยิบระยับด้วยกลิตเตอร์บนผนัง โคมไฟระย้า และบรรดาแจกันดอกไม้ฟูฟ่องตามมุมต่างๆ ของร้านอย่างลงตัว เรารู้สึกว่าแม้ตัวร้านจะดีไซน์เนี๊ยบ แต่ก็แทรกบรรยากาศรีแล็กซ์สบายๆ เอาไว้ ซึ่งก็ดูเป็นพี่หมู อาซาว่า ที่มีทั้งโหมดจริงจัง และโหมดอารมณ์ขันหน้าตายตามสไตล์นักออกแบบคนดัง

ทางร้านบอกว่า เมนูทั้งหมดเกือบร้อยเมนู พี่หมูเป็นคนคิดและออกแบบด้วยตัวเอง ร่วมกับเชฟของทางร้าน โดยพี่หมูเป็นคนที่ชอบกินอยู่เป็นทุนเดิม ไอเดียของร้าน SAVA คืออาหารเมนูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ที่ว่าไม่ธรรมดา นอกจากรสชาติที่เกินมาตรฐานแล้ว คงเป็นเรื่องของการสไตลิ่งจาน ที่โดดเด่น ดึงดูด และถ่ายรูปสวยปัง เหมือนยกทั้งวงการแฟ(ชั่น)มาไว้บนโต๊ะ

จานแรกมาเสิร์ฟ คือเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน 'ข้าวกากหมูคุโรบุตะคั่วพริก' เมนูโปรดของพี่หมู อาซาว่า รสชาติกากหมูที่ทอดมาอย่างดีไร้กลิ่นเหม็นหืน และกรุบกรอบพอดี เมื่อรับประทานคู่กับไข่ต้มยางมะตูมและพริกน้ำปลาเล็กน้อย ถือว่าเป็นคำที่เพอร์เฟ็กต์ เพราะได้ทั้งรสชาติเค็มของเกลือ เผ็ดพริก เปรี้ยวเล็กๆ จากพริกน้ำปลา ไปด้วยกันได้ดีกับเท็กเจอร์กรอบของกากหมู และความนวลของไข่ยางมะตูม

• ข้าวกากหมูคุโรบุตะคั่วพริก

ถัดไปเราลองชิม 'ยำเย็นตาโฟ' เมนูครบเครื่องเย็นตาโฟ ที่เสิร์ฟมาในรูปแบบเย็นตาโฟแห้งและให้เรารับประทานคู่กับน้ำยำที่ปรุงมาด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน บอกเลยว่าเป็นเย็นตาโฟที่ถูกต้อง เพราะครบทั้งเต้าหู้ทอด ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ปลาเส้น เลือดหมู และผักบุ้งสดๆ เพิ่มความพิเศษด้วยเผือกทอดกรอบ รากบัวและกุ้งเทมปุระ จานนี้เรายกให้เป็นจานที่ชอบที่สุดในวันนี้ เพราะรสชาติอร่อย สดชื่นเหมาะสำหรับรับประทานได้ในทุกช่วงเวลา และให้คะแนนพิศวาสไปตรงที่ให้ผักบุ้งเยอะ ซึ่งผักบุ้งก็อ้วน กรอบ สดถึงใจ ถูกใจสายกินพืชผัก

• ยำเย็นตาโฟ

เมนูอื่นที่เราเลือกมา คือ 'ข้าวหน้าน้ำตกหมูคุโรบุตะแจ่ว' เสิร์ฟมาพร้อมกันสามถ้วย ถ้วยแรกเป็นข้าวน้ำตกหมูคุโรบุตะล้อมตกแต่งด้วยผักชีลาว ข้างกันคือถ้วยของตะกร้าผักสลัดกรีนโอ๊ก และถ้วยเล็กบรรจุน้ำจิ้มแจ่ว จานนี้ถูกใจเพราะเผ็ดแซ่บถูกใจคนชอบรสจัดจ้าน และ 'สปาเก็ตตี้ครีมเนื้อปูและไข่กุ้ง' เส้นลวกมาอย่างพอดี ซอสเนื้อปูอร่อยลงตัวไม่เลี่ยน ไข่กุ้งเคี้ยวได้เท็กซ์เจอร์กรุบ เรื่องรสชาติจึงวางใจได้เพราะผ่านมาตรฐานสไตล์อาซาว่าอยู่แล้ว

ส่วนเรื่องของหวาน เราเลือกเมนู 'เค้กมะพร้าวอ่อนเสิร์ฟกับครีมรสมะพร้าว' และ 'พุดดิ้งมะตูมอุ่น' มาลองชิมกัน สำหรับเมนูขนมชนิดแรก หน้าตาชนะเลิศ เค้กมะพร้าวถูกเสิร์ฟมาในถ้วยทรงกลม ปิดทับด้วยฝาที่ตัดมาจากส่วนบนของลูกมะพร้าวจริง ตกแต่งด้วยใบไม้สีสด สวยเก๋จนยกมือถือขึ้นมาอัพภาพลงไอจีสตอรีกันแทบไม่ทัน จุดนี้เราประทับใจที่จานนี้ใช้หลายส่วนจากลูกมะพร้าวได้อย่างสร้างสรรค์ ส่วนรสชาติคือเต็มปากเต็มคำกับรสมะพร้าว และไม่หวานจนเกินไป

• เค้กมะพร้าวอ่อนและพุดดิ้งมะตูมอุ่น

ส่วนพุดดิ้งมะตูมอุ่นก็เป็นอีกเมนูที่เรารอคอย เพราะอะไรที่ทำมาจากมะตูมมันหาทานยากมากกกก และก็ไม่ผิดหวัง บอกเลยว่า ชนะเลิศอีกแล้ว อยากจะรัวมือให้พี่หมู อาซาว่าที่คิดขนมชนิดนี้ออกมาวางขาย พุดดิ้งมะตูมราดซอสอุ่นๆ เสิร์ฟมาคู่ไอติมวานิลลา ตัวพุดดิ้งเมื่อตักลงไปมีความเด้งหยุ่น เนื้อแน่น รสชาติหอมคาราเมลและมะตูมอย่างพอดิบพอดี เมื่อทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา ถือว่าลงตัว ถ้าให้นิยามเมนูนี้ออกมาในหนึ่งคำ เรามอบคำว่า 'ละมุน' สุดใจให้ไปเลย

ถ้าใครมองหาร้านอาหารสำหรับนัดหลังเลิกงานกับเพื่อน วันพิเศษสำหรับคนพิเศษ หรือร้านอาหารที่ถ่ายรูปสวยทุกมุมและทุกจานละก็ เราว่า SAVA all day dining น่าจะตอบโจทย์ได้ครบถ้วนกระบวนความ ส่วนราคาแม้จะสูงกว่าร้านอาหารเชนตามห้างเสียหน่อย แต่ก็ถือว่าไม่แพงมาก และคุ้มค่าหากมาลองสักครั้งหนึ่ง

ที่ตั้ง : SAVA all day dining ตั้งอยู่บนชั้น 6 โซนเฮลิกซ์ ห้างสรรพสินค้าดิ เอ็ม ควอเทียร์ ทางร้านมีกระซิบๆ บอกด้วยว่าเตรียมจะขยายสาขาเป็นร้านแสตนด์อโลน เพราะพี่หมูเพิ่งได้ทำเลดีที่ใจกลางเมืองมา ซึ่งแน่นอนว่าเปิดเมื่อไหร่เราก็คงจะไม่พลาดอีกแน่