ไม่พบผลการค้นหา
เสวนาสถาบันทิศทางไทย 'อุ๊' ชี้ ปวศ.ความขัดแย้งระบอบการปกครองจบไปแล้ว อัด 'ปิยบุตร' หลงยุค เป็นไดโนเสาร์หรือเปล่า? - ศรีสุวรรณ จวก ธนาธร จ้างนอมินีล็อบบี้เป็น 100 คน ผู้ทรงอิทธิพลโลก ยกมาดามเดียร์ นักการเมืองตัวอย่างเรื่องหุ้นสื่อ - เวทิน ลั่นสถาบันทิศทางไทย ปักธงรบ! ปฏิวัติความคิด

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. สถาบันทิศทางไทย จัดเสวนาหัวข้อ ประเทศไทย อยู่อย่างไรให้ “อยู่ เย็น เป็นสุข” มีวิทยากร ได้แก่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย อุ๊ นางหฤทัย ม่วงบุญศรี ศิลปิน นายวิทิต สัจจพงษ์ นักเศรษฐศาสตร์อิสระ ดำเนินรายการโดย นายเวทิน ชาติกุล

ก่อนเข้าสู่งานเสวนา นายเวทิน ได้พูดถึงสถาบันทิศทางไทยว่า พร้อมปักธงรบ ปฏิวัติด้านความคิด และขอวอนว่าอย่าชักชวน อย่านำพาผู้คนสู่ท้องถนนเกิดการนองเลือด โดยไม่จำเป็น


'อุ๊' อัด 'ปิยบุตร' หลงยุค ถามเป็นไดโนเสาร์หรือเปล่า?

นางหฤทัย กล่าวว่า คำว่าอยู่เป็น เป็นสิ่งที่ดีงาม หมายถึงความอยู่รอดของชาติ หมายถึงคนไทยทุกคนอยู่รอดได้ จะมีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องมาคิดว่าอยู่ไม่เป็น

"ที่กล่าวหาว่า ความอยู่เป็น เป็นของคนไทยส่วนใหญ่ คนไทยเอะอะอะไรก็ได้ เฉยๆ ปล่อยปะละเลย เยส เยส เยส อยู่ตลอดเวลา ไม่เป็นความจริงนะคะ แสดงว่าพวกคุณต้องกลับไปทบทวนใหม่ คุณประเมินคนไทยผิด คนไทยรู้ แล้วรู้จักการเมืองดีมากด้วย ต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารเรื่อยมาในประวัติศาตร์แล้วคนไทยชนะด้วย โดยเฉพาะเผด็จการสภายุคใหม่ หลังรัฐธรรมนูญ 2540"

นางหฤทัย กล่าวต่อว่า นายปิยบุตรนั้นหลงยุคเป็นไดโนเสาร์ เพราะยังวนอยู่กับความขัดแย้งในระบอบการปกครอง ซึ่งส่วนตัวอยากตั้งคำถามว่า ทำไมเราไม่ออกแบบระบบการปกครองของเราเอง เพื่ออยู่รอด ไม่ใช่ออกมาฆ่ากันโดยไร้เหตุผล พร้อมย้ำว่า ระบอบการปกครองแต่ละประเทศมีรายละเอียดต่างกัน ทำไมเราไม่ออกแบบเอง ไม่ใช่ต้องเดินตามตะวันตก

“ไม่ว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์ก็ดี หรือว่าระบอบประชาธิปไตยก็ดี ที่ถกเถียงกันอยู่ล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การชี้นำของมหาอำนาจของโลก เขาคิดขึ้นมา มนุษย์ก็คิดขึ้นมา ระบอบประชาธิปไตยมนุษย์ก็เขียนขึ้นมา คอมมิวนิสต์มนุษย์ก็คิดขึ้นมา จะให้มนุษย์เท่าเทียมกัน สุดท้ายความขัดแย้งที่ทำให้คนฆ่ากันตาย เป็นล้านคน จนกระทั่งทุกวันนี้ เขาเลิกกันไปแล้ว อ.ปิยบุตรนี่ยังหลงยุค สุดท้ายแล้ว อ.ปิยบุตรนี่คือไดโนเสาร์หรือไม่ ?”

เสวนา อยู่เย็นเป็นสุข

"ทำไมเราไม่ออกแบบระบอบการปกครองของเราเอง เพื่อให้เราอยู่รอด นั่นเขาเรียกว่าอยู่เป็น ไม่ใช่ไปตาย ไม่ใช่ออกไปฆ่ากันโดยไร้เหตุ แล้วคุณก็อ้างว่าชนชั้นปกครองรังแกคุณ แต่คุณก็พยายามบิดวาทกรรมอยู่ไม่เป็น พวกคุณต้องไปประเมินคนไทยใหม่"

นางหฤทัย กล่าวว่า ฝากสื่อไปบอกเขาด้วย คนไทยอยู่เป็นอยู่รอดมาได้ ประเทศไทยมีความร่มเย็น ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แผ่นดินของเราแสนอุดมสมบูรณ์ ด้วยอานุภาพพ่อขุนรามคำแหงค้ำจุน ให้ชาติไทยไพศาล ไม่อย่างนั้นตระกูลของคุณจะร่ำรวยอย่างนี้มาได้อย่างไร

"ประเทศไทยอยู่ได้ทุกวันนี้จะสงบสุขได้ไง ถ้ามันเป็นสิ่งที่เลวร้าย" นางหฤทัยกล่าว


'เดียร์' อัดความคิดบิดเบี้ยว สร้างอคติ

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ส่วนตัวชอบคำว่าอยู่เย็นเป็นสุข เพราะมันไม่ใช่คำว่า 'อยู่ไม่เป็น' และมันก็ไม่ใช่คำว่า 'อยู่เป็น' ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ประชาชนคนไทยจะอยู่ร่วมกันอย่างไรให้อยู่เย็นเป็นสุข

ถ้าหากเราจะคิดโดยที่เอาอัตตาตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างเดียว คงไม่สามารถจะอยู่ร่วมกันอย่างอยู่เย็นเป็นสุขได้

เสวนา อยู่เย็นเป็นสุข

น.ส.วทันยา กล่าวว่า ในโลกยุคปัจจุบันที่ข้อมูลข่าวสารที่เยอะไปหมด บางครั้งเราจะเริ่มมีพฤติกรรมไปเสพข้อมูลในสิ่งที่เราคิดว่าเราชอบ อยู่แล้วเราสบายใจ มีศัพท์ที่เรียกว่า echo chamber ซึ่งหมายถึงว่าเราจะไปอยู่ในบริบทที่เราชอบ แล้วเราก็คิดว่านั่นแหละคือความถูกต้อง คือสิ่งที่ดีงามและเป็นความจริง

พอเป็นแบบนี้สิ่งที่เราต้องตั้งคำถามก็คือ เราจะหาจุดร่วมบนความแตกต่างระหว่างช่วงวัย ความคิดและทัศนคติได้อย่างไร และจะร่วมกันพัฒนาประเทศชาติได้อย่างไร โดยไม่ใช่การผลักไสคนอื่น

"เรามักจะมีข้อยกเว้นให้กับตัวเอง หรือคนรอบข้างอยู่เสมอ เราออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย แต่คนที่คิดต่างหรือคิดไม่เหมือนก็ถูกตราหน้า สาดโคลนว่า คนเหล่านั้นมีความคิดที่ผิด มีความคิดที่แปลกแยก"

น.ส.วทันยา ย้ำว่า วันนี้เราตีตราคนอื่นไปแล้ว ในขณะที่ตัวเราเองมักมีข้อแม้ หรือมีข้อยกเว้นให้กับตัวเองอยู่เสมอ

"หลายๆ ครั้งมันกำลังจะก่อให้เกิดความคิดที่บิดเบี้ยว ความคิดที่มันกำลังจะสร้างอคติขึ้นมาไม่รู้ตัว แล้วสุดท้ายความคิดเหล่านั้น มันเป็นภัยที่กลับมาทำร้ายตัวเราเอง ประเทศเราเอง ยกตัวอย่าง ฮ่องกง ปัจจุบันหลายท่านคงได้เห็นสภาพไปแล้ว ว่า มันเกิดอะไรขึ้นจากการต่อสู้ ที่คิดว่าต่อสู้บนอุดมการณ์ แต่เป็นอุดมการณ์ที่ฉันถูกอย่างเดียว แล้วคนอื่นที่เห็นต่างคือผิดหมด" น.ส.วทันยา กล่าว


'ศรีสุวรรณ' ลั่น 'ธนาธร' ล็อบบี้ 100 คน ผู้มีอิทธิพล
ยกมาดามเดียร์เป็นนักการเมืองตัวอย่าง

นายศรีสุวรรณ ตั้งคำถามถึงกรณีนิตยสาร TIME เปิดเผยรายชื่อ 100 ดาวรุ่งผู้ทรงอิทธิพล ปรากฎว่ามีชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในโหมดผู้นำด้วย ว่า มีนอมินีไปช่วยหรือทำอะไรหรือเปล่า เพราะคนประเภทนี้เชื่อได้ยาก

"คนประเภทคิดอะไร ทำอะไร แล้วต้องได้ เหมือนกับท่าน ผบ.ทบ. เคยพูดไว้ พวกฮ่องเต้ซินโดรม คือถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ใครไปขัดใจมันไม่ได้ อ้างประชาธิปไตย ภราดรภาพ แล้วทำไมลูกพรรคลาออกกันหมด นั่นแปลว่าคุณไม่ได้เป็นประชาธิปไตย แต่ใช้เป็น motto ในการปลุกระดม เพราะฉะนั้น สังคมมันจะอยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างไร เมื่อพวกคุณอยู่ไม่สุข ผมก็ต้องติดตามเกาะติด ว่าคุณทำอะไรบ้าง อย่าเพลี่ยงพล้ำละกัน"

เสวนา อยู่เย็นเป็นสุข

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มีผู้ถามว่าทำไมไม่ตรวจสอบ คุณเดียร์ ตนก็ตรวจไม่ใช่ไม่ตรวจ แต่ดูแล้วไม่มีความผิด

"คุณเดียร์แม้ว่าเขาเป็นเจ้าของสื่อก็เป็นไปสิ ในเฟซบุ๊กผม ส่งข้อมูลมาให้ผมเยอะมาก ทำไมคุณศรีสุวรรณไม่ตรวจสอบคุณเดียร์ด้วย ผมก็ตรวจ ไม่ใช่ผมไม่ตรวจ แต่ผมได้ข้อมูลมาแล้ว ผมต้องเช็คก่อน ตรวจดูแล้วมันไม่มี แต่ในเฟกนิวส์ใส่ว่า ศรีสุวรรณสองมาตรฐาน ก็คนเขาเคลียร์เรียบร้อย สะอาดบริสุทธิ์แล้ว นักการเมืองแบบนี้สิ ควรสนับสนุน ไม่ใช่เข้ามาแล้ว ลืมว่าไม่ได้โอนหุ้นของสื่อ แล้วบอกสังคมว่าโอนไปแล้ว 20 พ.ย. ก็ไปลุ้นกันเอาเอง"

"ผมยืนยันว่า นักการเมืองที่ออกมาเคลื่อนไหวตอนนี้ คือนักการเมืองอยากเป็นรัฐบาล ไม่ได้ดำเนินตามประชาธิปไตย ตามหน้าที่...ผมกลัวว่าจะซับน้ำตาไม่ไหว วันที่ 20 พ.ย." นายศรีสุวรรณกล่าว