แพร่สะพัดหลายโผ จนใกล้จะแน่ชัดแล้วว่ารัฐบาลใหม่ ที่มี ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกรัฐมนตรี จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่เป็น ‘พลเรือน’ เหลือแต่เพียงขั้นตอนการตรวจสอบจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก่อนนำทูลเกล้าฯ ให้มีการโปรดเกล้าฯ และประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ก็จะเป็นความแน่นอน 100%
เรากำลังพูดถึง ‘สุทิน คลังแสง’ ผู้แทนติดดินจากเมืองมหาสารคาม สส.ภาคอีสานมืออภิปรายจากพรรคเพื่อไทย ผู้เป็นแรงบันดาลใจทางการเมืองในด้านการอภิปรายในสภาของนักการเมืองรุ่นใหม่หลายคนในช่วงเวลาหนึ่ง กับการเข้าใกล้การเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงครั้งแรกในชีวิตของเขา เล่นเอาฮือฮาทั้งแผ่นดิน เพราะกระทรวงที่เขาจะนั่งคุม เป็นกระทรวงสำคัญด้านความมั่นคง หลายคนมองว่าเป็นแดนสนธยาแห่งหนึ่งของระบบราชการแห่งราชอาณาจักรไทย นั่นคือ “กระทรวงกลาโหม”
ทำไมต้องเป็น “สุทิน”
หลายคนต่างคาดเดาว่า เหตุใดพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถึงได้หยิบยกชื่อนี้ขึ้นมาพิจารณาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญดังกล่าว อะไรคือความเหมาะสม?
คำตอบที่ปรากฎจากปากเศรษฐาในการให้สัมภาษณ์สื่อคือ “คุณสุทิน เป็นผู้อาวุโส เป็น ส.ส.หลายสมัย เท่าที่รู้จักเป็นคนให้เกียรติคน เชื่อว่าการประสานงานกับกองทัพจะเป็นไปได้ด้วยดี และตัวผมเองก็จะมาช่วยดูตรงนี้ด้วย ต้องให้แน่ใจว่า ทุกๆ สถาบันได้รับการดูแล ได้รับการเอาใจใส่พูดคุยอย่างเหมาะสม และสมฐานะ"
ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวของพรรคเพื่อไทย ที่ลงในสื่อหลายสำนักต่างลงเหตุผลที่ตรงกันว่า เหตุผลที่ต้องให้ ‘คลังแสงสารคาม’ มาคุมกลาโหม ก็ด้วยเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยต้องการดำเนินนโยบายเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหารมาเป็นแบบสมัครใจ และบูรณาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาให้มาช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรซึ่งเป็นกระดูกสันหลังหลักของชาติ
แต่ทั้งนี้ก็มิใช่ว่าจะไม่มี ‘กระแสค้าน’ การดำรงตำแหน่งนี้ของสุทินในอนาคตอันใกล้ ผู้สื่อข่าวสายทหารบางรายผ่านหูมาว่า ‘นายทหารหลายรายในกองทัพ’ ไม่ประทับใจกับเจ้ากระทรวงคนใหม่สักเท่าไหร่นัก เพราะพวกเขามองว่าเป็น ‘คนนอก’ และ ‘ไม่มีความผูกพันกับกองทัพ’ จะมาคุมเหล่าทหารหาญทุกเหล่าทัพได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องให้เวลาและผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัฐมนตรีคนใหม่จะสามารถทำให้กองทัพไทยกลับมาเป็นที่น่าภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติได้อีกครั้งหรือไม่?
ครั้งแรกประวัติศาสตร์ชาติ ‘พลเรือนที่ไม่ใช่นายกฯ’ คุมกระทรวงกลาโหม
หากเราไล่ดูประวัติศาสตร์ของกระทรวงนี้ตั้งแต่ก่อตั้งในปี พ.ศ.2430 หรือเมื่อ 136 ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งผ่านการเปลี่ยนแปลงต่างๆนานามาจนถึงปัจจุบัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่กระทรวงนี้จะมี ‘พลเรือน’ เป็นเจ้ากระทรวง แต่พลเรือนทุกคนที่เป็นเจ้ากระทรวงนี้ต่างเป็น ‘นายกรัฐมนตรี’ ที่นั่งควบกระทรวงกลาโหมทั้งนั้น ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าหาก ‘สุทิน คลังแสง’ ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในรอบนี้ จะถือว่าเป็น ‘พลเรือนคนแรก’ ประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีและดำรงตำแหน่งนี้
สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น ส่วนที่ดูเหมือนค่อนช้างชัดเจนก็คือ ปรับระบบเกณฑ์ทหารเป็นระบบสมัครใจ และเพื่อไทยยังชูนโยบายกว้างๆ ด้วยว่า จะทำให้กองทัพมีความ 'เป็นมืออาชีพ' 'ทันสมัย ซึ่งนั่นยังต้องติดตามว่าจะหมายถึงอะไร และเป็นไปได้มากเพียงไหน
‘คลังแสงสารคาม’ จะฝ่าด่านเหล่า ‘นายพลบ่าแข็ง’ เปลี่ยนแปลงกองทัพให้เท่าทันโลก ล้างภาพแดนสนธยา-ประชาชนตรวจสอบและจับต้องได้หรือไม่?
โปรดติดตามด้วยใจระทึก!!