ต่างประเทศ
อัยการญี่ปุ่นส่งฟ้องมือลอบฆ่า ‘อาเบะ’ ตั้งข้อหาฆาตกรรม-ละเมิดกฎหมายอาวุธปืน
“ข้อหาฆาตกรรมและละเมิดกฎหมายควบคุมอาวุธปืน จากการยิงอดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ” ถูกฟ้องโดยสำนักอัยการในสำนวนคดีต่อมือปืนอย่าง เทตสึยะ ยามากามิ ทั้งนี้ ศาลประจำจังหวัดนารายืนยันว่า ศาลได้รับสำนวนฟ้องจากสำนักอัยการแล้ว
ปัจจุบันนี้ ยามากามิอยู่ระหว่างการประเมินทางจิตเวชในจังหวัดนารา ตั้งแต่เขาถูกจับกุมเมื่อเดือน ก.ค. 2565 ในสถานที่ก่อเหตุสังหารอาเบะ เพื่อตัดสินว่าเขามีสภาพจิตใจพร้อมที่จะเข้ารับการพิจารณาคดีหรือไม่ โดยสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นรายงานว่า การประเมินระยะเวลาการควบคุมตัวของเขาสิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา (10 ม.ค.)
อาเบะถูกยามากิมิยิงด้วยกระสุน 2 นัดเข้าที่บริเวณลำคอและหน้าอก ขณะการปราศัยหาเสียงการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2565 โดยหลังจากการลงมือยิงอดีตนายกรัฐมนตรีด้วยวัตถุลักษณะคล้ายอาวุธประดิษฐ์ ยามากามิไม่ได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ แต่เขายืนอยู่กับที่จนถูกจับกุมตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน
ทั้งนี้ ยามากามิยอมรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เขาเป็นผู้ลงมือยิงสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลว่าเขาเชื่อว่าอาเบะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งแม่ของเขาเองเข้าไปเป็นสมาชิก ก่อนที่เธอจะถูก “ล้างสมอง” และบริจาคเงินจนครอบครัวของยามากามิล้มละลาย ยามากามิยังระบุอีกว่า การสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ “ไม่ได้เกี่ยวกับความไม่พอใจต่อความเชื่อทางการเมืองของอาเบะ”
อาเบะ ซึ่งเสียชีวิตในวัย 67 ปี เป็นอดีตหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของญี่ปุ่น และเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดของประเทศ เขาเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2549 ถึง 2550 และอีกครั้งในปี 2555 ถึง 2563 ก่อนที่อาเบะจะลาออกจากตำแหน่งด้วยปัญหาสุขภาพ โดยถึงแม้ว่าอาเบะจะลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค LDP แล้วก็ตาม แต่เขายังคงมีบทบาทสำคัญภายในพรรคจนกระทั่งเสียชีวิต
อาเบะเป็นนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นที่มีอุดมการณ์อนุรักษนิยม และสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ของประเทศ เพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถยกระดับกองทัพของตัวเองได้อีกครั้ง หลังจากที่ญี่ปุ่นมีเพียงแค่กองกำลังป้องกันตนเองนับตั้งแต่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อาเบะยังมีบทบาทที่ท้าทายจีนในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และการเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของโลกตะวันตกอีกด้วย
ที่มา:
