วันที่ 27 มี.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นำโดย รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และ กรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมกันแถลงข่าวประจำสัปดาห์
กรุณพล กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 14 พ.ค. ว่า พรรคก้าวไกลมีความกังวลในเรื่องของในการเลือกตั้งนอกเขต และนอกราชอาณาจักร เพราะการเลือกตั้งแบบนี้จำเป็นต้องมีการลงทะเบียนก่อน ซึ่งหลายคนไม่ทราบ และภาครัฐ รวมถึง กกต.ไม่ได้ประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูล รวมถึงการเข้าถึงการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ที่ไม่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และในวันแรกที่เปิดลงทะเบียนเว็บไซต์ก็ล่ม
จึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐและ กกต.ประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น ให้ประชาชนได้เข้าถึง ตามหน้าที่ของ กกต. ที่ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ทุกวันนี้ประชาชนยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของ กกต.ที่จะรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้งที่โปร่งใสและยุติธรรมได้เลย
สำหรับความคืบหน้าในการทำไพรมารีโหวต ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลมีความพร้อมครบทั้ง 77 จังหวัด เหลือจังหวัดเดียว คาดเสร็จก่อนสิ้นเดือน พร้อมลงเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 2 แบบ ก่อนวันประกาศเลือกตั้งและรับสมัครแน่นอน
กรุณพล ยังระบุว่า ใกล้ช่วงเกณฑ์ทหาร ประชาชนไม่รู้สึกยินดี เพราะเป็นการดึงเอาความเยาว์วัย ความใฝ่ฝัน และถูกบังคับให้เข้าไปใช้แรงงานถึง 2 ปี พรรคก้าวไกลยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบนี้ได้ในตอนนี้ แต่คาดหวังว่าหากได้เป็นรัฐบาล จะสามารถทำให้เป็นจริงได้ พร้อมเรียกร้องให้ทุกเหล่าทัพคำนึงถึงสิทธิและข้อจำกัดด้านเสรีภาพของคนไทย สร้างความปลอดภัยจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนผ่านกลไกการร้องทุกข์ แก้ไข พ.ร.บ.วินัยทหาร สร้างความมั่นคงด้านรายได้ที่เหมาะสม
ด้าน รังสิมันต์ โรม เผยความคืบหน้าของกรณี อุปกิต ปาจรียางกูร หรือ 'ส.ว.ทรงเอ' มีรายงานล่าสุดว่า ส.ว.ทรงเอ ได้มีการดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.มานะพงศ์ วงศ์พิวัฒน์ ที่พยายามดำเนินคดีกับ ส.ว.อุปกิต ตามกฎหมาย โดยกล่าวหาว่า พ.ต.ท.มานะพงศ์ ใช้เอกสารหลักฐานที่แปลความเป็นเท็จ และได้ขอหมายจับต่อศาลด้วย
รังสิมันต์ ตั้งคำถามว่า ส.ว.อุปกิต ทราบได้อย่างไรว่า เอกสารที่ พ.ต.ท.มานะพงศ์ ไปยื่นต่อศาลมีเอกสารใดบ้าง เพราะปกติคนที่จะรู้มีเพียงตำรวจที่ไปยื่น และตัวศาลเองเท่านั้น เท่ากับเป็นการยืนยันว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง คอยบงการและให้ความช่วยเหลือ ส.ว. ทรงเอ อยู่จริง
"ตำรวจน้ำดีที่พยายามปิดคดีนี้กลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดีเสียเอง สิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นเลย หากวันนั้นไม่มีการถอนหมายจับ ส.ว.อุปกิต และต่อไปอาจไม่มีตำรวจน้ำดีกล้าดำเนินคดีลักษณะนี้อีก"
ทั้งนี้ รังสิมันต์ เชื่อว่า พ.ต.ท.มานะพงศ์ สามารถสู้คดีได้อยู่แล้ว เพราะการทำหน้าที่ด้วยเจตนาบริสุทธิ์จะเป็นเกราะป้องกันตัวเขาเอง แต่ทางศาลจะช่วยเหลือได้อย่างไร ตนคิดว่าศาลควรออกมาชี้แจงเลยว่า ใครเป็นผู้นำข้อมูลลับไปเผยต่อ ส.ว. ทรงเอ สำหรับข้อมูลของทางอัยการ สิ้นเดือนนี้จะเริ่มมีความชัดเจน อย่าปล่อยให้คดีนี้เงียบหายไป ที่ผ่านมาคดีดังถูกลืมเลือนมาตลอด ไม่อยากให้คดีนี้เป็นเช่นนั้นเด็ดขาด
รังสิมันต์ ยังเน้นย้ำว่า พยานหลักฐานจำนวนมากเป็นหลักฐานข้อความแชท เป็นภาษาอังกฤษซึ่งสามารถแปลได้ไม่ยากอะไร และยังมีภาษาไทยด้วย การอ้างว่าแปลผิดไม่ใช่สาระสำคัญที่จะทำให้ข้อเท็จจริง ว่า ส.ว.ทรงเอ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และการฟอกเงินหายไปแต่อย่างใด ยืนยันว่าสามารถดำเนินคดีและออกหมายจับกับ ส.ว.ทรงเอได้ หวังว่าความยุติธรรมของบ้านเมืองนี้จะมีอยู่จริง