นางสิรินทร รามสูต ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านมาตรการ ชิมช้อปใช้ ที่รัฐบาลประกาศประสบความสำเร็จก็ยอมรับว่ามีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจบ้าง หากคิดเป็น 100 เปอร์เซ็นก็แค่ 2 เปอร์เซ็นเท่านั้น เปรียบเหมือนน้ำกระเพื่อมเมื่อขว้างหินลงไปในทะเล ประชาขนไม่รู้สึกถึงการดีขึ้นของเศรษฐกิจประเทศ เพราะเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อไปที่ชนชั้นกลางเป็นการเลือกปฏิบัติ ในขณะที่ประชาชนชาวรากหญ้าหรือคนในชนบทที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี ไม่ได้รับประโยชน์
ทั้งนี้ ชนชั้นกลางหรือคนวัยทำงานก็เที่ยวประจำอยู่แล้ว แม้ไม่มีมาตรการนี้ออกมา คนเหล่านี้ก็เที่ยวก็ใช้เงิน ดังนั้นผลที่ออกมาก็คือไม่ช่วยอะไรเลย เป็นการเอางบประมาณหลายหมื่นล้านมาสร้างกระแสสร้างความนิยมให้รัฐบาลเท่านั้น เป็นแค่มาตรการระยะสั้น แต่ปัญหาคือเศรษฐกิจไทยในภาพรวมยังคงไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมากนัก คนในรากหญ้าหรือประชาชนในพื้นที่ชนบทยังคงยากลำบากเช่นเดิม
นางสิรินทร กล่าวด้วยว่า ภาพคนที่ไปใช้จ่ายเงินในมาตรการส่วนใหญ่เป็นห้างสรรพสินค้าในเครือของนายทุนหรือเจ้าสัวที่ใกล้ชิดรัฐบาล แต่ร้านค้าตามแหล่งชุมชน หรือร้านค้าในพื้นที่ต่างจังหวัดกลับไม่ได้รับโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ ดังนั้นการกระตุ้นด้วยมาตรการดังกล่าวจึงเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ทั่วถึงไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการรายย่อย
"รัฐบาลหวังว่าประชาชนที่มาลงทะเบียนในมาตรการชิมช้อปใช้ จะเป็นฐานเสียงให้กับรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า เท่ากับว่ารัฐบาลเอาภาษีประชาชนมาเป็นผลประโยชน์ทางการเมืองมากให้กับรัฐบาล เป็นการคิดผิดมากๆ เพราะชนชั้นกลางที่เข้าถึงข้อมูลไม่มีทางที่จะหลงกลรัฐบาลอย่างแน่นอน" ส.ส.เพื่อไทย กล่าว
อ่านเพิ่มเติม