เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 9 ก.ย. 2566 ที่จุดด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่1 จ.หนองคาย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมศุลกากร ตัวแทนภาคธุรกิจและเอกชนในจังหวัดหนองคาย ขณะเดียวกัน ยังมี ชนก จันทาทอง และเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟังด้วย

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เป็นเกียรติที่มาจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดแรก มาเพื่อมารับฟังข้อมูลเพื่อประกอบการจัดทำนโยบายของรัฐบาลของประชาชน แม้จังหวัดหนองคายจะเป็นจังหวัดเล็กแต่ก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นอันดับที่สี่ของภาคอีสาน และเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการค้าบริเวณชายแดน พร้อมอยากผลักดัน One Stop Service ให้เปิดบริการ 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับฟังข้อเสนอของตัวแทนภาคเอกชนของจังหวัดหนองคาย โดยประธานสภาหอการค้าจังหวัดหนองคาย ระบุอยากให้เร่งรัดสร้างสะพานรถไฟ โดยให้เสร็จภายในปี 2572 พร้อมขอให้ทำศูนย์ Business Center เนื่องจากเคยหารือกับสภาหอการค้าแล้วก็เห็นด้วย เพราะประเทศไทยยังไม่มีศูนย์ดังกล่าวเพื่อทำการค้าและการส่งออก รวมทั้งขอให้ยกฐานะมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ให้เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ และอยากให้มหาวิทยาลัยมีคณะเกี่ยวกับวิศวกรรมของรถไฟฟ้าความเร็วสูงด้วย เพื่อส่งเสริมแรงงานให้มีเศรษฐกิจในอนาคต รวมทั้งขอให้ผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดหนองคาย

ด้าน ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย ขอเรียนเชิญนายกฯ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ งานบั้งไฟพญานาค ที่จะจัดงานในวันที่ 29 ต.ค. 2566 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องการศึกษาเรื่องยกฐานะของมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้น ตนเห็นด้วย ในการพัฒนาหลักสูตรเพื่อมารองรับงานในอนาคต เพื่อรองรับอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ตนจะรับไว้พิจารณา ส่วนการทำสะพานรถไฟในโครงการเร่งด่วน ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและปลัดกระทรวงคมนาคมได้รับทราบอยู่แล้ว โดยถ้าเกิดทำจะต้องให้ดีกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ให้มียุทธศาสตร์การเปิดประเทศ โดยจะดูที่ประเทศไทยอย่างเดียวไม่ได้เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก ขณะเดียวกัน สปป.ลาว เป็นประเทศที่เป็นทางผ่านสินค้าไปสู่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน ที่มีกำลังซื้อมหาศาล ยืนยันรัฐบาลของประชาชนให้ความสำคัญการค้า ความสงบ โดยเดือนหน้ารัฐบาลและนักธุรกิจจะเดินทางไปประเทศจีน เพื่อหารือเรื่อง one stop service เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลของประชาชนยืนยันให้ความสำคัญในการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสำคัญในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)นัดแรกจะพิจารณาเรื่องวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีนด้วย โดยวันนี้ รมว.วัฒนธรรมเดินทางมาด้วย ท่านมีความรู้เข้าใจวัฒนธรรมภาคอีสานดี และไม่อยากให้จ.หนองคายเป็นเพียงเมืองผ่านเท่านั้น ซี่งอยากให้ จ.หนองคายมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยอะๆ ส่วนงานบั้งไฟพญานาค ถ้าตนมาได้ก็จะเดินทางมางานดังกล่าวด้วย และหากมางานบั้งไฟพญานาคอีก ตนก็จะมาติดตามความคืบหน้าของการพัฒนาในเรื่องต่างๆ ด้วย ต้องการเป็นรัฐบาลสนับสนุนภาคเอกชนภายใต้กรอบการทำงานที่มีธรรมาภิบาล