ไม่พบผลการค้นหา
'ณัฐวุฒิ' ชี้ 'ประยุทธ์' ทุจริตต่อความจริง หลังมีท่าทีมั่นใจรอดคำวินิจฉัยศาล รธน. ปมวาระ 8 ปี แนะ 'ประวิตร' ไถ่บาปประชาชน แก้ปัญหายาเสพติด หลังยาเสพติดแพร่กระจายเข้าสู่ครัวเรือน

วันที่ 5 ก.ย. 2565 ที่พรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวถึงระยะเวลาระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในช่วงเวลาที่ประชาชนรอบทสรุปทั้งวาระ 8 ปี หรือความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลขนาดย่อมเช่นการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ เช่น การพ้นอำนาจของรัฐบาลชุดนี้ 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนอยากจะสื่อสารตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเนติบริกร หรือลิ่วล้อที่เคยช่วยเหลือว่า ประเมินจากอาการของพล.อ.ประยุทธ์ ดูเหมือนจะมั่นใจว่าจะรอดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรคงต้องรอวันนั้น แต่ตนมั่นใจอย่างยิ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ ครบ 8 ปีแล้ว ไม่มีข้ออ้างอย่างอื่น ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ที่จะละเมิดความจริงนี้ได้ ถ้าเจตนารมณ์คนร่างกฎหมาย และความตั้งใจเดียวกันของคนทั้งประเทศตรงกัน 

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อท่านเป็นผู้ใช้อำนาจให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเหมาะควรที่จะแสดงสปิริตตัดสินใจให้เป็นแบบอย่าง เคารพต่อกฎหมายที่ตัวเองแต่งตั้ง หรือคณะร่างรัฐธรรมนูญที่ตนแต่งตั้งขึ้นมา แต่สิ่งที่เป็นอยู่คือการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้าใช่หรือไม่ที่บอกว่า กฎหมาย และเจตนารมณ์ใช้กับคนไทยทุกคน ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทุจริตต่อแผ่นดิน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังทุจริตต่อความจริง นั่นหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมที่จะทุจริตต่อทุกสิ่งเพื่ออำนาจของตัวเอง" ณัฐวุฒิ กล่าว 

ณัฐวุฒิ ยังได้เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจอย่าง นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ตัดสินใจลาออก และกล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรที่จะพิจารณาแล้วตัดสินใจ ประเทศไทยอยู่ได้แน่ๆ โดยไม่มีท่าน แต่ท่านแสดงออกว่าอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอำนาจ ซึ่งรังแต่จะมีความเสียหาย 

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ลงพื้นที่ด้วยท่าทีมีความแข็งแรงอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งตนขอเรียนว่า ในฐานะรักษาการนายกฯ ถ้าจะแก้ปัญหาอะไรก็ทำเถอะ เพราะปัญหาของประชาชนมันสำคัญ การวางแผนลงพื้นที่สัปดาห์ละครั้งตนไม่ขัดข้อง 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า หาก พล.อ.ประวิตร ต้องการสร้างความแตกต่างจากเวลา 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น พล.อ.ประวิตร ต้องจัดการปัญหายาเสพติด ซึ่งไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าการแก้ไขปัญหาอื่นๆ โดย 8 ปีที่ผ่านมานั้น นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกู้เงินทะลุเพดานหนี้ และยังทำให้ยาเสพติดทะลุหลังคาเรือน 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปี 2564 ประเทศไทยถูกมองจากสายตาชาวโลกว่าแทบจะเป็นประเทศส่งออกยาเสพติดโลก ซึ่งจากการจับกุมได้อย่างน้อย 9 ครั้ง ถูกส่งออไปยังประเทศออสเตรเลีย ฮ่องกง ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ซึ่งมีมูลค่ากว่าแสนล้านบาท และตนยังเชื่อว่าที่จับไม่ได้มีมากกว่าที่จับได้ 

หากเอาเฉพาะ 13 วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกศาลสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ตนอยากจะชี้ให้เห็นเพื่อกระชากสติของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่บริหารงานภายใต้ 'เลือกความสงบจบที่ลุงตู่' และในตอนรัฐประหารบอกว่า เพื่อระงับเหตุไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง แต่ปัญหายาเสพติดที่ตนยกมาชี้แจงทำให้ฆ่ากันในครอบครัวสายเลือด ซึ่งสถาบันครอบครัวคือหน่วยย่อยที่สำคัญที่สุด บ้านที่มีการฆ่ากัน ไม่ได้มีแค่เหตุผู้เสียชีวิต แต่เป็นการพังทลายลงของทั้งครอบครัว และไม่มีศักยภาพของรัฐบาลมาแก้ปัญหา ตนจึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไถ่บาปประชาชน เพราะสินค้าแพงขึ้น มีแต่ยาเสพติดที่ราคาลดลง

"ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ เด็กชูสามนิ้ว แต่ปัญหาอยู่ที่เด็กชู 5 นิ้ว นั่นคือ ยาบ้า 5 เม็ดร้อย ยาอี 5 จีพัน พล.อ.ประยุทธ์ พักงานมาแล้วสิบกว่าวัน เวลาว่างคงมากขึ้น ท่านนั่งดูข่าวโทรทัศน์ได้อย่างไร และ 8 ปีที่ผ่านมา จะอธิบายกับคนไทยอย่างไรว่าอำนาจที่ถืออยู่ในคสช. เกือบ 5 ปี และอำนาจที่แต่งตัวผ่านการเลือกตั้งทำให้บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ วันนี้เรื่องยาเสพติดเป็นวิกฤตร้ายแรงแล้ว และพล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีปัญญา และรูปธรรมในการเข้ามากอบกู้แก้ไข" ณัฐวุฒิ กล่าว 

ณัฐวุฒิ เสริมว่า ตนจะไม่ตั้งความหวังกับ พล.อ.ประวิตร แต่ พล.อ.ประวิตร ต้องทำ ซึ่งจะเพิกเฉยมองข้ามไม่ได้ การเลือกตั้งสมัยหน้าจะเสนอตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นรักษาการนายกฯ ต้องทำสิ่งนี้ อย่าให้ประชาชนคิดว่า ข้อดีของ พล.อ.ประยุทธ์ พักงาน คือ ทำให้ พล.อ.ประวิตร แข็งแรงขึ้น ต้องทำให้ประชาชนคิดว่า พล.อ.ประวิตร มีศักยภาพเยอะกว่า อย่างน้อยทำให้คนในพรรคได้แลเห็น

เพื่อไทย เชียงใหม่ ครอบครัวเพื่อไทย -9C66-4F72-90C4-F68741AA768D.jpeg