ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วาระ 2-3 ว่า เบื้องต้นได้มีการกำหนดวันประชุมไว้ 2 วัน คือวันที่ 16-17 ก.ย. 2563 แต่หากไม่เสร็จสามารถขยายต่อไปได้อีก 1 วัน ซึ่งต้องรอดูการพิจารณาในวันนี้ว่าจะสามารถพิจารณาไปได้เท่าไหร่ เพราะในแต่ละมาตรามีสมาชิกหลายคนได้สงวดความเห็นและขอแปรญัตติไว้จำนวนมาก

ทั้งนี้ ชวน ยอมรับว่าเหตุที่อาจจะทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าออกไปนั้นไม่ใช่ความผิดของสำนักงบประมาณ เพราะสำนักงบประมาณได้มีการเสนอมาตามปฏิทินของงบประมาณ แต่เป็นเพราะตนเองที่เป็นคนขอขยายเวลาการบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระเพื่อให้สมาชิกได้มีเวลาในการศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มขึ้น

“อันนี้เป็นความจริงว่าไม่ใช่เป็นความผิดของสำนักงบประมาณ เป็นเรื่องที่สภายืดเวลาให้สมาชิกได้มีโอกาสตรวจสอบ ดูเอกสาร ที่มีอยู่หลายเล่มในเวลาที่เหมาะสม พูดง่ายๆ คือขยายเวลา อันนี้ต้องถือว่าสำนักงบประมาณเขาทำหน้าที่ถูกต้องแล้ว แต่วันที่ขอบรรจุ ผมเห็นว่าเวลามันกระชั้นชิดไป เกรงว่าสมาชิกจะมีเวลาดูไม่ทัน จึงขยายเวลาออกไป” ชวน กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ชวน เชื่อว่าขณะนี้ยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เพราะงบประมาณปี 2564 หากสภาพิจารณาเสร็จวันที่ 18 ก.ย. 2563 จากนั้นวุฒิสภาก็พิจารณาต่อ และคาดว่าจะเสร็จทันก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2563 ส่วนการพิจารณาในปีถัดไปอาจจะต้องขอให้สำนักงบประมาณจัดส่งเร็วขึ้น

ชวน ยังกล่าวถึงกรณี ไพบูลย์ นิติบัญญัติ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คัดค้าน 4 ญัตติของฝ่ายค้านและจะเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ายังไม่ทราบ รายละเอียด แต่เห็นว่าเป็นคนละเรื่องซึ่งการเสนอชื่อไม่ได้ซ้ำกัน

ส่วนกรณีที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยคัดค้านทุกญัตติที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ได้ทำประชามติตามมาตรา 77 วรรค 2 นั้น ชวน กล่าวว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว แต่กระบวนการเสนอแก้ไขเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

'สุทิน' เตรียมขอขยายเวลาพิจารณางบ 64 เพิ่ม

สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วาระที่ 2-3 ว่า ฝ่ายค้านมีผู้อภิปราย 75 คน แต่ละคนอภิปรายได้หลายมาตรา มาตราละ 7 นาทีต่อคน ดังนั้นการพิจารณางบเพียง 3 วัน อาจไม่เพียงพอ เพราะควรให้เวลา ส.ส.ทำงานเต็มที่ จึงไม่แน่ใจว่าจะจบภายในวันที่ 18 ก.ย. หรือไม่ โดยจะเเจ้งประธานสภาฯ ต่อไป

ส่วนที่หลายฝ่ายโทษว่าสภา เป็นต้นเหตุทำให้การเบิกจ่ายงบล่าช้ากว่ากำหนดนั้น สุทิน ยืนยันว่าไม่ใช่ ถ้าช้าก็ช้าที่รัฐบาลเสนอมา และหากฝ่ายค้านขอเพิ่มอภิปรายอีก 1 วัน คงไม่เกิดความเสียหาย และจะทำให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรอบคอบ แต่ถ้าบริหารเวลาได้ ก็คงอยู่ในกรอบที่กำหนด

ส่วนกรณีหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทคัดค้านการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกญัตติ เนื่องจากไม่ผ่านการรับฟังความเห็นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 วรรค 2 นั้น นายสุทิน ให้ความเห็นว่า การแก้รัฐธรรมนูญต่างจากการเสนอร่างกฎหมายทั่วไป รวมถึงต้องมีการทำประชามติ จึงตีความเจตนารมณ์ว่าไม่จำเป็นต้องรับฟังความเห็นตามมาตรา 77 วรรค 2

'จุรินทร์' มั่นใจ พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ ไร้ปัญหา 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการประชุมงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 วาระ 2 และ 3 ในวันนี้ ว่า ในส่วนของประชาธิปัตย์มีการเตรียมการของผู้ที่สงวนคำแปลญัตติที่จะอภิปราย โดยจะอภิปรายสั้น กระชับ เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน และไม่กังวลว่าจะมีการตีรวนประเด็นรัฐบาลถังแตก ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปแล้ว และความล่าช้าการจัดทำงบประมาณ 2564 เกิดจากสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้มีการปรับเปลี่ยนงบประมาณบางส่วน เช่นงบจัดซื้อคุรุภัณฑ์ ขณะนี้ทุกฝ่ายทราบดีถึงข้อจำกัด ควรจะช่วยกันเร่งรัด พร้อมยืนยันพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีปัญหา สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณอยู่แล้ว 

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าพรรคมีมติ ให้ลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคร่วมรัฐบาลในมาตรา 256 และจัดตั้ง ส.ส.ร. โดยไม่แตะหมวด 1 และ 2 จากสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน เวทีรัฐสภาจะเป็นเวทีที่มีความสำคัญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนว่าต้องการเห็นผลสำริดให้เกิดผลขึ้นจริง ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ จะช่วยให้ประชาชนจำนวนมากสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเห็นถึงความตั้งใจจริงของรัฐสภา ตนจึงได้เสนอให้มีการหารือของวิป 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพราะหากวุฒิสภาและฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย ก็ไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ ซึ่งขณะนี้มีสัญญาณที่ดี เพราะได้รับเสียงตอบรับจากรัฐบาลแล้ว จะช่วยประสานงานกับวิปฝ่ายค้านและวุฒิสภาต่อไป ทุกอย่างก็จะเรียบร้อยและราบรื่น 

ส่วนที่มองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะพิจารณาสัปดาห์หน้า จุรินทร์ ระบุว่า ซึ่งอาจไม่ทันกาลกับการชุมนุมในช่วงสัปดาห์หน้า ส.ส.ประชาธิปัตย์ จะทำหน้าที่ในสภาให้ดีที่สุด เพราะสิ่งที่ตนเสนอและพยายามผลักดันในรัฐบาลถือเป็นหน้าที่หลักของ ส.ส.ที่ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ แสดงให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งใจจริง ให้เเก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ซึ่งวิป 3 ฝ่ายควรรีบหารือกันโดยเร็วที่สุด ถึงจุดร่วม จุดต่าง จุดเหมือน ทางออกร่วมกันบนพื้นฐานแก้รัฐธรรมนูญได้จริงๆ 

ขณะเดียวกันหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธการตอบคำถามถึงพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่ออกมาประกาศจุดยืนไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญและจะโหวตสวนในการประชุมพิจารณาร่าง โดยระบุสั้นๆ ว่า ไม่ขอก้าวล่วง