ไม่พบผลการค้นหา
ครั้งแรกของการแสดงคอนเสิร์ตที่ประเทศไทยสำหรับ 9 หนุ่ม วง SF9 บอยแบนด์จากเกาหลีใต้ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น สนุกสนาน และเต็มไปด้วยความประทับใจ

จบลงไปแล้วสำหรับคอนเสิร์ตใหญ่ 'เอสเอฟไนน์ ไลฟ์ แฟนตาซี #2 ยูนิเซิร์ส อิน แบงคอก' (2019 SF9 LIVE FANTASY #2 UNIXERSE IN BANGKOK) ที่มาจัดในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อเย็นของวันที่ 8 ธ.ค. 62 ที่ผ่านมา ที่หน้าลาน เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ โดย 9 หนุ่ม วง SF9 เป็นศิลปินบอยแบนด์จาก เอฟเอ็นซี เอนเตอร์เทนเม้นต์ (FNC Entertainment) เกาหลีใต้

คอนเสิร์ตเปิดตัวด้วยอินโทรที่สามารถดึงทุกคนในฮอลล์ ก่อนเข้าสู่ความร้อนแรงด้วยเพลง RPM ซิงเกิลใหม่ล่าสุด ซึ่งฉุดให้ใทยแฟนตาซี (FANTASY: ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับของ SF9) ลุกขึ้นโบกแท่งไฟกันอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นเร่งอุณหภูมิให้ร้อนขึ้นอีกระดับกับเพลงจังหวะสนุก Now or Never และต่อด้วยความร้อนแรงในเพลง Fanfare (Dance Ver.) ที่เต้นกันมันหยด ก่อนที่ทั้งหมดจะกล่าวทักทายไทยแฟนตาซีว่า

“ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ เอสเอฟไนน์ ไลฟ์ แฟนตาซี #2 ยูนิเซิร์ส อิน แบงคอก... สวัสดีครับ ผม ยองบิน ครับ” ลีดเดอร์กล่าวต้อนรับทุกคนเข้าสู่คอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ ก่อนสมาชิกคนอื่นจะกล่าวเชิญชวน เช่น ฮวียอง บอกว่า “วันนี้หวังว่าจะเป็นวันที่ได้สนุกร่วมกันนะครับ” ขณะที่ อินซอง ผู้รักอาหารไทยมากบอกว่า “เพิ่งกินต้มยำกุ้งไป คอนดิชันดีมาก ทุกคนพร้อมแล้วใช่ไหมครับ?”

SF9

ด้านแร็ปเปอร์หน้านิ่ง ‘จูโฮ’ กล่าวว่า “กรุงเทพฯ เป็นทัวร์สุดท้ายของพวกเรา มีเพลงเต้นใหม่ๆ ที่เตรียมมาด้วย อยากให้ติดตามกันนะครับ”

ส่วน ‘โรอุน’ หนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ อ้อนว่า “ถ้ามีโอกาสอยากไปเที่ยวเชียงใหม่พร้อมกับเพื่อนๆ ทั้งวงครับ” ‘ฮวียอง’ กับ ‘ชานฮี’ ที่ไปออกรายการ Coffee House บอกว่า “พอได้กลับมาเมืองไทยพร้อมกับเมมเบอร์ทุกคนแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ” ปิดท้ายด้วย ‘ดาวอน’ ที่บอกว่า “รู้สึกดีมากที่ได้มาเจอ แฟนตาซี ชาวไทยครั้งนี้”

หลังจากนั้นหนุ่มๆ ทั้ง 9 คน จัดเต็มด้วยเพลงซึ้ง Midnight Road ที่แฟนๆ ชาวไทยเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ หลังจากนั้นหนุ่มๆ ได้โชว์ท่าเต้นบาดใจ และท่าทางเลียนแบบเสียงนาฬิกา ในเพลง Go Back In Time ก่อนเพิ่มความเซ็กซี่ขึ้นอีกขั้น ด้วยเพลง Sole Mio

และก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อ ‘ยองบิน’ ปรากฏตัวอีกครั้งบนยอดบันได ในเวทีโซโล่เพลง Sic Parvis Magna ที่ได้โปรยเสน่ห์อวดความเซ็กซี่ได้อย่างร้อนแรงสุดๆ ตามติดมาด้วย ‘ดาวอน’ ที่ขอโซโล่ในเพลงสากล Bad Guy ของ Billie Eilish ก่อนเปลี่ยนบรรยากาศไปดื่มด่ำกับคลื่นลมทะเลบนเวทีโซโล่ของ ‘แจยุน’ โดยครั้งนี้หนุ่มหล่อมาอวดพลังเสียงแสนไพเราะในเพลง My Ocean ของ Jeong Sewoon และทำให้สาวๆ ลุ่มหลงด้วยประโยคบอกรัก “ซารังเฮโย”

SF9

ด้านแร็ปเปอร์มาดเข้ม ‘จูโฮ’ โชว์เพลง Champagne ทำเอาสาวๆ ตายเกลื่อนเมื่อจู่ๆ เดินลงมาจากเวทีให้ไทยแฟนตาซีได้ยลโฉมใกล้ๆ หลังจากนั้นขาแร็ปของวงอีกคน ‘ฮวียอง’ เปิดตัวด้วยท่านั่งสุดเท่ กับมาดนักแร็ปขาร็อค มาในเพลง Snow แถมทิ้งท้ายด้วยคำบอกรักภาษาไทย “ผมรักคุณ”

ส่วนราชาขาแด๊นซ์อย่าง ‘แทยัง’ ก็ขึ้นมาวาดลวดลายบนเวทีโซโล่ ในเพลง Trust ซึ่งงานนี้ไม่ได้มาคนเดียว แต่ชวน ‘จูโฮ’ มาเพิ่มดีกรีความร้อนแรง ก่อนปิดท้ายช่วงโซโล่ด้วยเวทีของ ‘ชานฮี’ ที่มาด้วยเพลง Destiny Theory

ทุกช่วงของการแสดง หนุ่มๆ ผลัดเปลี่ยนกันมาบอกความในใจที่มีต่อแฟนคลับชาวไทย จับใจความได้ว่า “อยากมาหาไวๆ อยากเจอ และ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว!” จากนั้นเข้าสู่โชว์ต่อไปด้วยธีมวงแหวนแห่งไฟในเพลง Dreamer และเปลี่ยนไปพบกับความสดใสซาบซ่าน ที่เพลง Jungle Game พาทุกคนไปสนุกกันได้แบบสุดเหวี่ยง เพลงต่อมา Play Hard เพลงที่ทุกคนต้องหยิบบงหรือแท่งไฟขึ้นมาโบกกันตลอดเพลง

SF9

หลังจากสนุกติดต่อกันมาหลายเพลง แวะพักพูดคุยกันบ้าง ‘ยองบิน’ ชมว่า “เสียงเชียร์ของ แฟนตาซีไม่ธรรมดาเลย” , ‘อินซอง’ แซวว่า “สงสัยทุกคนจะทานแตงโมปั่นมา 4 แก้วเหมือนกัน” , ‘จูโฮ’ ถามถึงเวทีโซโล่ว่าเป็นยังไงบ้าง และบอกว่า “เวที Champagne จะเป็นเวทีสุดท้ายของผม เพราะจะเปลี่ยนไปโซโล่เพลงอื่นแทน!” ด้านแจยุน ซึ่งโดน จูโฮ แซวเรื่องความเซ็กซี่ก็ขอแก้ตัวว่า “ตอนแรกอยากจะปล่อยของมากกว่านี้ แต่ก็อั้นไว้ก่อนครับ” ทางด้านดาวอน กับ ชานฮี สลับกันเล่นแพโรดี้ในฉากดังจากซีรีส์อย่าง Sky Castle และ Extra-Ordinary You จน โรอุน ต้องถามแฟนๆ ว่า “ทุกคนสนุกกันอยู่ใช่ไหมครับ ด้านหลังสนุกกันไหมครับ ?”

ต่อด้วยการเข้าสู่ช่วงแห่งเพลงสนุกแบบนันสต็อป เริ่มจากเพลง Round And Round ที่ชวนทุกคนลุกขึ้นมาหมุนไปด้วยกัน ตามมาด้วยเพลงน่ารักๆ Let’s Hang Out และเพลงมันๆ อย่าง Mamma Mia ยังไม่หมด เพราะเพลง Photograph ตามมาติดๆ จนโยกกันสนุกไปทั้งฮอลล์

จบช่วงเต้นมาเน้นพูดคุยกันต่อ ฮวียอง ปากหวานอ้อนแฟนๆ ว่า “เวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากเลยครับ…ขอบคุณมากๆ ครับ” ส่วน ยองบิน บอกว่า “ช่วยลดไฟลงหน่อยครับ มองไม่เห็นแฟนตาซีเลย น่าเสียดายที่นี่จะเป็นการโชว์สุดท้ายแล้ว ถึงจะเสียดายแต่เราก็ผ่านวันนี้มาได้ด้วยดี และจะกลับมากับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม SF9 มีชื่อเสียงในเรื่องไม่มีลิมิตอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนติดตามจนถึงวินาทีสุดท้ายด้วยนะครับ”

SF9

ส่วนโชว์สุดท้ายแฟนๆ ได้กระโดดกันอย่างเต็มที่ในเพลง Unlimited และเต้นให้ยับกับเพลง See U Tomorrow ก่อนปิดท้ายความสนุกด้วยเพลง Life is So Beautiful ทว่าเพลงจบแต่คนยังไม่จบ เหล่าไทยแฟนตาซีตะโกนร้องขออังกอร์ เอสเอฟไนน์ กันอยู่พักใหญ่ ก่อนทั้ง 9 หนุ่มจะส่งน้องๆ อนุบาลกุ๊กไก่ มาเรียกน้ำย่อยผ่าน VCR กันไปพลางๆ ก่อน แล้วในที่สุดหนุ่มๆ ก็กลับมาพร้อมเพลงอังกอร์ที่ขอ Round And Round โดยมีแฟนคลับทั้งฮอลล์ชูป้าย 돌고 돌아 운명처럼 다시 만난 너 ♡내가 항상 여기서 있을게♡ (ราวกับโชคชะตาที่ทำให้กลับมาพบเธออีกครั้ง…ฉันจะอยู่ตรงนี้เสมอ) เป็นกำลังใจให้ตลอดเพลง

ช่วงเปิดใจก่อนจาก โรอุน บอกว่า “เพราะมีทุกคนถึงได้มีพวกเรา เรามาสร้างความทรงจำดีๆ กันต่อเลยนะครับ” แทยัง บอกว่า “มีโอกาสมาแสดงที่สุดท้ายที่กรุงเทพฯ มีความสุขมากๆ จะรีบกลับมานะครับ!” ยองบิน พูดเป็นภาษาไทย “จะคิดถึงเธอนะ” ส่วนชานฮี สารภาพว่า “บรรยากาศแบบนี้คงลืมไม่ลงเลยละ รักนะครับ” ดาวอน มาแหวกแนว “สำหรับผม อาหารไทยอร่อยมากครับ จะมาอีกนะครับ” แจยุน ขอคุยบ้าง “ต่อไปจะกลับมาพร้อมเวทีที่เท่ๆ เอาให้แฟนๆ ตายกันไปเลย!” ปิดท้ายด้วย อินซอง “ขอบคุณที่ทำให้ทัวร์คอนเสิร์ตของเราเปล่งประกายจนถึงเวทีสุดท้าย จะรีบกลับมาพร้อมผลงานใหม่ที่ดีกว่า ผมจะไม่ลืมวันนี้นะครับ ขอบคุณมากนะครับ”

SF9

หลังจากนั้นหนุ่มๆ ทั้ง 9 ร่วมถ่ายรูปกับแฟนๆ เป็นที่ระลึกก่อนจาก และขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนมาโดยตลอด พร้อมกับเพลงพิเศษปิดท้าย Beautiful Light ขณะที่แฟนๆ ก็เตรียมเซอร์ไพรซ์หนุ่มๆ ในเพลงนี้ด้วยการชูป้าย 판타지의 가장 빛나는 별 ‘SF9☆’ 더 밝게 빛나게 해줄게 (ดวงดาวที่ส่องแสงสว่างไสว ที่สุดของแฟนตาซี ‘SF9’ เราจะทำให้ SF9 ส่องแสงสว่างไสวยิ่งขึ้นเองนะ)