เฉลิมพล มาลาคำ หรือ ผู้ใหญ่หำ ศิลปินนักร้อง นักแต่งเพลง เจ้าของฉายา ‘หมอลำอัจฉริยะ’ เปิดใจครั้งแรก ภายหลังอำลาตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่าเจริญ หมู่ที่ 11 ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ส่งมอบงานให้ ภูมินทร์ มาลาคำ หรือ โอ้ ลูกชายวัย 29 ปี ที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านท่าเจริญ คนใหม่สืบสานงานต่อมากว่า 2 เดือนแล้ว
เฉลิมพล ได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านมาตั้งแต่ พ.ศ.2557 ระหว่างดำรงตำแหน่ง ได้ยกเงินเดือนให้กับผู้สูงอายุในหมู่บ้านทุกเดือน โดยไม่เคยรับเงินไว้กับตัวแม้แต่หนเดียว ทำให้เป็นที่รักของชาวบ้าน จนกระทั่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระ 6 ปี เมื่อเดือน เม.ย. 2563 ไลฟ์สดบอกว่า ภูมิใจที่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ที่ผ่านมาตั้งใจทำงานพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวบ้านให้ดีขึ้นหลายด้าน จนได้รับรางวัลผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม 2562 หรือ ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ แม้วันนี้จะกลายเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านแล้ว ก็ยังเป็นจิตอาสา ทำงานช่วยเหลือชาวบ้านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ถึงแม้ผู้ใหญ่หำตอนนี้ไม่ได้เป็นแล้ว แต่ก็เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน เคยสร้างความประทับใจ เคยสร้างคุณงามความดี และเคยประกาศให้ทั่วประเทศได้รู้ว่า ผู้ใหญ่บ้านก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน เหมือนบทเพลงที่ผมบอก ไม่ใช่ว่าผมเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วพูดถึงแต่ตัวเอง ผมปลุกให้ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศลุกขึ้นมาสู้ ให้มีกำลังใจช่วยเหลือพี่น้องราษฎร 6 ปีที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแหนบทองคำ การันตีความเป็นผู้ใหญ่บ้านยอดเยี่ยม พร้อมกับปืนประจำตำแหน่ง 1 กระบอก การทำหน้าที่สำเร็จลุล่วง ถือว่าเป็นความสำเร็จสูงสุดในชีวิต”
เจ้าของเพลง ‘ตามใจแม่เถิดน้อง’ แนวลูกทุ่งหมอลำได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง บอกด้วยว่า คุณสมบัติของคนมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน ควรเพียบพร้อมทั้ง คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม มีน้ำใจเสียสละ เป็นที่ไว้วางใจของราษฎร ไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับราษฎรทุกคนในหมู่บ้าน
บุคคลใดก็ตามที่อยากเข้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้าน เมื่อได้เป็นแล้วต้องปฏบัติหน้าที่ให้สุดขีดความสามารถ ให้สมกับที่อยากเป็น ให้สมกับที่ชาวบ้านเลือกมารับราชการ ช่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุข เหมือนที่ตนถ่ายทอดไว้ผ่านบทเพลง ‘เสียงจากผู้ใหญ่บ้าน’ ซึ่งตั้งใจประพันธ์ออกมาเพื่อผู้ใหญ่บ้านโดยตรง มีหน้าที่สำคัญที่สุด คือ การดูแลราษฎร
“เป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ได้เป็นง่ายๆ หลายคนอยากเป็น แย่งกันเป็น แต่เมื่อเป็นแล้วขอให้ปฏิบัติหน้าที่สมกับที่อยากเข้ามาเป็น ถ้าเขาถามว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านได้อะไรบ้างต้องตอบได้ หนึ่งได้ความภาคภูมิใจ สองได้ช่วยเหลือพี่น้องหลายอย่าง พี่น้องบางคนอาจจะไม่รู้เรื่องในการใช้สื่อ ถ้าเป็นผู้ใหญ่บ้านหนุ่มทันสมัย ใช้เฟซบุ๊ก ไลน์ เก่ง จะช่วยเหลือพี่น้องได้มากตอนนี้ ทุกวันนี้ทางราชการใช้การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตมากกว่าในอดีต เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่บ้านทุกวันนี้ต้องมีความพร้อมด้านนี้ด้วย เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ให้เขานับหน้าถือตา อย่าให้เขาบ่น อย่าให้เขาด่า ให้เขาแช่ง เมื่อไหร่จะออก เมื่อไหร่จะหนี ต้องให้เขาบอกว่าโอ้ยอย่ารีบไปนะ อยู่ช่วยเหลือพี่น้องอีกต่อไป สมกับที่อยากจะเป็น”
ทั้งนี้เมื่อมีแฟนเพลงถามว่า เพราะเหตุใดจึงออกจากตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน เฉลิมพล ตอบว่า “ถึงเวลาออกก็ต้องออก ให้คนรุ่นใหม่มาบริหาร อย่าเป็นนานเกินไปเขาจะเบื่อ เอากำลังดี นี่แหละเหตุผล”