ไม่พบผลการค้นหา
ผู้บริหารบ้านปู แนะรัฐบาลกู้เงินเพิ่มดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง มองภาวะเศรษฐกิจไทยกลับเข้าสู่ภาวะปกติต้องใช้เวลานานถึง 5 ปี ล่าสุดทุ่ม 30 ล้านให้ รพ.ธรรมศาสตร์ สร้างหอผู้ป่วยวิกฤตระบบการหายใจ รองรับผู้ป่วยโควิด-19

วันที่ 21 พ.ค. นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระยะยาว โดยส่วนตัวประเมินว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ต้องใช้ระยะเวลามากถึง 5 ปี ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบธุรกิจที่เปลี่ยนไป บางอย่างจะไม่สามารถเดินต่อไปได้และจะส่งผลต่อการจ้างงานโดยตรง

ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเข้าไปดูแลผู้ได้ที่ได้รับกระทบอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมมากขึ้น เช่น รับผิดชอบจ่ายค่าจ้างแรงงานในสัดส่วนร้อยละ 50 หรือคนละครึ่งกับผู้ประกอบการ หรือถ้ารัฐปล่อยให้แรงงานหลุดจากระบบ ก็ต้องมีการเยียวยาเพิ่มขึ้นมากกว่าการจ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาทในปัจจุบัน เพราะเห็นว่าเรื่องปากท้องเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลอาจจะต้องมีการกู้เงินเพิ่มเพื่อมาดูแลผลกระทบเพราะหนี้สาธารณะของไทยยังไม่ได้สูงจนเกินไป

“คิดว่าเหตุการณ์นี้มันยาว บริษัทต่างๆ รูปแบบการทำธุรกิจจะเปลี่ยนไปเยอะมาก บางอย่างทำต่อไม่ได้เลย ดังนั้นคนที่ตกงานออกไปจากระบบจะค่อนข้างเยอะ รัฐบาลต้องเป็นคนรับหลัก” นายชนินท์ กล่าว

บ้านปูเปิดหอผู้ป่วย

ทั้งนี้บ้านปูฯ ร่วมกับกลุ่มมิตรผล จัดตั้งกองทุน “มิตรผล-บ้านปู รวมใจช่วยไทยสู้ภัย COVID-19” มูลค่ารวม 500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือองค์กรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งล่าสุดได้มอบเงิน 30 ล้านบาท ให้ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สร้างหอผู้ป่วยวิกฤตระบบการหายใจบ้านปู ที่มีทั้งห้องผู้ป่วยความดันลบ (Negative Pressure) แบบแยกห้อง เพื่อใช้สำหรับรักษาและป้องกันการแพร่กระจายโรคสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 10 เตียง ห้องหัตถการผู้ป่วยความดันลบ จำนวน 1 เตียง เครื่องช่วยหายใจ จำนวน 11 เครื่อง เครื่องเอกซเรย์เคลื่อนที่ระบบดิจิทัล เครื่องส่องตรวจทางเดินหายใจ เครื่องวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในลมหายใจออกและความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด เครื่องเฝ้าระวังและติดตามสัญญาณชีพ เครื่องกดนวดหัวใจอัตโนมัติ อุปกรณ์ส่องตรวจหลอดลม และชุดป้องกันอนุภาคที่เป็นอันตรายจากฝุ่นละอองและเชื้อโรค รองรับการช่วยเหลือคนไทยในระยะยาวด้วย

บ้านปูเปิดหอผู้ป่วย