ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ได้ขออนุญาตหัวหน้าและเลขาธิการพรรค ให้ชื่อการอภิปรายครั้งนี้ว่า "ยุทธการอรุณรุ่ง" แต่ไม่เปิดเผย รายละเอียดและความหมาย ซึ่งรอให้ประชาชนติดตามจาก การอภิปรายไม่ไว้วางใจก็จะรู้เอง พร้อมย้ำว่า แม้เสียงในสภาของฝ่ายค้านจะแพ้ในการลงมติ ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล แต่การอภิปรายจะทำให้คนในรัฐบาลอายถึงขั้นต้องสวมหน้ากากอนามัยเดินตามท้องถนน แม้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะหมดไปแล้วก็ตาม
ร.ต.อ.เฉลิม ยังระบุว่าตนเองไม่ให้ราคา คณะองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล พร้อมตั้งฉายาให้ว่าเป็นทีมนางงามตกรอบ ที่สำคัญยังไม่รู้ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายประเด็นอะไรแต่กลับออกมาข่มขู่ว่าเตรียมตอบโต้และ เปิดเผยความผิดของฝ่ายค้านไว้แล้ว ซึ่งยืนยันว่า พรรคฝ่ายค้านไม่เคยกลัว ไม่เหมือนพรรคพลังประชารัฐที่มีปัญหาอยู่หลายคน และรัฐมนตรีบางคนเป็นผู้ต้องหาก็ยังไม่ยอมมอบตัว ซึ่งตนจะคอยดูว่าหลัง ปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะใช้เอกสิทธิ์อะไรคุ้มครอง
ร้อยตำรวจเอกเฉลิม ยืนยันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นวาระของฝ่ายค้านยื่นญัตติ ซึ่งฝ่ายรัฐบาลต้องให้โอกาสอภิปรายอย่างเต็มที่ ส่วนจะประท้วงนอกสภาฯก็ไม่เป็นไร แต่อย่าคิดว่าพรรคฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองนอกสภาฯไม่เป็น แต่ก็จะไม่ทำ เพราะทำงานการเมืองด้วยความสุภาพ และอย่าอ้างเรื่องความสงบหรือห้ามไม่ให้ฝ่ายค้านอภิปรายย้อนหลังถึงยุค คสช. ที่พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมมือกับ กปปส. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สร้างสถานการณ์จนนำสู่การรัฐประหาร และได้รัฐบาล คสช.ได้ทิ้งมรดกบาปเอาไว้มากมาย รวมถึงออกแบบรัฐธรรมนูญที่อัปยศที่สุด ยกเว้นหมวดพระมหากษัตริย์
ร.ต.อ.เฉลิม ยังระบุถึงการที่ สนช.ซึ่งมี 72 คนมาเป็นน ส.ว.ในปัจจุบัน ได้เขียนกฎหมายอย่างฉ้อฉลเป็นมรดกบาปเอาไว้ โดยพรรคฝ่ายค้านจะต้องแก้ไขที่สำคัญ คือ แก้กฎหมายย้อนหลังในทางให้โทษที่ขัดต่อหลักสาก แก้กฎหมายโดยไม่ให้มีอายุความ พิจารณาคดีลับหลัง
ร.ต.อ.เฉลิม ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ โดยกล่าวเพียงว่า ในฐานะนักการเมืองด้วยกัน ก็ขอภาวนาให้รอดพ้นจากการถูกยุบพรรค เพราะมีการยุบพรรคมามากแล้วทั้งพรรคไทยรักไทยและพรรคพลังประชาชน อย่ายุบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามผู้มีอำนาจอีกเลย