ไม่พบผลการค้นหา
ค่ายหนังยักษ์ใหญ่อย่าง ‘ดิสนีย์’ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งจากการถ่ายทำภาพยนตร์ ‘มู่หลาน’ ฉบับไลฟ์แอคชั่นในเขตปกครองตนเองซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมที่เป็นชนกลุ่มน้อย

เสียงวิจารณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผู้ใช้โซเชียลมีเดียสังเกตเห็นเครดิตท้ายภาพยนตร์มู่หลานที่ดิสนีย์ขอบคุณหน่วยงานรัฐจำนวนหนึ่งในซินเจียง ซึ่งรวมถึงหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในเมืองถูหลู่ฟาน (Turpan) และหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ โดยสำนักข่าวบีบีซีรายงานอ้างอิง ‘อาเดรียน เซนซ์’ นักมานุษยวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านจีนที่ระบุว่า หน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในถูหลู่ฟานมีหน้าที่ดำเนินการค่าย “ปรับทัศนคติ” ของจีนซึ่งเป็นค่ายที่เชื่อว่ามีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์เอาไว้เป็นจำนวนมาก และหน่วยงานประชาสัมพันธ์ที่ดิสนีย์ให้เครดิตขอบคุณก็รับผิดชอบในการผลิตโฆษณาชวนเชื่อของรัฐในพื้นที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ 

ด้านสภาอุยกูร์โลกได้ทวีตข้อความระบุว่า ในภาพยนตร์มู่หลานเวอร์ชั่นใหม่ ดิสนีย์ขอบคุณหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะในถูหลู่ฟานที่เกี่ยวข้องกับค่ายกักกันในเตอร์กิสถานตะวันออก ขณะที่ ‘ชอว์น จาง’ นักกิจกรรมก็ออกมาวิจารณ์ดิสนีย์เช่นกัน โดยตั้งคำถามว่ามีชาวอุยกูร์มากแค่ไหนที่ถูกกักกันอยู่ในค่ายที่ดูแลโดยหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะถูหลู่ฟานระหว่างที่ดิสนีย์ถ่ายทำภาพยนตร์มู่หลาน

จีนเผชิญเสียงวิจารณ์จากนานาชาติต่อการปฏิบัติต่อชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยในเขตปกครองตนเองซินเจียง หลังมีรายงานว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีประชาชนประมาณ 1 ล้านคนและส่วนใหญ่เป็นชาวอุยกูร์ ถูกควบคุมตัวในค่ายปรับทัศนคติซึ่งมีสถานะเหมือนคุกที่มีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด จากเอกสารที่หลุดออกมาและคำให้การของผู้ที่รอดออกมาจากค่ายจำนวนหนึ่งเผยว่า ผู้ที่อยู่ในค่ายถูกกักขัง ปลูกฝังความเชื่อใหม่ และมีการลงโทษ ซึ่งทางการจีนปฏิเสธว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวและชี้ว่าเป็นข่าวปลอม โดยจีนระบุว่าค่ายกักกันในซินเจียงมีความจำเป็นเพื่อปรับปรุงความมั่นคง 

ทั้งนี้ เมื่อปี 2560 ‘นิกิ คาโร’ ผู้กำกับภาพยนตร์มู่หลานของดิสนีย์ ได้โพสต์ภาพเมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียงผ่านอินสตาแกรม ส่วนทีมงานเบื้องหลังก็ได้เผยกับนิตยสารอาร์คิเทคเจอรัลไดเจส (Architectural Digest) ว่าพวกเขาใช้เวลาหลายเดือนในซินเจียงเพื่อศึกษาสถานที่ถ่ายทำ อย่างไรก็ตาม ดิสนีย์ยังไม่ได้ให้ความเห็นต่อประเด็นวิจารณ์ล่าสุดเกี่ยวกับสถานที่ถ่ายทำและเครดิตขอบคุณท้ายภาพยนตร์ 

ก่อนหน้านี้ ภาพยนตร์มู่หลานเวอร์ชั่นคนแสดงของดิสนีย์ที่เพิ่งเข้าโรงฉายในหลายประเทศก็เจอกระแสเรียกร้องคว่ำบาตรอยู่ก่อนแล้วจากบางประเทศในเอเชีย หลังจากเมื่อปี 2562 ในช่วงที่สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงทวีความตึงเครียด ‘หลิวอี้เฟย’ นักแสดงหญิงชื่อดังชาวจีนที่ถือสัญชาติอเมริกัน ผู้รับบทมู่หลานได้รีโพสต์ข้อความและภาพจากหนังสือพิมพ์พีเพิลส์เดลี (People's Daily) ของรัฐบาลจีนผ่านทางเวยป๋อ โดยข้อความดังกล่าวระบุว่า "ฉันสนับสนุนตำรวจฮ่องกง มาต่อยฉันสิ” ซึ่งรายงานระบุว่าโควทข้อความนี้อ้างอิงถึงคำพูดของนักข่าวคนหนึ่งจากหนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของรัฐบาลจีนที่ถูกผู้ประท้วงทำร้ายที่สนามบินฮ่องกงเพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ โดยในการรีโพสต์ข้อความจากพีเพิลส์เดลีหลิวอี้เฟยยังได้ติดแฮชแท็ก #ฉันก็สนับสนุนตำรวจฮ่องกง (#我也支持香港警) ) เสริมในรีโพสต์ดังกล่าวด้วย

  • กระแสเรียกร้องคว่ำบาตรภาพยนตร์มู่หลานเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 หลัง 'หลิวอี้เฟย' รีโพสต์ข้อความสนับสนุนตำรวจฮ่องกงผ่านเวยป๋อ

แม้การรีโพสต์ข้อความดังกล่าวของนักแสดงสาวจะได้รับเสียงสนับสนุนกว้างขวางบนเวยป๋อ แต่กลับจุดกระแสเรียกร้องคว่ำบาตรภาพยนตร์มู่หลานบนทวิตเตอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่ถูกแบนในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยถูกมองว่านี่เท่ากับเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนความรุนแรงของตำรวจและยังชี้ไปที่ประเด็นเสรีภาพที่เธอได้รับในฐานะพลเมืองอเมริกันอีกด้วย 

ทั้งนี้ แม้เจอกระแสคว่ำบาตรแต่เว็บไซต์ข่าวบันเทิงเดดไลน์ (Deadline) รายงานว่าภาพยนตร์มู่หลานทำรายได้เปิดตัวได้ 5.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังเข้าฉายในโครเอเชีย สาธารณรัฐเช็ก ตะวันออกกลาง สโลวาเกีย ตุรกี มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวันและไทย โดยทำรายได้เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ของบ็อกซ์ออฟฟิศในมาเลเซีย สิงคโปร์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และไทย 

อ้างอิง BBC / The Guardian