ประเด็นอยู่ที่ทำไมคำปรึกษาที่ส่งผลให้เปลี่ยนโฉมหน้าประเทศไทยถึงถูกตัดตอน-ทำแท้งด้วยรัฐประหารทุกครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุด เขาเล่าว่าถึงขั้นถูกจับ “คลุมถุงดำ” เข้าค่ายทหาร
แม้คณะ “เรือแป๊ะ” อยู่ยาวจนกลบเสียงแห่งอนาคต ภาคการเมืองเศรษฐกิจบอดใบ้ ทำไมเขายังพยายามออกไอเดียเพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
‘วอยซ์’ สนทนากับ พันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านนโยบายเศรษฐกิจหลายสมัย ชายผู้มีภาพจำในชุดสูทผูกหูกระต่าย และเสียงหัวเราะเอ็นจอย-เย้ยหยันในเรื่องเล่าแทบทุกวรรคตอน
“โอ้ ผมจะบอกคุณให้ ผมเนี่ยเป็นคนชอบเนคไทสวยๆ ที่สุดในโลก โดยเฉพาะเวลากระทบแสงจะสวยมาก ผมฟังคนที่ช่วยถ่ายหนังให้อภิชาติพงศ์ที่โคลัมเบียพูดถึงคุณภาพของแสงที่เมดิเตอร์เรเนียน แหม ผมรู้จักแสงของเมดิเตอร์เรเนียนมา 50 ปี ผมหลงรักมัน ผมไปอิตาลีเพราะต้องการไปอาบแสง ไม่ใช่อาบแดดนะ อาบแสงที่อิตาลี
“ผมเข้าใจแล้วทำไม ไมเคิล แองเจโล ถึงไปเลือกเกิดที่อิตาลี ไม่เลือกเกิดที่สยาม แสงมันคนละแสงนะคุณ แต่ผมดันเป็นคนชอบแดกก๋วยเตี๋ยว ไอ้เหี้ย เนคไทแม่งก็พังสิ เกิดอะไรขึ้น หูกระต่ายคือคำตอบ (หัวเราะ)”
นั่นคือที่มา... แต่ถ้าในนามของการงานที่ปรึกษารัฐบาล พันศักดิ์ไม่ได้ผูกหูกระต่ายมาร่วม 7 ปี แต่เมื่อถามว่าทำยังไงให้ “ไบรท์” เสมอ เพราะ “โทนี่ วู้ดซัม” เคยเปรยในคลับเฮาส์ว่าที่อายุ 70 กว่าแล้วยัง “ไบรท์” เพราะอ่านหนังสือและคุยกับ “พันศักดิ์” เยอะ
เขารีบตอบทันที “แกโม้ (ยิ้ม) คืองี้ คุณทักษิณนี่ไบรท์มาก บิลเลี่ยนเลยนะ มีวันหนึ่งแกจะด่าผม แกมีวิธีด่าผมฉลาดมาก ด่ากึ่งชม แกบอก “อาจารย์พันศักดิ์เนี่ยเหมือนกาแฟที่ขมปี๋เลย แต่ชินละ เลยต้องกินทุกเช้า” ไม่เบานะ ใช่ไหม
“แต่ที่ผมจะบอกคุณคือ เราอย่าสำคัญตัวผิด เราเป็นแค่ที่ปรึกษา ไม่มีความรับผิดชอบต่อเสียงโหวตเตอร์โดยตรง เราให้ความเห็นตรงไปตรงมาเท่าที่แกจะรับได้ อย่าเสือก take credit กับคนที่เขาต้องรับผิดชอบต่อชีวิตคน เพราะความเป็นจริง ผมให้ความเห็นเสร็จก็ไปกินก๋วยเตี๋ยวต่อ (หัวเราะ) ไม่ต้องทำอะไร เงื่อนไขแรกของการเป็นผู้ดีคืออย่ากระแดะ”
เกริ่นกันพอหอมปากหอมคอ บรรทัดต่อไปนี้พันศักดิ์ออกตัวว่า “take it seriously”
ผมเขียนในเฟซบุ๊กมาปีกว่าแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะปิด เปิด ปิด เปิดโดยไม่กระทบเศรษฐกิจ เปิดแล้ว ปิดแล้ว ก็ยังปรากฏว่ายังไม่ได้ทำการปูพรมตรวจแบบทั่วถึงอย่างจริงจัง มันก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
เมื่อเริ่มจะทำสิ่งที่เรียกว่ากึ่งปูพรมตรวจในปัจจุบันนี้ ไม่ได้ขึ้นกับการตรวจแบบพิเศษ ซึ่งคนเราไม่พอ เครื่องมือไม่พออยู่แล้ว ก็ปรากฏว่ากลายเป็นติดวันละ 20,000 คน แต่ทุกครั้งที่เราทำอะไรอย่างนี้ เราทำแบบสังคมบังคับ อำนาจบังคับ คือ โรงงานนี้ติดกัน ปิด แล้วล้างโรงงานให้เสร็จ ตรวจคนเป็นไม่เป็นเสร็จให้เปิดใหม่ ทีนี้คนที่คุณตรวจ สังเกตไหม ข่าวแม้แต่ในปัจจุบันอยู่ว่าตรวจเจอกี่คน เอาเข้าโรงพยาบาลเขียวจนแดงกี่คน สังเกตไหม แล้วกลุ่มที่ไม่เป็นล่ะ หรือที่บอกว่าหายแล้วล่ะ คำถามคือคุณทำอะไรกับคนหายแล้ว คุณรับรองคนหายแล้วยังไง ว่าจะใช้ชีวิตปกติได้ยังไง โดยที่ไม่ไปติดใหม่ คนที่คุณตรวจแล้วไม่ติด คุณส่งไปทำอะไร มีการรับรองไหม
มูลนิธิดวงประทีป ตั้งแต่ตอนเกิดโควิดแพร่ที่คลองเตย ผมคุยกับชัชชาติ (สิทธิพันธุ์) สมมติว่าในกลุ่มคลองเตยมีประมาณแสนคน ตรวจน่ะติดแน่ 30,000 อีก 70,000 ไม่ได้ติด ทำอะไรกับ 70,000 นี้ เพราะแสนคนนี้ลูกเมียรับจ้างทำไอ้นู่นไอ้นี่ เป็น รปภ.ก็มี คอฟฟี่ ช็อปก็มี อะไรก็มี จะรู้ได้ยังไงว่าคนไม่ติด ไม่ติด ใครเป็นคนบอกว่าเขาไม่ติด เขาไม่ติดวันนี้ที่คุณตรวจ พรุ่งนี้เขาติดไหม รู้ไหม ทำยังไงให้รับรองเขาได้ว่าเขาไม่ติด เพราะเศรษฐกิจต้องทำงานต่อ
ประเด็นจึงไม่ใช่ ปิดหรือเปิด ประเด็นคือเปิดอย่างไรให้มีกระบวนการที่บอกชัดเจนว่าคนที่เข้าไปทำงานนั้นไม่ติดทุกวัน ทุกวัน เพราะเรายังคิดกันไม่ออกว่า คนที่บอกว่าไม่ติด ควรจะทำอะไรในชีวิตหลังจากบอกว่าไม่ติดแล้ว จนกระทั่งเขาวนกลับมาติดใหม่ เพราะฉะนั้น คุณจะต้องมีกระบวนการ rapid test ทุกวัน ก่อนงาน
ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ก่อนเลย ร้านอาหารที่เป็นร้านเป็นเรื่องเป็นราว มีเป็นหมื่นร้าน จ้างงานคนเป็นแสน รายได้ต่อปี ผมดูสถิติมา ร้านอาหารตามสั่งและร้านอาหารอื่นๆ รวมแล้วรายได้แสนกว่าล้านบาท ในกรุงเทพฯ นะ จ้างคนกี่คน กระทบตั้งแต่คนปลูกผักทุกทาง คุณทำยังไงให้เขาเปิดได้ มันต้องมีกระบวนการเช็ค มีรหัสแอปพลิเคชันที่ตรวจสอบได้ว่าเขาติดไม่ติด คนทำงานก็ต้องตรวจสอบได้
สมมติทำงาน 9 โมงเช้า 8 โมงต้องมาตรวจก่อน ใช้เวลา 20 นาทีใช่ไหม แล้วฝ่าย HR ที่ชื่อเท่ๆ human resource ก็ต้องเริ่มคิด ไอ้บ้าทั้งหลาย ต้องเริ่มคิดวิธีหมุนเวียนคนงาน คุณจะต้องอยู่ได้เพราะอย่างนั้น
ถามว่าที่ผมพูดนี่ ใครทำแล้ว เยอรมนี ทำก่อนฝรั่งเศสอีก ฝรั่งเศสเพิ่งทำ ว่าจะเข้าคาเฟ่ คิวอาร์โคดดูว่าตัวเองเพิ่งฉีดวัคซีนมา หรือทำ rapid test มา เยอรมนีชัดเจน คุณจะไปชอปปิ้งที่เบอร์ลิน นี่เพื่อนผมรุ่นน้องแต่งงานกับฝรั่งอยู่เยอรมนี ขึ้นรถไฟจะไปซื้อหลุยส์วิตตองที่เบอร์ลิน เช้านี้ต้องตรวจ rapid test ก่อน ได้โค๊ดมาไปถึงห้าง แสกนหน้าห้าง ก็เข้าไปได้เยอรมนีโดยทั่วไปพยายามสร้างสิ่งที่เรียกว่าโซนสะอาดของลูกจ้างกับลูกค้า การทำเช่นนี้จะทำให้สถานบริการตั้งแต่ร้านอาหารและไม่ใช่ร้านอาหารทำงานได้ อาจจะไม่ได้เหมือนเก่า แต่อย่างน้อยก็เปิดได้และอยู่ได้พอประมาณทีเดียววิธีการนี้รวมทั้งโรงงานด้วย
ทำไมสิ่งที่ผมพูดถึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะว่าคนเขาไม่เชื่อแล้วแบบวัดด้วยอุณหภูมิ ฉะนั้นคุณต้องทำทุกโรงงานที่เมืองไทย ที่ส่งออก ตอนนี้คุณดูลิสต์โรงงานที่ส่งออกของไทย รวมทั้งอาหารด้วย แต่โน้ตนิดหนึ่งว่า ผมก็เพิ่งไปดูจริงจัง สถิติตั้งแต่ไม่ได้เป็นรัฐบาลนี่ก็ไม่ได้ดูสถิติจริงจังอะไรกับเขา คุณรู้ไหม อาหารแปรูปจากเมืองไทย ส่งออกปีละกี่แสนล้าน
แล้วจะบอกอะไรคุณให้นะ คุณรู้รึเปล่า เรานำเข้าพริกขี้หนูเข้าประเทศไทยเพื่อทำอาหารแปรรูปส่งออกปีหนึ่งกี่หมื่นล้าน ไปทำสถิติไปดูกันเองมา ประเทศที่โม้ว่าเรากินพริกขี้หนู ต้องนำเข้าพริกขี้หนูเพื่อทำอุตสาหกรรมอาหารนะ ทำไมเป็นงั้น
เพราะฉะนั้น เราทำสองอย่าง อุตสาหกรรมบริการและอาหารแปรรูปคืออนาคตของประเทศนี้จริงๆ เราทำเงินจากอาหารแปรรูปมากกว่าส่งข้าวออกขายอีกนะ รู้เปล่า ถึงขนาดต้องอิมพอร์ตพริกขี้หนู
อาหารแปรรูปที่ผมพูดนี้จะเป็นแบรนด์ใหม่ขึ้นมาสำหรับสินค้าไทย เรียกว่าแบรนด์ปลอดโควิด มันเป็นกระบวนการเริ่มต้นของการฟื้นฐานอุตสาหกรรมบริการ ก็คือร้านอาหาร กระบวนการบริการซึ่งๆ หน้าแบบสำนึกของชาวสยามที่สร้างความเชื่อถือเกิดขึ้นใหม่ ถามว่าอุตสาหกรรมบริการทั้งหมดเฉพาะที่กรุงเทพฯ เนี่ย ปีละเท่าไหร่ อ้าว ไปดูตัวเลขมากัน ถามว่าทั้งหมดนั้นรัฐบาลเก็บภาษีได้เท่าไหร่ อ้าว ไปดูตัวเลขมา
เพราะฉะนั้น นั่งรอให้สาธารณสุขเป็นคนตัดสินว่าอันนี้ปิด อันนี้เปิด อันนี้ติด คุณรออะไรกัน คุณรออะไรกันเนี่ย ผมตกใจเห็นบริษัททูน่าที่สมุทรสงคราม โอ้โห วิธีรักษาความสะอาดแบบโรงงานญี่ปุ่นเนี๊ยบ เพียบเลย แต่วิธีวัดโควิดใช้วัดด้วยอุณหภูมิ กิ๊กๆ กิ๊กๆ สหฟาร์มส่งไก่ขาย Marks & Spencer ที่ผมกินที่ลอนดอน อยู่ดีๆ ติดกัน 3,000 คน อ้าว ตายห่า แล้วทำอะไรต่อ ไม่รู้ ก็ให้สาธารณสุขไปเทสต์เสร็จ แยกคน ล้างโรงงาน แล้วตอนเข้าโรงงานทุกวัน คุณจัดการยังไง กิ๊กๆ อ่ะ เสร็จ (หัวเราะ)
นี่คือโอกาส จินตนาการได้ ทั้งโลกยังเละอยู่เลย เราเป็นผู้ผลิตอาหารสำหรับลอนดอน สำหรับโคเปนเฮเกน ตั้งหลายประเทศในยุโรปเหนือ มันกินไก่ไทยกันน่ะคุณ what do you do กิ๊กๆ (หัวเราะ) ไหวเหรอ ถึงบอกว่าอยู่กับโควิดยังไง ก็อยู่อย่างนี้ หาขั้นตอนการรับรองมา อะไรที่ยอมรับได้เรื่องการรับรอง ไปลากตัวมา จากอียูอันหนึ่ง จากญี่ปุ่นอันหนึ่ง ลากมาให้มันกระบวนการรับรอง
ทำตัวเหมือนเมื่อก่อนนี้ เราขายของให้อียู ก่อนอียูจะกระแดะมากขึ้นน่ะ เราขายเฮฮา ซักพักอียูมันกระแดะมากขึ้น ห้องน้ำคนงานต้องสะอาด อากาศหายใจในโรงงาน ต้องมีฝุ่นละอองน้อยเท่าไหร่ ความสะอาดในมือต้องเท่าไร มันมาตรวจเราทุกปีเลยคุณ ไม่เห็นน่าตื่นเต้นเลย โรงงานที่ส่งออกอียูทำงี้กันทั้งนั้น แล้วยังไงล่ะ คุณ rapid test ถ่มน้ำลายพรวด 20 นาทีรู้ มีปัญหาอะไร ทำไมไม่ทำกัน
ต้นทุนสูง ? กระจอก ต้นทุน เฮ้ย รายได้คุณเป็นหมื่นล้านต่อปี คุณถ่มน้ำลายที 110 บาท คุณไม่จ่ายเหรอ คุณไปกระจาย ที่ราคาของเท่าไหร่ ยูนิตละกี่สตางค์ ที่เพิ่มขึ้น 0.05 สตางค์รึเปล่าไม่รู้ที่คุณขาย
พอมีโควิดปุ๊บ รัฐบาลสองรัฐบาลแม่งทันทีเลย ขนาดมิสเตอร์ทรัมป์ หนึ่ง กูอุดหนุนร้านอาหารทั้งประเทศ ไม่ให้เลิก ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน ญี่ปุ่นสเป๊คอีกว่า “กูจะอุดหนุนร้านอาหารเล็กๆ ทั้งประเทศ เพราะนั่นคือการจ้างงาน และฐานภาษี” (หัวเราะ) และมันเกี่ยวข้องตั้งแต่ไอ้คนไปหาปลาหมึก คนปลูกหัวไชเท้า ทุกที่สู่โตเกียวใช่มั้ย เพราะฉะนั้น ผมไม่ได้ฉล่งฉลาดเหี้ยอะไร ของมันมีอยู่อย่างนี้ ก็จัดการมันสิ
พวกผู้ส่งออกไทยเนี่ยนะ คุณโดนอียูตรวจโรงงานมาเกิน 30 ปีแล้ว กฎของเบลเยี่ยม ห้องน้ำคนงานยังโดนตรวจเลย อียูยังส่งคนมาตรวจ มันเกี่ยวข้องอะไรกับกระทรวงสาธารณสุขไทย ไม่เกี่ยวข้อง ในเมื่อคุณไม่ได้ขายเมืองไทย ความสัมพันธ์ ระหว่างผู้น้ำเข้ากับคุณไม่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย ของง่ายๆ แบบนี้มึงไม่คิดกัน มันถึงตายห่ากันหมด เฮ้ย ไอ้รัฐบาลแทนที่จะแจกเงิน มึงอุดหนุด rapid test ทำไมต้องอุดหนุน เพราะมึงต้องการคงการเก็บภาษี อันที่สอง การลงทุนในอนาคตคืออะไร คือ clean zone ใครลงทุนคลีนโซน กูยกเว้นภาษีให้
สิ่งที่ยากมากของสังคมไทย คือ อยากจะเก็บบุคลิกความรู้สึกสำนึกแบบไทยให้ต่อเนื่องไปในอนาคตอย่างไร ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนใคร ที่สังคมอื่นไม่ได้ผ่านมาเหมือนที่สังคมเรามี
กำปั้นทุบดินที่ละเมียดของคนอีสาน จะเก็บต่อเนื่องยังไงให้เป็นคุณค่าของคาแรคเตอร์ของสังคมต่อไป ในขณะที่ต้องผลิตสินค้าและบริการให้มีความรู้สึกของความทันสมัยที่จะคงชีวิตต่อและซื้อยารักษาโรคได้ เอากันอย่างนี้ เป็นโจทย์ที่ยากชิบหาย มูลค่าของวิถีชีวิตญี่ปุ่นต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น คุณว่ามีเยอะมั้ย โอ้โห นั่นแหละผมฝันว่าประเทศไทยจะทำได้อย่างนั้น ยากมาก นี่คือสิ่งที่
สิบกว่าปีที่ผ่านมาผมไม่ควรเสียเวลากับการถูกใส่ถุงดำ และยึดอำนาจกันบ้าบอคอแตก ทำไมผมถึงฝันว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นที่เมืองไทย ก็ช่วยไม่ได้ผมชอบกินก๋วยเตี๋ยวที่นี่ you see, let be real. เวลาผมอยู่เมืองนอก ผมคิดถึงเมืองไทยหรือผมคิดถึงร้านก๋วยเตี่ยว เวลาผมอยู่เมืองนอก เวลาคิดถึงเมืองไทย ผมคิดถึงอะไร มันเป็นรูปธรรมแล้วเป็นองค์ประกอบรวมกันเรียกว่า คิดถึงประเทศไทย เมื่อก่อนนี้ตอนเด็กๆ ก็คิดถึงแม่นมผม ไปอังกฤษใหม่ๆ คิดถึงแม่นมที่เคยเลี้ยงผมมา เขาตายไป มันเป็นกระบวนการความคิดที่ปะทะสามมิติ ไม่ใช่ abstract คิดถึงเมืองไทยแบบ abstract
ผมสุขภาพจิตไม่ดีเลย เหตุผลที่สุขภาพจิตไม่ดี เพราะว่าธรรมดาแล้ว เราโตมาจนอายุจะร้อยปี เราผ่านสถานการณ์อะไรต่างๆ นานามามาก แต่ทุกครั้งที่เราผ่านมา เรารู้ที่ข้างหลังหัวกะโหลกเรานี่ว่า ประเทศจะผ่านไปได้ แต่เราไม่รู้นะ แบบชัดเจนว่าจะผ่านยังไง แต่เรามีความมั่นใจ เรามีความมั่นใจอยู่ว่า ประเทศจะผ่านเรื่องต่างๆ ไปได้
แม้แต่เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 6 ตุลาฯ ทุกครั้งที่มี 14 ตุลาฯ ผมจะถูกจับ มี 6 ตุลาฯ ผมจะถูกจับ ไปทำงานให้คุณชาติชาย (ชุณหะวัณ) ผมจะถูกจับ เวลาคุณชาติชายลงจากตำแหน่งเพราะการรัฐประหาร ทำงานให้คุณทักษิณ (ชินวัตร) ผมก็ถูกจับ ไม่ว่าจะทำงานให้คุณทักษิณ น้องสาวคุณทักษิณชื่อคุณปู (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ก็ถูกจับ
แต่ทุกครั้งที่ถูกจับ แม้แต่หลังสุด ครั้งสุดท้าย ที่ถูกจับใส่ถุงดำ เป็นการพัฒนาอีกอย่าง เมื่อก่อนนี้ถูกจับมีแต่ถูกสันติบาลจับกัน แต่ครั้งสุดท้ายนี้ถูกทหารจับแล้วใส่ถุงดำ คล้ายๆ พวกอุยกูร์ที่แอบอยู่ในเมืองไทย แล้วเราส่งกลับไปเมืองจีนก็ถูกใส่ถุงดำ ผมก็เลยนึกขึ้นได้ถึงตัวเองตอนใส่ถุงดำว่า เอ๊ กูนี่ชาติอุยกูร์หรืออะไรวะ ถึงใส่ถุงดำด้วย
แต่ทุกครั้ง ก่อนถูกใส่ถุงดำครั้งสุดท้าย ยังมีความมั่นใจอยู่หลังจิตใต้สำนึกว่าประเทศคงไปต่อได้ คงไปต่อได้ ประเทศคงไม่หยุดนิ่งหรือเละ แม้แต่ครั้งสุดท้ายที่ใส่ถุงดำ ซึ่งรู้สึกเซ็งที่สุดในชีวิตเนี่ย เพราะรู้สึกว่าตัวเองอายุมากขนาดนี้แล้วทำไมมึงยังใส่ถุงดำกูอีกเนี่ยนะ มันก็ยังมีความหวังบ้าง อย่างไรสังคมนี้ก็จะยังเคลื่อนไปได้บ้าง คงมีข้อสรุปซึ่งทำให้มีแสงสว่างได้บ้างในอนาคต
ผมไม่รู้สึกเกลียด กลัว คนที่จับผมใส่ถุงดำเลย ผมรู้สึกคล้ายๆ สมเพช สมเพชเขาและสมเพชตัวเองด้วยที่มาอยู่ในสถานการณ์นี้ หลังจากนั้น มาถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ตอนนี้ความรู้สึกหลังกระบาล รู้สึกมันว่างเปล่า ผมเพิ่งเขียนรีวิวสั้นๆ 5 บรรทัด หนังสองเรื่อง เรื่องหนึ่งชื่อ Roma อีกเรื่องหนึ่งชื่อNomadland หนังสองเรื่องนี้ผมดูแล้วเอาออกจากหัวกระบาลผมไม่ได้ ไม่รู้เพราะอะไร มันมีสิ่งซึ่งเหมือนกันคือว่า เป็นเรื่องของไพร่ อันหนึ่งไพร่เม็กซิกัน อีกอันหนึ่งไพร่อเมริกัน แล้วเป็นหนังซึ่งสคริปต์ไม่ยิ่งใหญ่เลย เป็นคนพูดกัน สบายหรือ อึหรือยัง อะไรแบบนี้เนี่ยนะ ไม่ได้มีสำบัดสำนวนแบบหนังอังกฤษ ซึ่งคมยิ่งกว่าซามูไรเวลามันคุยกัน
มันเป็นภาษาธรรมดามากเลย แต่ทำไมผมถึงมีสิ่งที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า desolated sadness ความเศร้า หงอยเหงา เปล่าเปลี่ยว ถ้าคุณเคยไปเดินเล่นแถวทะเลทรายตอนพลบค่ำ ที่ติดระหว่างเนวาดากับแคลิฟอร์เนีย ตอนฤดูใบไม้ร่วง คุณจะเข้าใจประโยคที่ผมพูดเมื่อกี๊นี้ นั่นคือความรู้ที่ผมมีกับสถานการณ์ในประเทศไทยในปัจจุบัน
ผมไม่เคยมีความรู้สึกนี้นะ หรือเพราะว่าอายุมันใกล้ร้อยปีก็ไม่รู้ได้ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องโควิดเท่านั้น โควิดมันพิสูจน์หลายอย่าง พิสูจน์จนน่าตกใจว่าประสิทธิภาพในการตอบสนองสถานการณ์แปลกใหม่ของสังคมไทย ลบศูนย์หรือต่ำกว่าศูนย์ อันนี้เพี้ยนมากเลย ประเทศไทย ฝรั่งเขียนไว้ว่าลู่ตามลม ไผ่ลู่ มันหมายความว่า คนไทยมีความสามารถที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างไม่น่าเชื่อ ได้เก่ง แต่ตอนนี้มันเพี้ยนมาก
ผมขี้เกียจบ่น ผมว่าคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นกับประเทศไทยก่อนโควิด เราใช้ญี่ปุ่นหิ้วเศรษฐกิจไทยมา 40 กว่าปี ความเป็นจริง แต่ความเป็นจริงของชีวิตก็คือ เพื่อนบ้านเราเลิกรบกันมา 30 กว่าปี เคยเป็นคู่แข่งในการขายข้าวกับเรา เวียดนาม ปัจจุบันเวียดนามไม่ได้แข่งขายข้าวกับเรา เขาประกาศว่าเขาจะปลูกข้าวให้ได้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้เพื่อจะปลูกผลผลิตทางการเกษตรที่มีมาร์จิ้นสูงกว่า เป็นเป้าหมายทางการเกษตรของเขา แต่ของเราเถียงกันเรื่องส่งข้าวเป็นที่ 1 ของโลกหรือไม่ รู้สึกอายถ้าไม่ได้เป็นที่ 1 ของโลก (หัวเราะ) ตลกเว้ย
เมื่อก่อนนี้กล่าวอ้างไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องซึ่งผมไม่ควรจะพูด ตอนนี้กล่าวอ้างได้แล้ว ผมเป็นคนแรกที่แอบเข้าไปฮานอยตอนสงครามเวียดนามยังไม่เลิก เครื่องบิน B-52 ยังทิ้งบอมบ์โฮเต็ลที่ผมไปนอนอยู่ โดยคุณชาติชาย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศในตอนนั้นกับผมช่วยกันคิด หาทางให้เวียดนามคุยกับประเทศไทยอย่างลับๆ ก็ได้ เพื่อเตรียมตัวเมื่อสงครามเวียดนามหยุดลง สงบลง ผมแอบบินเข้าไปโดยความช่วยเหลือของบุคคลสำคัญๆ ในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งมาจากวิธีคิดทางการเมืองคนละขั้ว แต่ช่วยเหลือนายพันศักดิ์ที่จะทำงานนี้
แล้วผมก็กลับไปฮานอยเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว คนที่นำผมเที่ยวในฮานอย สหายของพรรค ผมก็ดูฮานอย สิบกว่าปีก่อน ฮานอยแม่งมีโรงแรมฮิลตัน มีฮอลิเดย์ อินนท์ มีอะไรๆ ผมตื่นเต้นเป็นบ้าเลย ผมบอกสหายเวียดนามว่า ทำไมมันเจริญถึงขนาดนี้ สหายก็บอกว่าคุณพันศักดิ์ เขาพูดภาษาไทยได้ด้วย เราเลิกรบกันมาสามสิบกว่าปีแล้วนะครับ (หัวเราะ)
ไอ้คนแก่เนี่ย ความหลังมันรู้สึกยังใกล้มาก เขาเลิกรบกันสามสิบกว่าปีแล้ว เราต้องเผชิญความจริงอันนี้นะ เวียดนามให้โอกาสเรา 50 กว่าปี เพราะเขาฆ่ากันเองมา 50 กว่าปี ให้โอกาสเรา แต่ตอนที่ผมไป สิบกว่าปีก่อน เขาเลิกรบกันมาสามสิบกว่าปีแล้วนะ ผมเองลืมไปว่านั่นคือความเป็นจริง ความเป็นจริงอันนี้ เรายังไม่ยอมรับได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว
ผมจะบอกคุณให้ รัฐกับภาคเอกชน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า "ศูนย์รวมของจิตวิญญาณทางปัญญา" ที่จะดันสังคมนี้ไปข้างหน้าด้วยกัน ในขณะที่รัฐไม่รู้จะตอบรับยังไงกับปรากฏการณ์ของการหยุดรบมา 30 กว่าปีของเวียดนาม ภาคเอกชนไทยซึ่งเคยเกลียดผมมาก คิดว่าผมเป็นคอมมิวนิสต์อะไรเนี่ย กลับเป็นนักลงทุนชั้นนำในเวียดนาม ไปลงทุนในเวียดนามกันฉิบหายวายป่วง ข่าวล่าสุดที่ออกมา ใน 2-3 ปีไปลงทุนในเวียดนามกันเกือบ 500,000 ล้านบาทในเวียดนาม ภาคเอกชนไปช่วยทำให้เวียดนามเจริญเร็วขึ้น เพราะมันมีเหตุผลทางธุรกิจ การเติบโตมันไปอยู่ตรงนั้น ก็ไปลงทุนที่นั่น
เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนแปลง อย่าฝันกระโดดตอนกลางวัน คุณต้องลืมตาแล้วเผชิญความเป็นจริงของคุณอุตสาหกรรมภาคบริการคุณคืออะไร คุณมีหาดสวยๆ เฉยๆ มันไม่ถึงของความเป็นมนุษย์ หาดสวยๆ ในโลกนี้เยอะไปหมดเลย หาดสวยๆ แถวลาตินอเมริกา เกาะต่างๆ นานา คุณเอ๊ย แต่มันไม่มีจิตวิญญาณของมนุษย์เดินเพ่นพ่าน ซึ่งคนชอบ เราถึงได้ เติบโตถึงขนาดนี้ นี่คือความเป็นจริงของเรา
ทีนี้โควิดมา เขาบอก ห้ามมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ทางกายกัน ปฏิสัมพันธ์ทางกายในระยะกระชั้นชิด มีมูลค่าปีหนึ่งกี่แสนล้านเหรียญในการรายได้ให้กับประเทศ เขาเรียกว่าการเผชิญกันซึ่งๆ หน้าตามแบบฉบับไทยมีมูลค่าเท่าไร คุณจะแก้ปัญหาอันนี้ยังไง ที่จะทำไงที่จะให้สังคมไทยค่อยๆ มีรายได้ขึ้นมาใหม่เพื่อเปลี่ยนตัวเอง คุณจะทำยังไง คิดกันหรือเปล่า มีแต่เถียงกันเรื่องวัคซีน ไอ้เหี้ย ตลกชิบหาย (หัวเราะ)
ฉีดวัคซีนก็โอเคอะนะ ฉีดไปก็ยังติดใหม่ได้ ฉีดไปก็ยังปล่อยเชื้อได้อีก ถ้างั้นต้องทำอะไร เวียนเทียนล็อคดาวน์ เวียนเทียนล็อกดาวน์มันเปลี่ยนอะไรอนาคตคุณ มันทำอะไรให้อนาคตคุณเปลี่ยนได้ ไหนลองบอกผมมาซิ
คุณ เมื่อก่อนนี้เนี่ยนะ เวลาเราคิดแก้ปัญหา เราคิดแก้ปัญหาเพิ่มรายได้ให้กับคนจนที่มีทักษะในเมืองไทย ไม่ใช่ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณทักษิณอาจจะคิด แต่ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น ผมคิดว่าจะให้อำนาจพลังการเสียภาษีให้กับผู้ยากไร้ได้อย่างไร เพราะในที่สุด รัฐต้องมีรายได้เพื่อเอาไปใช้จ่าย
ฉะนั้น เวลาคุณบอกว่า คุณจะฉีดวัคซีน คุณจะล็อคดาวน์ ถามว่าทั้งหมดนี้มันเป็นประโยชน์อย่างไรกับต่อการดำเนินชีวิตวันต่อวันของประชาชน นั่นก็คือ การดำเนินชีวิตที่จะเสียภาษีให้กับรัฐไทย คุณไม่คิดกันเลย ไอ้คนนี้ไม่ติดก็ปล่อยแม่งไป ไอ้คนติดก็ไปจัดการอย่างนู้นอย่างนี้ อธิบายทุกวันเลยบนไทยพีบีเอส บนอะไรต่ออะไร แต่ไอ้คนที่ไม่ติดคุณปล่อยเข้าวงจรการติดใหม่ใช่ไหม ไหวเหรอ
ที่ฝรั่งเศสมีแล้วใช่ไหม health passport เยอรมนีมีก่อนฝรั่งเศสอีก คือ เวลาเขาคิดกัน เขาคิดสองคำตอบ อย่าไปคิดอะไรอย่างเดียว ประเด็นปัญหาของเราเวลานี้ ทั้งฝ่ายต่อต้านและฝ่ายไม่ต่อต้านชอบคิดมิติเดียว ความเซ็งของผมไม่ได้เซ็งกับสถานการณ์เฉยๆ นะ เซ็งกับคุณภาพของการถกเถียงด้วย คุณเข้าใจป่ะ
ผมเคยเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ผมจะรับใครรู้ไหม เป็นนักข่าวประจำ คุณเรียนสังคมศาสตร์มา ไม่มีปัญหา เรียนวิทยาศาสตร์มาก็ได้ไม่มีปัญหา แต่คุณต้องไปเป็นกรรมากรท่าเรือให้ผมก่อน 3 เดือน หลังจากนั้นไปนั่งนับสตางค์หน้าเคาน์เตอร์แบงก์เพื่อปิดบัญชีให้ได้ ห้ามขาดแม้แต่หนึ่งสตางค์ อันที่สาม ไปขายก๋วยเตี๋ยวอีกเดือน แล้วค่อยกลับมาเป็น journalist ผมบอกให้เลย เพราะ journalist รุ่นใหม่มันกลายเป็นแย่งธรรมาสน์อาจารย์ธรรมศาสตร์เทศน์ ประเด็นของพวกคุณคือ พวกเรียนสังคมศาสตร์มากำลังไม่มีอนาคต เพราะสำคัญตัวผิด แล้วก็ไม่ใช่ยุค bubble economy ที่เรียนนิเทศน์แล้วเท่ เข้าใจป่ะ ตอนนี้มึงตาย
แต่จำไว้ตราบเท่าหุ่นยนต์ไม่สามารถมีอัลกอริทึมของตัวเองได้ อัลกอริทึมยังต้องมาจากมนุษย์อยู่ การตัดสินใจโครงสร้างของเหตุผลยังมาจากการวาดโครงสร้างนั้นของมนุษย์ ความจำเป็นของคนที่เรียนสังคมศาสตร์แบบบิลเลี่ยนจริงๆ ยิ่งมีความต้องการมหาศาล ค่าตัวมึงน่ะ ชั่วโมงละล้านเหรียญ กูจะบอกให้เลย หายากชิบหาย ยิ่งวงการศึกษาไทยถูกทำลายด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี วงการการศึกษาสังคมศาสตร์จะถูกทำลายด้วยการศึกษาเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ แล้วคุณจะหาคนเขียนอัลกอริทึมที่มีความสามารถยากขึ้นทุกทีๆ เพราะงั้น ธรรมศาสตร์ต้องยุบทุกสาขาสังคมศาสตร์ แล้วปรับโครงสร้างทางสังคมศาสตร์ อยู่ให้เป็นมนุษย์ที่ถามแล้วไม่จน
ผมจะบอกให้อนาคตของสังคมไทย อยู่ที่วงการศึกษาสังคมศาสตร์ที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ เข้าใจไหม เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์มึงซื้อเอาสิ ไอ้เหี้ย (หัวเราะ) อนาคตของเมืองไทยอยู่ตรงนี้ อนาคตวอยซ์ทีวีก็อยู่ตรงนี้ เทคโนโลยีที่ใช้อยู่กระจอก คุณไปทำอะไรต่อ ไปทำอะไรกับมัน เลิกทำให้ความล้มเหลวของคุณเป็นเรื่องโรแมนติกได้แล้ว เลิกไปนั่งมองความล้มเหลวที่ผ่านมาเป็นเรื่องโรแมนติกสักที ปล่อยวาง ด้วยความเคารพ ถึงเวลาซีเรียส ไม่ใช่ซีเรียส ปล่อยวาง ภาษาพุทธใช่ไหม ปล่อยวางแล้วรีบหาของใหม่มาแบกเอาไว้ อย่าไปแบกของเก่า เสียเวลา หาของใหม่มาแบก
เท่าที่ผมอ่าน และไปเดินก๊อกแก๊กๆ มาทั่วโลก 50 กว่าปีที่ผ่านมา มันไม่มี สังคมที่อยู่ดีๆ จะมี advanced technology มันมี 2 อย่าง หนึ่ง อดทน เรียนรู้ ล้มเหลว ลุกขึ้นมาใหม่ อดทน เรียนรู้ ล้มเหลว สอง ไล่ฆ่ากัน พลังของการไล่ฆ่ากันเกิดพลังสมอง คิดอาวุธแปลกๆ มาไล่ฆ่ากัน เรียกว่าเทคโนโลยี
มีอีกอย่างคือ เกลียด เกลียดอีกชนเผ่าหนึ่ง แล้วเสือกแพ้ไอ้ชนเผ่านั้น ในสังคมนั้นไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตยมีความเห็นร่วมกัน เกลียดอีกชนเผ่าหนึ่ง จึงร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีของประเทศ บนพื้นฐานของประวัติศาสตร์ที่ประเทศหรือสังคมนั้นค่อนข้างจะมีนวัตกรรมอยู่แล้ว
ผมนึกถึงจีน จากพรรคคอมมิวนิสต์ไร้เดียงสา กลายเป็นพรรคคอมมิวนิสต์ที่เข้าใจคำว่า capital management อย่างยิ่งใหญ่ ทั้ง human capital management และ money as capital management อย่างยิ่งใหญ่ได้ เพื่อเป้าประสงค์ในการใช้เครื่องมือในทางเทคโนโลยีให้ a sense of dignity ให้ความรู้สึกมีเกียรติต่อตัวเองและสังคมได้
ลองคิดดู หากพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนจีน หมายความว่า ถ้าประชาชนจีน 200 กว่าล้านคนไม่ชอบพรรค แต่ประชาชนอีก 1,000 กว่าล้านคนชอบพรรค เพราะตอบสนองความต้องการของประชาชนได้เพราะฉะนั้นการพัฒนา เราต้องเลือก
มีการพัฒนาอีกแบบหนึ่ง การ์ตา ดูไบ อะไรต่ออะไรก็ตาม ใช้วิธีอย่างนี้ ก็ต้องมีอีก ผมไม่ยักรู้ว่า พวกอาหรับเขตเล็กนิดเดียว ติดทะเล เป็นชาวประมง นักเดินเรือ พวก gulf state เขามีความสามารถในการใช้หัวกบาลฝรั่งบริหารสินทรัพย์ของเขาได้อย่างดีเยี่ยม เขาจ้างฝรั่งมาบริหารสินทรัพย์ของเขา คุณก็รู้สายการบินต่างๆ นานา เขาเก่งมากเลย เรามีไหม จะเลือกยังไงล่ะ จะเลือกอย่างนั้นไหม
ดูสิงคโปร์ก็ได้ เพื่อนบ้านเรา เกาะเล็กกระจิดริด เกาะเขาใหญ่ไม่เท่ากับสุขุมวิท ซอย 1-50 ก็คงประมาณนั้น ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ซอย 100 ก็ได้ จะเอาอย่างนั้นไหม แต่สังคมต้องมีองค์ประกอบองค์รวมที่มีแรงปรารถนาที่จะอยู่รอด หรือเกลียดจนกระทั่งสร้างสรรค์ปรารถนาร่วมกันขึ้นมา ที่จะอยู่ได้
โซเวียตยูเนียน ฟังดีๆ นะ เรานึกว่าแม้จะล่มสลายแล้วเป็นรัสเซียเฉยๆ คงยิ่งใหญ่มาก ผมตกใจ เพิ่งเห็นสถิติใหม่ ซึ่งผมไม่อยากเห็นเลย ขนาดของเศรษฐกิจของรัสเซียปัจจุบัน เท่ากับสเปนเท่านั้น oh, my god. ผมนึกในใจ ไอ้ฉิบหาย อะไรวะ ลื้อมีนิวเคลียร์บอมบ์ ติดอันดับสิบของโลก จรวดของลื้อก็ไม่เบาเลย เทคโนโลยีทางการทหารมหาศาล ขนาดเศรษฐกิจของคุณเท่าขนาดของสเปน ?
เอาไงวะ ปวดหัว ใช่ไหม เพราะฉะนั้น สังคมต้องเลือก คำว่าสังคมต้องเลือกสำหรับผมนะ ผู้มีอำนาจถืออาวุธและใช้เงินคลังในสังคมนี้ ต้องตัดสินใจว่าจะเพิ่มพูนผลิตของสังคมไทยอย่างไรที่จะไปสู่อนาคต ที่จะไม่ทำให้จมโคลนตาย
เด็กรุ่นใหม่ ต้องเตรียมตัวยังไง ผมสังเกตดูเด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะค่อนข้างเคยชินกับการบริโภคเทคโนโลยี โดยกระบวนการบริโภคเทคโนโลยีนั้นไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับคนอื่น แม้แต่เกี่ยวข้องกับคนในครอบครัวตัวเอง แล้วเราก็ตื่นเต้นกับข่าวเศรษฐกิจของไมโครซอฟท์ แอปเปิล กูเกิล บริษัทเกมต่างๆ นานา ผู้ซึ่งนำเสนอวิถีชีวิตที่ไม่ต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
แต่ความต้องการเช่นนั้นของเด็กรุ่นใหม่ มันมีข้อแม้อยู่ว่า ต้องมีคนผลิตส่วนเกินให้เด็กเพลิดเพลินตัวเองได้ ถามว่าใครผลิต จัดการยังไง ความสามารถในการแข่งขัน ในเรื่องอะไร เรื่องอะไรบ้าง เอามาซักเรื่องหนึ่ง เรื่องอะไรก็ได้ ..ผมว่าลำบาก ผมเองก็คิดไม่ออก ผมคิดไม่ออกว่าเราจะแทรกจิตใจของคนไทยในกระบวนการผลิตของโลกสมัยใหม่อย่างไร นั่นคือการสร้างคุณค่าที่ไม่เหมือนใครที่จะสอดแทรกไปในเทคโนโลยี ถ้าไม่มี unique value creation นั้น หลักความเป็นจริงของชีวิตก็ไม่มีประโยชน์
คนไทยไม่สามารถแข่งเป็นขี้ข้าโลกการผลิตกับเครื่องจักรได้ เพราะฉะนั้นมนุษย์ยังต้องการมนุษยสัมพันธ์ เขาเรียกว่าความใกล้ชิดซึ่งๆ หน้าแบบคนไทย อ้าว ไอ้คำนี้ ประโยคนี้ คุณต้องใส่ประโยคแรกเข้าไป post-COVID close encounter of the Siamese kind จะทำอย่างไรเพื่อจะให้เปลี่ยนผ่านความเป็นจริงของสังคมไทยที่ไม่มีญี่ปุ่นหิ้ว ไปสู่อนาคตที่อยากจะถกเถียงกันในอนาคตว่า เราจะไปอยู่ตรงไหนของการผลิตระดับโลก เอกลักษณ์ของไทยและเพิ่มสู่การผลิตระดับโลกคืออะไร ให้เรามีความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบได้ ต้องคิดให้ออก
ซอยบ้านผมเนี่ย โอ้โห ชัดเจนมากเลย เป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาประเทศไทย 70 กว่าปีก่อนนี้ ซอยประสานมิตร สุขุมวิท 23 มีคลองวิ่งจากปากซอยต่อมาจากคลองสุขุมวิท ไล่ไปจนถึงบึงท้ายซอย ซึ่งปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒประสานมิตร
ก่อนที่เขาจะถมบึง ผมหัดว่ายน้ำบนบึงนั้น ผมเกิดที่ซอยนี้ บ้านผมก็อยู่ตรงนี้ แล้วก็ถมซอยประสานมิตร เราไม่รู้ว่าซอยประสานมิตรเกือบครึ่งหนึ่งเป็นของชาวภารตะที่เป็นชาวไทย ต่อมาก็มีซอยคาวบอย โลกมันเปลี่ยน ตอนนี้ก็มีนวดเต็มไปหมด ใช่ เราโตไปด้วยกัน ประสานมิตร โตแบบความใกล้ชิดซึ่งๆ หน้าแบบฉบับไทย
แล้วตอนนี้คุณไปดูสิ ซอยประสานมิตรเป็นอย่างไร ผิดกันไหม คุณจัดการมันอย่างไร เราคุยกันเองสำหรับผู้ใหญ่บางคน ว่าเมืองไทยทำอะไร เราควรจะใช้หุ่นยนต์ เด็กรุ่นใหม่บอกใช้หุ่นยนต์อย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกไม่จริงหรอก สังคมไทยอยู่ได้เพราะว่าเราต้องมีโรงแรม 5 ดาวที่ไม่ใช้หุ่นยนต์เลย แล้วก็ชาร์จค่าห้องสองเท่า เก็ตมั้ย (หัวเราะ)
คุณจะทำอย่างนั้นได้ คุณต้องมีเทคโนโลยีอะไรมาทำให้มีความรู้สึกที่ปลอยภัย สนุก ผมถึงบอกว่าเมืองไทยต้องเข้าสู่อุตสาหกรรม “ตายช้า แต่กินอร่อย” อุตสาหกรรมที่จะสร้างความพึงพอใจ ให้ความรู้สึกที่ดีกับมนุษย์ คือ อุตสาหกรรมที่คุณตอบสนอง “ความกลัวความตาย” (the fear industry) เพราะอะไร เพราะมันเหมาะกับสินทรัพย์ที่เรามีอยู่
ถ้าผมเป็นนักสังคมวิทยานะ social anthropologist นะ ผมจะ study ซีพี เจียไต๋กรุ๊ป ว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ในกระบวนการความสัมพันธ์ระหว่างทุน พ่อค้า กับรัฐแบบไทยอย่างไร คุณธนินท์น่ะ เริ่มแรกเลยเอาเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์พืชเข้าประเทศไทย แต่สังคมไทยไม่รู้สึกว่าคุณธนินท์เป็นคนเอาเทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์พืชเข้าประเทศไทย เจียไต๋ขายเมล็ดพืช แล้วคุณธนินท์ ในที่สุดก็เป็นเจ้าของสิทธิบัตรไก่ แล้วก็ไปเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเป็ด ซึ่งผสมพันธุ์โดยนักวิทยาศาสตร์อังกฤษ สิ่งเหล่านี้ ซีพีก็ทำไป แยกจากหน้าร้านของซีพี ที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับรัฐไทยซึ่งเป็นรัฐที่เก็บค่าคอมมิชชั่นกับซีพี
ความทันสมัยของซีพี แยกออกจากการทำตัวเพื่อให้อยู่ได้ในสังคมนายหน้าไปเรื่อยๆ นี่น่าสนใจมาก ทำไมความทันสมัยมันไม่แผ่กระจายและประสานกับความทันสมัยของรัฐด้วย ถ้ามี เพราะอะไร เรารู้สึกว่ารัฐไทยก็พึงพอใจในการจะอยู่อย่างนี้ ในการมีความสัมพันธ์กับซีพี
อย่าไปคิดกระด๊อกกระแด๊ก คิดเรื่องโน้นเรื่องนี้ วิสัยทัศน์ทันสมัยไร้ประโยชน์ ถ้าคุณตีปัญหานี้ไม่แตก คุณต้องตีปัญหานี้ให้แตก ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้ และกำลังอยู่ไม่ได้ แล้วซีพี ก็ออกอาการว่าความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์ที่ซีพี มีกับรัฐไทยชักไม่เวิร์ค คุณธนินท์ถึงได้ออกมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ให้สัมภาษณ์ว่าถ้ารัฐทำไม่ได้ ภาคเอกชนขอทำเองในการเอาวัคซีนเข้ามา คือวัคซีนก็เทคโนโลยี รัฐเคยมีสิทธิและอิทธิพล และบารมีของการใช้เทคโนโลยีนี้แต่ผู้เดียว บัดนี้ไม่สามารถดำเนินการทำงานได้ เข้าใจไหม
ออสเตรเลีย ตั้งใจหรือเปล่าผมไม่ทราบ จำกัดตัวเองให้เป็นอาณานิคมของอังกฤษอย่างต่อเนื่อง ผมไม่ทราบ ออสเตรเลีย มันขุดแผ่นดินเอาไปขายเจ๊กมันก็รวยแล้ว ดังนั้นออสเตรเลียจะไม่ใช่แหล่งผลิตสินค้าอย่างเป็นนัยสำคัญต่อรายได้ของประเทศ แต่ออสเตรเลียมีข้อบ่งชี้มาตรฐานแบบตะวันตก ซึ่งมาตรฐานชั้นสูง ชั้นต่ำ ชั้นกลาง เถียงกันเอง ต้องตัดสินใจว่าจะทำอะไร ออสเตรเลียเหมือนรัสเซียไหม
ใช่ รัสเซียบอกกูขายแก๊ส ขายน้ำมันพอแล้ว มาเฟียรัสเซีย แก๊ส น้ำมัน พอละ จนป่านนี้มันยังไม่มีอุตสาหกรรมผู้บริโภคที่มีนัยสำคัญต่อสังคมมันเองนะ รัสเซีย ถามกันบ้างหรือเปล่า โซเวียตยูเนียนแตกมา 30-40 กว่าปีแล้ว มึงทำเหี้ยกันอะไรกันวะที่รัสเซีย ถามว่ามีเทคโนโลยีไหม โอ้โห วิทยาศาสตร์พื้นฐานแม่งสุดยอด มึงทำอะไรกันอยู่วะ เพราะอะไร เพราะสันดานของจิตวิญญาณสังคม (หัวเราะ) มันเป็นเช่นนั้น
เอสโทเนีย สวีเดน ยุโรปเหนือ มีจิตวิญญาณทางปัญญาเป็นสินทรัพย์ แม้จะไปอยู่ภายใต้ระบบสังคมนิยมที่ล้มเหลว จิตวิญญาณทางปัญญานั้นไม่ได้ล่มไปกับจิตวิญญาณของอำนาจวัฒนธรรมของรัสเซีย การกู้กลับมาถึงง่าย ง่ายมาก แล้วจำนวนประชากรเท่ากับ 1 ใน 3 ของกรุงเทพฯ ก็ทำได้ นี่เป็นข้อเท็จจริง
เจ๊กแม่งทำยังไงวะ มันทำไง ดูยูทูป เจ๊กมันเอาแม่น้ำเหลืองกลายเป็นแม่น้ำสะอาดได้ คนอยู่เป็นร้อยล้าน ทิ้งขี้ทิ้งเยี่ยวทิ้งขยะลงไป มึงออแกไนซ์ระบบราชการยังไงให้ไปเตือนที่ละบ้านว่าทำยังไงให้สะอาดได้ เอ๊ะ ก็มึงเป็นคอมมิวนิสต์ไง มึงทำได้ยังไงวะ ไอ้เหี้ย มันไม่ใช่ปัจเจกนิยมแบบความคิดตะวันตก ซึ่งรู้สึกคุณค่าของชีวิตที่มีคุณภาพและสะอาดเป็นยังไง นี่ไม่ใช่ นี่มันออแกไนซ์ จะเอายังไง
ผมว่าอันนี้ดีมาก เจ้าสัวคิดแล้ว ในที่สุดกองทัพก็ต้องคิด อยู่อย่างไม่มีความชอบธรรม แต่มีฐานที่ผลิตส่วนเกินให้ กับฐานที่ผลิตส่วนเกิน ไม่ยอมผลิตส่วนเกินต่อเนื่องในประเทศไทย ตัดส่วนเกินที่มีอยู่ไปลงทุนในต่างประเทศหมด แล้วมึงอยู่ยังไง กองทัพอยู่ยังไง โครงสร้างอำนาจมันต้องปลดล็อกตัวเอง
วงการภาพยนตร์ไทย เราชอบไปเทียบวงการภาพยนตร์เรากับของเกาหลี (หัวเราะ) พอพูดเรื่องวงการภาพยนตร์ไทย พวกหัวก้าวหน้าในวงการภาพยนตร์ไทยก็บอก รัฐบาลไม่ช่วยเหลือ สังเกตไหม ทำไมมึงไม่อุดหนุนกู แหม่ มาแล้ว เกาหลียัง อุดหนุนเลย
ประเด็นปัญหาคือ ถ้ามึงอยากให้กูอุดหนุน มึงมีอะไรจะขายให้เกิดรายได้กลับมา ใครคือลูกค้าของคุณ อ้าว หนังไทยบางเรื่องก็ได้พิสูจน์ในประเทศจีน ว่าจริตเพี้ยนๆ ของไทยเหมาะกับจริตเพี้ยนๆ ของเด็กหนุ่มสาวในเมืองจีน เรื่องเด็กแอบสอบ (ฉลาดเกมโกง) เจ็กชอบเป็นบ้า คนจีนชอบ เด็กหนุ่มสาวชอบ
คุณอภิชาติพงศ์ (วีระเศรษฐกุล) เวลาจะทำหนังเพื่อวิจารณ์สังคมไทย โอ้โห ต้องผ่านหลายระดับ abstract ผมบอกให้เลย ผีอะไรไม่รู้เดินอยู่ในป่าหลายนาที ไม่มีเสียงอะไรเลย เห็นแต่ตา เดินไปเดินมาตั้งนาน แล้วเรื่องล่าสุดของแก ที่อ่านดู ดูหนังตัวอย่่าง ทำไมไปถูกจริตของกลุ่มปัญญาชนที่ทำหนังของโลก เราก็ถามตัวเองว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ถามว่าจริตของหนังเช่นนั้น เราทำได้ หลากหลาย กลายเป็นทางเดินของศิลปินไทยในอุตสาหกรรมนี้ที่จะทำให้ตัวเองอยู่ได้และรู้สึกมีความสุขกับมัน จริงหรือเปล่า ทำได้จริงหรือเปล่า ทำได้นะ ใช่ไหม ลองทำกันเอง ทำไมจะต้องมีเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ผมลองมาคิดดู เงินอุดหนุนแรกที่รัฐบาลมีคือ อิสรภาพที่จะคิด
สำหรับผมนะ อิสรภาพที่จะคิด นี่คุณให้อภิชาติพงศ์ไปหาเงินในต่างประเทศเอง แล้วก็รวบรวมมาไม่รู้กี่นายทุน ไปทำงานที่โคลัมเบีย ไม่ได้เกิดอะไรที่นี่เลย มันแย่ มันแย่แบบพื้นๆ น่ะคุณ ผมมีปัญหามาก เวลาเราพูดถึงความเป็นสมัยใหม่ ของใหม่ในชีวิตที่เด็กอยากจะทำ เห็นไหม อภิชาติพงศ์ต้องปีนกำแพงกี่กำแพง มันลำบากมาก แต่มันเป็นตลาดเฉพาะนะ แต่ถ้าเป็นเฉพาะที่คุณอยู่ได้ก็ไม่ว่ากัน
ไหนๆ พูดเรื่องหนัง ก็ขอพูดอีกนะ ผมติดใจหนังเรื่อง ROMA มาก ผมจะบอกอะไรให้ มีเพื่อนคนหนึ่งของผมรุ่นเด็กกว่า คำว่าเพื่อนรุ่นเด็กกว่าของนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ก็คือ 60 กว่า
ผมบอกว่า เอ ทำไมผมถึงรู้สึกโหวงๆ ยังไงไม่รู้เวลาดูหนังเรื่องนี้ แล้วมันไม่ยอมออกจากหัวกบาลผม เขาบอกว่า หนังโรมานี่เป็นหนังซึ่งแสดงออกถึงลักษณะชนชั้นของเม็กซิโกที่ชัดเจนมาก ผมอยากตอบเขา แต่ไม่อยากเขียนในเฟซบุ๊ก ผมอยากตอบเขาว่า ถ้านั่นคือฐานของความคิดการทำหนังเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้เจ๊งอย่างเด็ดขาดเลย คนเบื่อหน่ายกับวิธีอธิบายว่าเม็กซิโกมีปัญหาชนชั้น เขารู้กันเป็นพันปีแล้ว ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นของหนังเรื่องนี้ก็คือว่า มันคล้ายๆ ‘ฟ้าบ่กั้น’ ของคำสิงห์ ศรีนอก ซึ่งคนจนกดขี่กันเอง อันเนื่องมาจากระบบทำให้คนจนกดขี่กันเอง
แฟนของคนใช้ในหนังเรื่อง ROMA ทำตัวเหี้ยปกติ แบบเด็กเหี้ยปกติ เพราะเป็นเด็กที่ไม่มีอนาคตก็เลยเหี้ยปกติ แล้วเธอก็เอามาเป็นแฟน แล้วก็เหี้ยกับเธออย่างปกติ ไม่พิเศษ
แต่เธอเป็นไพร่ที่หลังวิญญาณของเธอคือความเชื่อเรื่องศาสนาคริสต์ที่พวกสเปนมาทิ้งเอาไว้ในเม็กซิโก ความที่เธอมีความรักให้กับลูกของนาย ดูแลครอบครัวนั้น ดูแลลูกของนาย ทั้งๆ ที่เธอก็เป็นคนใช้ ไอ้ความรู้สึกอันนี้ที่มันแสดงออกว่าไพร่คนนี้ จิตวิญญาณเธอเป็นยังไง ไม่เคยมีหนังอย่างนี้นะ สำหรับผม ผมถึงใช้คำว่า desolated sadness ที่เล่าให้ฟังทั้งหมดนี้เพื่อจะบอกว่า หนังไทยต้องเล่าชีวิตจากมุมมองซึ่งไม่หน่อมแน้ม ไม่พยายามจนเกินเหตุ แล้วตลาดรับไหม ตลาดรับได้ ผมแปลกใจมาก ก็ผมยังรับได้เลย
เราต้องยอมรับนะ ประวัติศาสตร์ของเราไม่ค่อย dramatic ประวัติศาสตร์ไทยไม่ค่อยดรามาติก ตอนที่มีการต่อสู้กันระหว่างเสื้อแดงกับอำนาจรัฐ ผมมีเพื่อนที่ได้รางวัลพูลิตเซอร์ เป็น American Journalist เป็นนักข่าวสงครามเวียดนามรุ่นเดียวกับผม ร่ำรวยพอประมาณ มีบ้านเป็นตึกสร้างพันกว่าปีในหมู่บ้านในฝรั่งเศส ผมไปนอนเฮฮาฟรี ไปผัดก๋วยเตี๋ยวกินที่หมู่บ้านโบราณในฝรั่งเศส
วันหนึ่งมันมาหาผม ไปนอน 'โอเรียลเต็ล' พวกนักข่่าวหัวสูงจะนอนที่โอเรียลเต็ล แต่นักข่าวฝรั่งที่จิตใจมวลชนจะนอนที่ ทรอคาเดโร่ โฮเทล อยู่แถวสุรวงศ์ ไอ้เพื่อนผมมันนอนโอเรียลเต็ล มาหาผมผมก็บอกว่า ต้องส่งคนมาทำข่าวนะ คนเสื้อแดงถูกฆ่าตายอย่างนั้นอย่างนี้ มันถามผม ฆ่าตายกี่คน ผมบอก โอ้โหเป็นร้อยได้มั้ง
"น้อยไป" มันบอกผม "ยูต้องตายอย่างน้อยซักสองสามพัน" เวิร์ลมีเดียมันต้องการดราม่า แล้วมันชินกับดราม่าแอฟริกาเหนือ ที่เลบานอน ที่ซีเรีย ที่ตายกันทีเป็นพัน เป็นเรื่องปกติ มันบอก "พันศักดิ์ you need to die more" สรุป เนื้อหาของประวัติศาสตร์ไทย ที่มีดราม่าที่หนักแน่น ไม่มี มีก็น้อยมาก จำนวนมันเป็นองค์ประกอบซึ่งดึงคน
creativity เกิดขึ้นโดยไม่ได้ฆ่ากันได้ แต่เท่าที่ทราบมา ไม่ใช่ผมชอบ ไม่ชอบ จะหาว่าผมซาดิสม์ไม่ใช่นะ (หัวเราะ) มันคงเกิดขึ้นได้ แต่ไม่รู้ว่าคุณภาพมันเป็นยังไง อเมริกันมันก็เก่งนะ google คุณก็รู้ใช่มั้ย มันมีบริษัทหนึ่งอยู่ที่อังกฤษ Google DeepMind เอ๊ะ กูเกิลมึงมี silicon valley กระแดะกันชิบหาย อย่างโน้นอย่างนี้ แล้วมึงไปมีบริษัทห่าอะไรที่ลอนดอน ขมุกขมัว ที่นอนก็ห้องเล็กเท่าขี้หมา แพงชิบหาย ไม่มี sunshine ไม่มี California sun ดูคอนเสิร์ตทีแม่งแพงชิบหาย แดกก็แพง มึงไปมีบริษัทสบทบชื่อ DeepMind ทำไม ใครอยากไปอยู่วะ และพวกที่ดีที่สุดและฉลาดที่สุดในโลก มันไปอยู่กัน ผมเชื่อว่าเป็นคนต่างชาติซะ 70% กว่า อยู่ใน DeepMind
ทำไมเสือกไปอยู่ที่นั่นล่ะ ปัญหาชนชั้นก็ไม่หยุดนิ่ง ปัญหาชนชั้นของอังกฤษนี่ยิ่งใหญ่มาก เป็นปัญหาที่อุตสาหกรรมสร้างรายได้ให้ปีหนึ่งพันล้านๆ ปอนด์สเตอร์ลิง จากปัญหาชนชั้น
ประเด็นปัญหาคือ เด็กไทยสามารถเอาปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย กลายเป็นรายได้ปีละหมื่นล้านเหรียญยูเอสดอลล่าร์ได้หรือไม่ ผ่านอะไร ทำได้เปล่าวะ ปัญหาทางชนชั้นอังกฤษ ทำไมก่อให้เกิดกระบวนการอุตสาหกรรม หนัง วรรณกรรม เพลง ละคร มากมายก่ายกอง ดู The Crown หรือเปล่า การเขียนสคริปต์เห็นหรือเปล่า ปากจัดแต่เป็นผู้ดี ผู้ดีเวลาเขาด่ากันเจ็บยิ่งกว่าโดนซามูไรเฉือนอีก
เอ้า เราเอาบ้างสิ เร็ว ไทยปากจัด ปากจัดแบบไทย แบบบื้อๆ เนี่ย ถูกจริตการบริโภคของโลกได้หรือไม่ เอ้าว่าไป ลองของกันเร็ว แล้วเราเป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องกลัว ชีวิตพวกมึงอยู่อีกนาน ล้มเหลวอีกสัก 10 หนก็โอเค (หัวเราะ) ไม่มีใครเขาว่าอะไร แต่มึงต้องหาให้เจอ
คนไทยเนี่ย ไอ้ห่า ส่งลูกหลานไปเรียนอังกฤษกันเยอะแยะไปหมด อะไรกันนักหนา แล้วกลับมาทำไมหน่อมแน้มกันไปหมดวะ กลับมากลายเป็นไอ้เบื๊อกอะไรก็ไม่รู้ เสียเวลาฉิบหาย
ก่อนอื่นเลย เอางี้ อังกฤษ จะเล่าอังกฤษในทัศนะของนายพันศักดิ์ให้ฟังนะ ประวัติศาสตร์ของอังกฤษโดยย่อ อังกฤษไม่มีสิทธิมีประชาธิปไตย ถ้ากษัตริย์กับท่านลอร์ดไม่เผชิญกันด้วยกำลังรบ ถ้าท่านลอร์ดไม่มีกำลังรบ มึงเสร็จกษัตริย์
ทีนี้กษัตริย์อยากรบกับฝรั่งเศส แต่กำลังรบไม่พอ ต้องไปยืมกำลังรบกับท่านลอร์ด ท่านลอร์ดซึ่งเริ่มทำมาค้าขาย บังคับกษัตริย์ให้ยอมรับกฎระเบียบของสัญญาการค้าขาย อันนี้สำคัญมากนะคุณ ดังนั้น การสอนสัญญาการค้าขายของอังกฤษนี่ดีมากเลย กษัตริย์เลยยอม ขนาดยอมเซ็นนะ พอกลับถึงลอนดอนกษัตริย์ก็ดิ้นฉิบหายวายป่วง จะไม่ยอมทำตามสัญญาอยู่เกือบ 100 ปี แต่อันนี้เป็นเรื่องสำคัญเรื่องที่หนึ่ง
เรื่องที่สอง ศาสนา ฟังดีๆ นะ เธอแปลเอาเองระหว่างบรรทัด ศาสนาคริสต์ที่อังกฤษตีกันเอง แต่เวลาตีกันเองเขาพยายามผลิตลูกหลานที่ตีเก่งๆ ตีทางปัญญาเก่งๆ เขาก็ตั้งมหาวิทยาลัย Oxford ขึ้นมาอันหนึ่ง อีกอันชื่อ Cambridge เพื่อผลิตลูกหลานที่ตีกันทางปัญญา ผ่านสมมติฐานของศาสนาคริสต์ เพราะฉะนั้นวิทยาลัยในอังกฤษที่สอนเรื่องเทพ สอนว่าด้วยปรัชญาทางศาสนานี่เก่งมาก อังกฤษมันตีกันแหลกเลย แล้วผมบอกให้นะ ทางฝ่ายกษัตริย์ค่อยๆ ยอมทีละนิดๆ และในที่สุด ท่านลอร์ดเองก็ต้องยอม เพราะต้องการใช้ไพร่ทำงาน ก็ต้องยอมเรื่องโน้นบ้างเรื่องนี้บ้าง
ขนาดยอมกันเกือบตายนะคุณนะ ผมจะบอกคุณให้ จนปัจจุบันยังมี House of Lords อยู่เลยในอังกฤษ ประเทศสังคมแม่แห่งประชาธิปไตยที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะยังมี House of Lords อยู่เลย เข้าใจป่ะ
แต่มันหมายความว่ายังไง หมายความว่า รุ่นหลังๆ มันไม่ได้รบกัน โอ้โห ชีวิตอังกฤษที่รบกันเนี่ยนะ โอ้โห ผมเบื๊อเบื่อ ตอนผมไปเรียนต้องผ่านมัธยม ต้องท่องจำ กษัตริย์คนนั้นฆ่าคนนี้ ไอ้คนนี้ฆ่าคนนั้น โอ๊ย กูเรียนแล้วเบื่อจะตายห่าเลย ที่จริงไม่ควรเบื่อควรจะรู้ว่า โอ้โห กว่าจะผ่านมาได้มันฟัดกันไม่เบา ไอ้เกาะเล็กนิดเดียวมันฆ่ากันฉิบหายวายป่วงมาตั้งนานจนกระทั่งปัจจุบัน แต่ผลของมันคืออะไรรู้ไหม ในที่สุดมันมีสิ่งที่เรียกว่า Rules of Law
อังกฤษมึงแต่งเพลงอะไรวะ ว่าชีวิตกู กูรักสาวเฝ้ามิเตอร์จอดรถ (Lovely Rita ของ The Beatles) เมืองไทยต้องแต่งเพลงรักลูกเจ้าคุณ แต่ที่อังกฤษมันแต่งเพลงไพร่คนหนึ่งรักสาวเฝ้ามิเตอร์จอดรถ ขายไปทั่วโลกเลย (หัวเราะ) What the fuck is that!
นี่เป็นผลพวงจากอะไร ผมขอเสนอความคิดหนึ่งของการต่อสู้ไล่ฆ่ากันในสังคมอังกฤษ เป็นหลายศตวรรษ โอ้โห สุดยอด แล้วในที่สุดคือการยอมรับ freedom of speech ในระดับหนึ่ง ไม่ใช่สมบูรณ์ การยอมรับนิติรัฐ มึงกลั่นแกล้งกูโดยใช้กฎหมายไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นไพร่หรือพ่อค้า หรือท่านลอร์ด การมีระบบศาลที่เชื่อถือได้ การมีระบบเกี้ยเซียะที่ละเมียดและยิ่งใหญ่ของโลก ยิ่งใหญ่มาก ยิ่งใหญ่จนกระทั่งลูกของผู้ใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องส่งไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษ เรียนมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ เพื่อเรียนรู้วิธีการ กระบวนการปกครองไพร่ที่ยิ่งใหญ่
อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จึงทำให้เศรษฐีจีน วิธีที่เศรษฐีจีนจะเป็นผู้ดีต้องนิยามคำว่าสุภาพบุรุษขึ้นมา ต้อง English gentleman จึงส่งลูกหลานมาเรียนวิธีถือช้อนส้อมและมีดกับหัวหน้าพ่อบ้านที่ฮ่องกงและที่ต่างๆ ดูยูทูบสิ เศรษฐีจีนก็ยังต้องพัฒนารสนิยมอยู่ อยู่บ้านที่อังกฤษ แต่ซื้อ Rolls-Royce สีขาวนั่ง เขาสำหรับให้มาเฟียนั่งนะ ผู้ดีเขาไม่นั่งกัน แต่นี่คือปรากฏการณ์ นี่แหละคือสังคมอังกฤษ เป็นพลังที่มองไม่เห็นที่ยิ่งใหญ่มาก
เมื่อเรารู้ว่าเราไม่ได้มีประวัติศาสตร์อังกฤษ คุณจะอยู่ยังไง การมีชีวิตแบบอังกฤษก็เป็นสิ่งที่เด็กรุ่นใหม่อยากได้ใช่ไหม freedom rule of law การคบหาคนต่างผิว ไม่ใช่ปัญหา แล้วอีกอย่างคนอังกฤษ ตอนที่ผมเรียนอยู่ผมขำๆ มันมีพวกที่กระเซ็นกระสายมาจากอาณานิคมเก่ามาอยู่น้อย ไม่มาก การพูดภาษาอังกฤษของพวกนี้ เป็นสำเนียงฮินดูแข็งๆ เยอะไปหมด เดี๋ยวนี้คุณไปลอนดอนสิ เด็กอินเดียมันพูดค็อก Cockney เก่งกว่าคนอังกฤษอีก (หัวเราะ)
วิธีเขาซึมซับอย่าไปคิดว่าเมืองไทยเป็นที่เดียวที่ทำให้เจ๊กกลายเป็นท่านได้ อังกฤษก็ทำให้คนฮินดูกลายเป็นท่านได้เหมือนกันนะ แล้วเป็นท่านได้แบบสมบูรณ์มากเลย เข้าใจเปล่า ฉะนั้น คุณรับสภาพเปรียบเทียบของสังคม เวลาจะคิดว่าจะทำอะไรในอนาคต เก็ตมั้ย
ฉะนั้น ถามอะไรกันนักหนา (หัวเราะ) คุณก็สร้างประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นมา โดยไม่ต้องไปแบบกูต้องเป็นแบบฝรั่งเศส กูต้องเป็นแบบอังกฤษ กูต้องเป็นแบบเจ๊ก ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มันเป็นอยู่ในโลกนี้ คุณจะสร้างประวัติศาสตร์ตัวเองอะไรขึ้นมา เพราะประวัติศาสตร์นั้นที่คุณจะสร้างขึ้นมา มันต้องเป็นฐานให้คุณยืน ให้ชีวิตคุณและจิตวิญญาณของคุณ มีผลในอนาคตได้ ใช่ป่ะ ไอ้เบื๊อก รู้ประวัติศาสตร์คนอื่น เพื่อจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับตัวคุณเองและคนอื่นนั้นด้วย
ผมบอกพวกพรรคการเมืองว่า เราต้องให้อำนาจไพร่ให้มีประสิทธิภาพในการเสียภาษี นักการเมืองเก่าๆ บอก "อาจารย์ พูดงี้ได้ไง ผมหาเสียง ไปบอกว่าจะทำให้เขาเสียภาษีได้ เขาไม่ชอบ เขาอยากมีรายได้ เขาไม่อยากเสียภาษี" เออ อ้าว ฉิบหายแล้ว ทำยังไงดีวะ (หัวเราะ) ผมไม่ได้บอกให้พูดอย่างนั้น แต่โครงสร้างความคิดของเรามันต้องเป็นอย่างนั้น
ผมภูมิใจมากที่สุด ผมทำงานการเมืองระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยไม่ให้ไปรบกับเวียดนามมา เกือบตายเนี่ยนะ มันเสือกเอาถุงดำมาใส่หัวกบาลผม แสดงว่าความอตัญญูของสังคมนั้นมีจริง
ทีนี้ผมอยากจะบอกอะไร คุณเห็นไหม ไพร่ไทยเนี่ยมันครีเอทีฟจริงๆ มันครีเอทีฟจริง และสามารถจะไปต่อได้ถ้าให้โอกาสเขาได้ ผมทำเรื่องเหล้าหมักเหล้ากลั่น เพราะมันทำกันอยู่แล้ว เอาขึ้นมาบนดิน เราจะได้ควบคุมคุณภาพได้ด้วย เพราะทำกันไปกินเข้าไปตาหลุด ไหวเหรอ
คุณรู้เปล่าพอผมทำเรื่องนี้ ชาวบ้านส่งตัวอย่างเหล้ากลั่นเข้ามาที่สรรพสามิต เขามีแล็ปอันหนึ่งอยู่แถวราชวัตร ชาวบ้านส่งมาให้ตรวจ แล้วแล็ปนี้ตอนกลางคืน ได้ยินเสียง ปัง ปัง ปัง ขวดมันระเบิด ผมบอกคุณให้นะ เรื่องที่หนึ่ง พยายาม ทำยังไงดี ถ้ารัฐให้โอกาสให้กู test กูจะเอาไป test อันที่สอง รัฐให้โอกาสจากดินสู่ฟ้า กูไปเข้าคิว เสียแสตมป์ติดปากขวด ผมอยากให้คำจำกัดความว่า technology for the mass to become productive tax player ไอ้คำว่า tax เนี่ยมันจะมาติดประโยค มีคอมม่า แล้วก็คำว่า tax ทุกประโยคที่ผมพูด พูดไปเรื่อยๆ มีคอมม่าแล้วมี tax อยู่ข้างหลัง
วังวนแห่งการเจริญเติบโตกลับมาก่อประโยชน์ให้กับสังคม เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งทางกายภาพและความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณ ผมถึงบอกว่าของอย่างนี้ใช้กบาลคิด อย่าเห็นว่าการบริโภคภายในโดยประชาชนเป็นเรื่องเล็ก มันเป็นเรื่องใหญ่มาก คุณรู้ไหมอเมริกา จนกระทั่ง 1960s กว่าๆ มันขุด-ปลูก-สร้าง กินกันเองในอเมริกา มากกว่า 80% ของจีดีพีทั้งหมด มันแทบไม่ได้ค้าขายกับหมาที่ไหนเลย แล้วเสือกมีพลังงานเองด้วย เฮฮาฉิบหายเลย นั่นคือความสำคัญของเศรษฐกิจภายในประเทศ มันจะยั่งยืนได้เมื่อมันมีพลวัตการบริโภคที่มีคุณภาพ เข้าใจไหม ไม่ใช่ยั่งยืนเพราะว่าคุณห่มผ้าขาวแล้วลอยอยู่บนเมฆ มันคนละเรื่องกัน
ผมไปหาเสียงกับคุณทักษิณสองหนแล้วผมบอกไม่ไปแล้ว ขี้เกียจ เหนื่อย แล้วหนหนึ่งที่ไปไปหาเสียงแถวเชียงใหม่ นั่งรถกับแก ผมก็บอก เฮ้ย คุณทักษิณ คนเชียงใหม่เนี่ยต้องอย่าให้ฉลาดมากนะ ถ้าเชียงใหม่ฉลาดมากจะวุ่นว่าย ก็ให้น่ารักๆ อย่างนี้ (หัวเราะ) แกมองหน้าผม (หัวเราะ) เอ๊ะ ไอ้ที่ปรึกษาผมมันบ้ารึไงวะ ผมตั้งใจจะหมายถึงส่วนหนึ่งของคำถามของคุณ ก็คือว่า เขาทนได้ เพราะผมคิดว่าเราได้พิสูจน์แล้วว่าส่วนหนึ่งที่เขาได้เห็นโอกาสในชีวิต ได้เห็นรายได้ มีศักดิ์ศรีของตัวเอง สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดขบวนการทางการเมืองของคนอีสานในยุคใหม่ หรือกระบวนการเข้าใจคุณค่าของโอกาสในชีวิต แต่จะเป็นหลักการหรือไม่นั่นอีกเรื่องหนึ่ง
ผมเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของนักกิจกรรมและนักการเมืองจะต้องวาดภาพให้ชาวบ้านเห็นว่าโอกาสของชีวิต มีคุณค่าต่อการเพิ่มพูนโอกาสของชีวิตของเขามากกว่าการแจกเงินชั่วคราว ชาวบ้านถามว่า มึงจะทำยังไง ก็ต้องอธิบายได้ เหมือนกับที่พรรคไทยรักไทยเคยอธิบาย หรือดีกว่าที่พรรคไทยรักไทยเคยอธิบาย ที่เหลือเป็นเรื่องกระบวนการคิดกับชีวิตของตัวเอง แต่เราได้พิสูจน์ว่า คุณค่าของการมอบโอกาสให้ประชาชนมันมีปฏิกิริยาต่อเนื่องมากเป็นทศวรรษ
ถ้าเผื่อเด็กสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของโลก ซึ่งจะช่วยทำบุญให้กับซ้ายแก่ ซ้ายเก่า ซ้ายใหม่ได้มากมายก็คือ อธิบายให้กับตัวเองและสังคมรู้ว่า การขอให้ได้ประชาธิปไตยนั้นก็คือการขอเครื่องมือเสริมสร้างผลผลิตที่ยั่งยืนให้กับสังคมไทย เป็นกระบวนการสร้างผลผลิตของวัตถุและจิตวิญญาณ ถ้ามึงขอประชาธิปไตยเพราะเขาบอกกันมาว่าประชาธิปไตยคืออำนาจชนิดหนึ่งที่แบ่งปันกัน ไปไม่รอด ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือ ประชาธิปไตยเป็นที่แบ่งรับขี้
สมัยผมทำงานกับคุณชาติชาย รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ มาบอกผม พันศักดิ์ ช่วยบอมบ์ภูเขาอันนี้ที่เขมรให้หน่อยสิ เราคิดว่าพอลพตแอบอยู่ตรงนั้น ผมบอก "มึงมาบอกกูทำไมวะ" เขาบอกวุฒิสภาสหรัฐฯ กดดันมัน
เนี่ย.. โยนขี้เลยเห็นไหม เขาว่าวุฒิสภาสหรัฐฯ กดดันให้จัดการเรื่องเขมรแดง เห็นไหม ประชาธิปไตยมันเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่แบ่งรับความรับผิด ความรับผิด ไม่ต้องชอบนะ ความรับผิดกันในองค์กรต่างๆ ของสังคม มันเป็นทางออกของสังคมที่จะปรับตัวในอนาคต อย่างสันติ อย่างมีนัยที่ชาญฉลาด
แล้วที่ฉันเชื่อนะ ฉันไม่มีบอกว่าศาสดาชั้นคือนักเทคโนโลจิสต์คนนั้นคนนี้ ฉันเชื่อในศักยภาพการดิ้นรนของคนอีสาน ไม่ใช่ในฐานะผู้เวทนา คนอีสานก็เหี้ยเป็นเหมือนคนธรรมดา แต่ฉันเชื่อความดิ้นรนของเขาที่สร้างระบบหารายได้ให้ตัวเอง
เช่น สุขุมวิทซอย 1-100 กว่า มีร้านอาหารญี่ปุ่นกี่ร้าน ก่อนโควิด แล้วคุณรู้ไหมเกือบ 100% คนอีสานทั้งนั้น แล้วคุณรู้อีกหรือเปล่าว่ากระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นเคยมีโรงเรียนสอนเป็นมาสเตอร์เชฟของญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ สำหรับดึงเชฟอีสานร้านอาหารญี่ปุ่นไปทำงานสถานทูตญี่ปุ่นทั่วโลก
โตโยต้ารู้ว่าไพร่ไทยคนไหนใช้งานสำหรับไปสอนไพร่ฝรั่งผลิตรถโตโยต้าในสายการผลิตได้ เขาจะมาร์กคนเหล่านี้ไว้ แล้วเอาไปประเทศต่างๆ ในตะวันตก ที่จะไปสอนวิธีทำงานให้กับฝรั่ง ญี่ปุ่นช่างมีความรู้ที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับจิตใจคนไทย จิตใจคนอีสานมากมายจนประยุกต์ให้เป็นรายได้ขององค์กรได้
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น อ้าว เร็ว เด็กประชาธิปไตยอธิบาย ถ้าคุณรู้ไม่พอว่าประชาธิปไตยจะเอาไปทำเหี้ยอะไร คุณไปขอเขาทำไม
การพูดเรื่องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์หรือยกเลิกสถาบันกษัตริย์ มีเกิดขึ้นในเครือจักรภพอังกฤษมาตั้งแต่สมัยคานธี อยากให้อินเดียเป็นประเทศอิสระหรือมีก่อนอีก โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่อตั้ง London school of Economics เป็นกลุ่มที่พูดเรื่องนี้มาก่อนคนอื่นนานมากเลย จนเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายปกติ จนเขาเลิกพูดกันแล้ว
เหตุผล ผมเข้าใจว่าเหตุผลที่เขายังพูดอยู่ ยังเฮฮาอยู่ในเรื่องนี้ แต่ในกระบวนการนี้ ภายในกรอบของประชาธิปไตย และภายในกรอบของ Rule of law ที่ค่อนข้างช่ำชองของอังกฤษ ทำให้การพูดเรื่องนี้เป็นเรื่องเสียดสี เป็นเรื่องวรรณกรรม เป็นเรื่องทำมาหากินของศิลปินและปัญญาชนอังกฤษไป นั่นเรื่องที่หนึ่ง
เรื่องที่สอง ผมคิดว่าในสังคมมันย่อมมีคนพูดเรื่องพิลึกกึกกือเยอะแยะไปหมดเลย ถามว่าอนาคตของประเทศอยู่ที่การพูดเรื่องพิลึกกึกกือไหม ไม่อยู่ อนาคตของประเทศที่สำคัญมากก็คือว่า ผู้กุมอำนาจรัฐมองเห็นอนาคตของประเทศผ่านการใช้พละกำลังของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญในเรื่องประสิทธิภาพหรือไม่
ผมคิดว่าไม่ควรชกลมนะ สิ่งที่คุณจะต้องทำก็คือว่า คนเขามองพวกคุณว่าเนื้อในไม่มีเลย มีแต่ form of righteousness มีแต่ฟอร์มของความถูกต้อง ไม่มีเนื้อในว่าไอ้ความถูกต้องนั้นนำพามาซึ่งอะไร
Marc Saxer เพิ่งเขียนหนังสือออกมา เรื่องการหาพันธมิตรเพื่อจะเปลี่ยนแปลงสังคม เป้าหมายที่สำคัญที่ Marc พูดก็คือว่าเรื่องที่ใช้เพื่อสนทนา ต้องเป็นเรื่องเล่าที่กระตุ้นความสนใจของอีกฝ่ายที่อยากจะสนทนากับคุณ
ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือว่า ผู้ที่ค้ำยันอำนาจรัฐเป็นคนสร้างเรื่องเล่าเอง ที่จะถกเถียงกับอำนาจรัฐว่ามึงทำไม่ถูกอย่างมีประสิทธิภาพมาก ในขณะที่เรื่องเล่าของพวกเราบางคน ยังเป็นเรื่องเล่าเก่าของต้นศตวรรษที่ 20 อยู่
อันนี้เป็นปรากฏการณ์เพี้ยนมากนะ มันคล้ายๆ เศรษฐีที่ซิลิคอน วัลเลย์ เสนอวิธีตัดปัญหาการก่อความไม่สงบของสังคมโดยบอกว่า ขอเสนอรายได้ขั้นต่ำสากลแทนพวกมาร์กซิสต์ อันนี้ไม่ดีเลยอะ เนอะ ใช่มะ มันโรแมนติไซส์ไม่ได้ ประวัติศาสตร์ที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ในบางครั้ง อย่าสำคัญผิด มันเกิดขึ้น ทีนี้กลับมาถามใหม่ โหย เลือดอาบสังคมเกือบตาย มึงทำอะไรกับมันมั่งวะ เห็นไหม บางสังคมในโลกนี้ เราต้องตั้งคำถามนี้ กาแฟคองโกที่เรากินกัน มันฆ่ากันยังไม่ยอมเลิกเลย คุณจะทำอะไรหลังจากเลือดนอง
เธอจะเร่งเครื่องของความเปลี่ยนแปลงได้ยังไง ในเมื่อวัตถุดิบของการเปลี่ยนแปลงมันไม่มี
เอางี้ดีกว่า ผมอาจจะไม่มีความหวังกับคนรุ่นใหม่ แต่ผมหวังว่าคนรุ่นใหม่จะมีความหวังให้กับตัวเองอย่างมีสติและเป็นปราชญ์ที่แก้ไขปัญหาของตัวเองได้ เพราะมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนแก่มันตายห่ากันหมดแล้ว เหลือแต่คนรุ่นใหม่ในสังคม I have to have hope (หัวเราะ) ไอ้ห่า สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของเผ่าพันธุ์ ไม่มีอะไรมาก ฉันมีความหวังกับคนรุ่นใหม่ไหม it doesn't matter ความหวังของผมกระจอก you deal with yourself.
สิ่งที่เขาต้องการน่ะ เป็นเรื่องดึกดำบรรพ์ของสิ่งที่คนคิดเรื่องสังคมจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร แต่ที่ผมอยากเห็นมากๆ ในพวกเรียนสังคมศาสตร์ คือ ทางเลือกในภาคปฏิบัติที่จะเสนอให้กับตัวเองและผู้ซึ่งตนอ้างว่าแคร์ เพราะหากว่าทำได้ เสนอด้วยคนรุ่นใหม่และทำได้ พึ่งพากันได้ พวกที่ถ่วงโยงไม่ให้ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมันก็จะน้อยลง
ประเทศไทยไหวไหม อย่ามาพูดว่าจะทำรถขายอะไร ทำอย่างที่ผมพูด สร้างสังคมไทย สร้างโครงสร้างการศึกษาที่ทำให้คนไทยสามารถรวบรวมอารมณ์ของปัญญาและวิญญาณมาบิดไปบิดมากลายเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาให้กับตลาด นั่นเป็นกุญแจของคุณ
ผมไม่อยากพูดเรื่องการเมืองมากนะ เพราะมันน่าเบื่อหน่าย เอาอย่างนี้ เมื่อไหร่ผู้มีอำนาจในประเทศไทยคิดออกว่า สินทรัพย์ของเขาถูกทำลาย โดยไม่ใช่ไอ้เด็กกะป๊อกล็อกเดินไปเดินมาบนถนน สินทรัพย์ในความเป็นจริงวันต่อวัน บัญชีของเขากำลังถูกทำลาย โดยความไม่สามารถในการบริหาร ที่จะปกป้องและสร้างโอกาสใหม่ให้สินทรัพย์ของเขา มีปัญหามาก
ผู้มีอำนาจในสังคมไทย สิบกว่าปีที่ผ่านมา หรือยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่ได้ผลิตลูกหลานหรือคนที่ตัวเองเชื่อมั่นได้ว่าเป็นคนของตัว ที่มีประสิทธิภาพพอที่จะปกป้องและเปิดโอกาสให้สินทรัพย์ของตัวเองโตมากกว่านี้ ในสถานการณ์ผิดปกติของโลก
ผู้มีอำนาจในสังคมไทยปัจจุบัน นับตั้งแต่การศึกษายัน High finance ไม่สามารถบริหารหัวกบาลของมนุษย์ที่เอามาใช้ ไม่ว่าจะเป็นเจ๊ก แขก จีน ฝรั่ง หรือรัสเซีย หรืออิหร่านก็ตาม มาเพิ่มพูนสินทรัพย์ของเขา หรือสร้างกำไรให้กับตัวเอง
สิ่งที่เห็นอยู่น่าตกใจ ก็คือบรรษัทไทยแย่งขายกาแฟกับตี๋น้อยและหมวยน้อย ธนาคารแย่งส่งก๋วยเตี๋ยวกับกิจการสตาร์ทอัพอื่นๆ ในสังคม มันไม่มีทิศทางของการลงทุน คุณไม่ได้ผลิตสินค้า คุณจึงไม่มีโครงสร้างการจ้างงานที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงของระบบการศึกษาที่ควบคุมโดยพวกคุณเอง เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นคุณก็เห็นอย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ
การพึ่งพากัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันกับศูนย์อำนาจประเภทต่างๆ ของสังคมไทยนั้น ไม่ใช่เผ่าเดียวกัน แต่เป็นกระบวนการพันธมิตร เข้าใจไหม หมายความว่า คนที่อ้างว่าเป็นมิตรมาสัมพันธ์กัน อ้างว่าเป็นมิตรมีปฏิสัมพันธ์กัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ผมเชื่อว่ากลุ่มอำนาจรู้ตลอดเวลาว่า ทุกครั้งที่เขาเสี่ยงชีวิตทำการเปลี่ยนแปลง เขาจะถูกเตะออกจากอำนาจโดยกลุ่มอำนาจทางสังคมชั้นสูงเกือบทุกที ทุกที ไม่เกือบ
แม้แต่นักการเมือง ผมล่ะชอบใจ ชอบใจคุณอนุทินมากเลยที่ให้สัมภาษณ์ว่า ฝ่ายนโยบายไม่มีอะไรเลยนะ ฝ่ายประจำเขาเป็นคนจัด วัคซีนน่ะ จำนวน ซื้อเมื่อไหร่ ซื้อให้ใคร เราให้แต่กำลังใจ ท่านอนุทินกำลังบอกว่า ใครคือผู้คุมอำนาจรัฐที่แท้จริงในสังคมไทย
ฟังดีๆ นะ แต่ในที่สุด คนที่คุมอำนาจของกระเป๋าเงินก็มีความสำคัญมาก คนที่เปิดปิดถุงเงิน เอาเงินออกมา อ้างว่าเป็นรัฐบาลใช่ไหม แต่โครงสร้างของอำมาตย์ไทยมีองค์ประกอบที่ทำให้พิธีการเปิดปิดถุงเงินนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง จนผู้ซึ่งมีอำนาจเปิดปิดถุงเงินรู้สึกรำคาญแต่ทำอะไรไม่ได้ (หัวเราะ)
เพราะฉะนั้น อาการถ้อยทีถ้อยอาศัยสำหรับกลุ่มอำนาจทางวัฒนธรรมกับกลุ่มอำนาจเถื่อน ในที่สุดก็มีปัญหาต่อสถานการณ์ปัจจุบัน สำหรับผมนะ ทั้งแต่ละฐานอำนาจไม่สามารถผลิตลูกหลานตัวเองออกมาคุมอำนาจได้อย่างต่อเนื่อง
ในยุคปัจจุบันนะ ผลิตคำตอบที่เหมาะสมกับความอยาก ข้าพเจ้าประสงค์จะดำเนินต่อไปด้วยอำนาจของข้าพเจ้า จะต้องผลิตคำตอบ ดังนั้นฉันจะต้องผลิตความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นเท่าไร ใช่ป่ะ เพื่อจะบริหารความประสงค์นั้น อยู่ดีๆ ทรัพย์สินของกลุ่มอำนาจทางวัฒนธรรม ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมบริการเป็นแสนๆ ล้าน นอกจากกำไรจะหายนะ รายได้ต่อวันยังหด ดูแล้วก็ไม่มีอนาคตเลย how the fuck you gonna reselect service industry โดยไม่มีคำตอบอื่นก่อน
อุตสาหกรรมบริการเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของสินทรัพย์ของอีลีทไทย อ้าว พวกลื้อน่ะก็ไปเปิดกูเกิลดูสิ ข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้น อาการปัจจุบันจึงเป็นอาการซึ่งไม่แน่นอน
เมื่อก่อนนี้ใครจะบริหารอำนาจกัน เราก็ยังมีความรู้สึกที่หลังกบาลว่า เออ มันคงไปกันได้ สังคมยังไปได้ พ่อค้าข้าวก็ว่าไป ว่ากันไป อันนี้คือคำตอบที่นักธุรกิจอยากได้ ใช่ป่ะ เด็กรุ่นใหม่ก็อยากได้ใช่ป่ะคำตอบว่ามันอะไร ใช่มั้ย คนแก่อย่างผมก็อยากได้ มันอะไรวะ ใครคือประเด็นทั้งหมด ทางเลือกตอนนี้ไม่ต้องมาพูด
เอาแบบจีน เอาแบบอังกฤษ คำว่าแบบอังกฤษของผมไม่ได้หมายความที่เรียนบื้อๆ กันมา อังกฤษคือสังคมแห่งการต่อสู้ จะเอาแบบไหน ว่ามา เอาแบบเกาหลีไหม คือ เกลียด เกลียดซะจนมันบันดาลแพสชั่นที่จะมีครีเอทีฟ เอาอย่างนั้นไหม แล้วทุกกลุ่มอำนาจในเกาหลีเกลียดเหมือนกันด้วย จึงก่อสามัคคีแห่งพลังขึ้นมา
สัมภาษณ์เดือนสิงหาคม 2564