ไม่พบผลการค้นหา
พรรคอนาคตใหม่ติวเข้ม ส.ส.อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เตรียมพร้อมอภิปราย ด้าน 'สุรเชษฐ์' จับตาเม็ดเงินงบลงทุนเป็นประโยชน์ต่อประเทศหรือไม่ แนะใช้งบไม่ซ้ำซ้อนจะพัฒนาประเทศได้ ขณะที่ ส.ส.กทม. ชี้ต้องกระจายลงท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่พรรคอนาคตใหม่ มีการจัดประชุม ส.ส.เตรียมทำหน้าที่อภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ในวันที่ 17 - 19 ต.ค.นี้ โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายพรรค และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ นำทีม ส.ส.ร่วมพิจารณาเนื้อหาเอกสารร่างดังกล่าวที่ได้รับมาแล้วอย่างเข้มข้น 

นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ฉบับนี้ตั้งงบฯไว้จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท ทำให้สนใจด้านงบลงทุนซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญของประเทศ เพราะหากประเทศจะเดินไปข้างหน้า ต้องมีการลงทุน ส่วนจะมากหรือน้อย ไม่สำคัญเท่ากับลงทุนไปแล้วคุ้มค่าหรือไม่ มีประสิทธิภาพหรือไม่ ถ้าเราเอาไปเททิ้งประเทศก็จะพัง ดังนั้น ต้องมาดูว่า การลงทุนของรัฐบาลวางแผนมาดีหรือยัง งบลงทุนร้อยละ 20 ของงบประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท เป็นเพียงแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง เพราะเรากำลังพูดถึงงบประมาณเพียงแค่ปีเดียว เพราะการลงทุนจะลงทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี บางโครงการ 3 ปี บางโครงการ 5 ปี แล้วแบ่งจ่ายเป็นรายปี ดังนั้น เราจะเห็นเพียงเงินก้อนเล็กๆที่ไม่เล็กเพียงก้อนเดียวจากงบประมาณทั้งหมด นอกจากนั้น การลงทุนยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น คมนาคม การศึกษา การบริหารจัดการน้ำ ต้องดูว่าการลงทุนแต่ละอย่างเป็นประโยชน์แต่ประเทศจริงหรือไม่ หากรัฐบาลยังลงทุนกับโครงการซ้ำซ้อนอย่างเรื่องคมนาคม ที่ในหนึ่งเส้นทางมีทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูงและมอเตอร์เวย์ ตนคิดว่าเป็นการลงทุนที่เททิ้งไม่คุ้มค่า

"หากกลับไปดูแผนยุทธศาสตร์ชาติทั้งหมดจะพบว่า แผนการลงทุนด้านคมนาคมจะหนักที่สุด เพราะงบในส่วนนี้จะสามารถพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ หากลงทุนอย่างคุ้มค่าและไม่ซ้ำซ้อน ผมคิดว่าทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ มีโครงการลงทุนหลายๆ โครงการต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว เราไม่สามารถหยุดยั้งในปีนี้ได้ เนื่องจากหลายโครงการผูกพันกันมา ที่สำคัญกว่าคืองบลงทุนบางโครงการไม่สัมพันธ์กับสภาพเศรษฐกิจ เพราะหากพรรคอนาคตใหม่เป็นรัฐบาล เชื่อว่าจะสามารถนำงบลงทุน ไปทำอย่างอื่นได้ดีกว่านี้"

ด้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า มองว่าปัญหาหลักของประเทศตอนนี้คือหลักการกระจายอำนาจ ที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ หากพูดถึงเรื่องงบประมาณกับความเหลื่อมล้ำ เชื่อว่าเชื่อมโยงกันทุกมิติ การเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ เช่น โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาโรงเรียนชั้นนำระดับต้นๆ ของประเทศจะอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ หรือโอกาสในการเข้าถึงแรงงาน งานที่ดี เงินเดือนสูง จะกระจุกตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ หรือหัวเมืองใหญ่ๆ เราจะทำยังไงให้งบลงทุนถูกใช้ไปเพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาไปให้ถึงท้องถิ่นที่สุด หรือกระจายงานที่ดี เงินเดือนที่สูง ไปสู่ท้องถิ่น