และการ “ฟื้นคดี” กรณี “นาฬิกา (หรู) เพื่อน” ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมในยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เป็นที่มา-ที่ไปของการทำ “หนังสือเชิญ” พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “ตู่ใหญ่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย “นั่งหัวโต๊ะ”
กมธ.ป.ป.ช. บรรจุระเบียบวาระการประชุมทั้ง 2 เรื่อง เป็น “เรื่องเสนอใหม่” ในการประชุมกมธ.ป.ป.ช.ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 30 ต.ค.62 และทำหนังสือเชิญ “ตู่เล็ก” พล.อ.ประยุทธ์ และ “บิ๊กป้อม” มาชี้แจง กมธ.ป.ป.ช.มาแล้ว “สามครั้ง” ทุกครั้งส่งมาแต่ตัวแทน มาเป็น “มวยแทน” – ประวิงเวลา
วงประชุม กมธ.ป.ป.ช. ครั้งที่ 3 ถือเป็นครั้งที่ดุเดือดจนสื่อนำไปขยายพาดหัวข่าวใหญ่ในวันรุ่งขึ้นทันที
เพราะเป็นการ “แลกหมัด” กันกลางเวที ระหว่าง “ตู่ใหญ่” กับ “เอ๋-ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งถูกขยับขึ้นมา “ชกข้ามรุ่น” ในฐานะ กมธ.ป.ป.ช.แทนนายธนะสิทธิ์โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี พปชร. ที่ “แตะมือ” ลาออกไป
ยกที่ 1 “คุณ (เอ๋-ปารีณา) มีมารยาทบ้าง ผมกำลังตอบตรงนี้ (พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม-ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ และ นายประสาร หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี) อยู่ เดี๋ยวผมให้พูด”พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวกลางที่ประชุมกมธ.ป.ป.ช. โดยมีเอ๋-ปารีณา ยกมือ-เปิดไมค์ขอพูดแทรก
ยกที่ 2 “ท่านประธานคะ” เอ๋-ปารีณา พูดสอดแทรกขึ้นมาพร้อมยกมือขอพูดระหว่าง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวกับพล.อ.ชัยชาญ-ตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์-นายประสาร-ตัวแทนพล.อ.ประวิตร ที่ทำหนังสือชี้แจงแทนมาโดย “ไม่มีการลงนาม”
“เดี๋ยว ๆ ๆ ท่าน (เอ๋-ปารีณา) อย่าเพิ่ง เมื่อกี้ผมมอบหมายงานให้ท่าน ท่านยังไม่รับเลย ขอให้พูดจบก่อน ผมยังไม่จบประเด็นที่จะพูด เข้าใจนะ คุณอยู่ในสภาคุณก็รู้อยู่แล้ว นะ ประธานยังไม่เรียกให้พูด พูดไม่ได้” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เบรก กมธ.คนใหม่ที่ถูกส่งมาตัดบท
ยกที่ 3 “ท่านประธานคะ ดิฉัน น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นะคะ ดิฉันว่า ถ้าเปิดรัฐธรรมนูญอ่าน การที่ท่าน (พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์) พูดว่าต้องให้ท่านประยุทธ์กับท่านประวิตรมาเองเนี่ย ท่านกำลังใช้อำนาจเกินขอบเขตนะคะ”
“อำนาจของกรรมาธิการสามารถเรียกท่านใดก็ได้มาชี้แจง แต่เป็นเรื่องของความร่วมมือ ที่จะมาหรือไม่มาก็ได้ แต่ถ้าท่านจะมาใช้อำนาจกรรมาธิการเนี่ย มาบังคับให้เขามาอย่างเนี้ย กำลังทำผิดกฎหมายนะคะ”
“ผมผิดกฎหมาย ผมก็รับผิดชอบ นะครับ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์โต้กลับทันที
“ท่านอาจจะติดคุกนะคะ” เอ๋-ปารีณา สวนสู้
“คุณขู่ผมหรือ คุณจบอะไรมา ผมมอบหมายงานให้คุณ คุณยังบอกไม่รับเลย” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวพร้อมชี้หน้า เอ๋-ปารีณา
หลัง “หมดยก” กมธ.ป.ป.ช. มีมติ 6 ต่อ 3 ให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตรมาชี้แจงเป็น “ครั้งที่ 4” ในวันที่ 20 พ.ย.62
“สิระ เจนจาคะ” ส.ส.กทม. พปชร. ในฐานะกมธ.ป.ป.ช. แทนนายพนม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พปชร.ที่ลาออกไป ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวใช้มติ กมธ.ป.ป.ช. 8 เสียง “ขอปลด” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์-ประธานกมธ.ป.ป.ช.
โดยล่าสุด 'สิระ-ปารีณา' ได้ยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พิจารณาว่าพฤติกรรมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ว่า “ผิดจริยธรรม” ของส.ส.หรือไม่ หลังจาก “ตู่ใหญ่” จะหลุดคำว่า “ส.ส.สวะ”
พร้อมกันนี้ 'สิระ' ยังจะดำเนินคดีทางอาญาฟ้องศาลเพื่อเอาผิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฐานหมิ่นประมาทตัวเอง ที่หาว่าตัวเองซื้อเสียง หรือเป็น ส.ส.เศษสวะ ด้วย
ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุว่า “ในห้องประชุมนายสิระก็เรียบร้อยดี ก็มาพูดคุยเป็นคำดีนี่ พอออกจากห้องประชุมจะมาเสนอปลดประธาน คนอย่างนี้มันเป็นคนยังไง มีอะไรจะมาปลด มีอะไรจะมาเปลี่ยน”
“เป็นกระบวนการทางการเมืองของรัฐบาลที่จะมาเล่น จะมาใช้ในสภา เขาไปซื้อใช้มาบ้าง ตั้งแต่ผมรับราชการจนมาเป็น ส.ส. มาการซื้อเสียงเพื่อให้ได้เป็น ส.ส. ทุจริตในวงราชการ ที่นี่แย่ที่สุดตั้งแต่รับราชการมา เป็นแหล่งทุจริตมาก”
“จะพูดกันด้วยเงินหมด เมื่อวาน (13 พ.ย.) เห็นจะดึงตัวฝ่ายเราไปคุยด้วย แจกกล้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่าไปสนใจเลยสวะ ส.ส.พวกนี้ เดี๋ยวจัดการหมด อย่าเอาการเมืองมาเล่น ถ้าผมไม่มีอำนาจแล้วจะเชิญมาทำไม”
“เห็นบอกว่าถ้าปลดแล้วจะมาเป็นประธานเอง ไม่ได้หรอก นี่มันโควตาฝ่ายค้าน อ้าปากไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง โควตาฝ่ายค้านจะยกเลิกได้ยังไง เป็นมติของสภาฯ ประธานกมธ.ป.ป.ช.เป็นของฝ่ายค้าน ประธานชวนยังเปลี่ยนไม่ได้เลย”
นี่จึงเป็นที่มาของการบรรจุ “วาระตอบโต้” เพื่อตรวจสอบกรณีรุกพื้นที่ป่า-สปก. จำนวน 58 แปลง เนื้อที่ 1,706 ไร่ ที่ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ของ “เอ๋-ปารีณา” ที่ใช้เป็นฟาร์มเลี้ยงไก่ ชื่อ “เขาสนฟาร์ม” ในการประชุมครั้งต่อไป
โดย กมธ.ป.ป.ช. จะเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเรื่องการถือครองที่ดินโดยการเสีย “ภาษียอดหญ้า” ภ.บ.ท.5 เช่น กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในเรื่องการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จจะเชิญ “วรวิทย์ สุขบุญ” เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มาชี้แจง-นำเอกสารการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน
เพื่อ “ตรวจสอบย้อนหลัง” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ส.ส.ว่าได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่เป็นที่ดิน 1,706 ไร่ ได้มาเมื่อไหร่และยื่นแสดงทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.หรือไม่
“คุณปารีณาอยู่พรรครัฐบาล กอดคุณประยุทธ์รักกันเหลือเกิน ถ้าหอมแก้มได้ก็หอมไปแล้ว ถ้าให้รัฐสอบจะเป็นอย่างไรล่ะ ถ้าปล่อยให้รัฐสอบจะเป็นไง ถูกไหม ก็ไม่ผิดสิ อะไรก็ไม่ผิด เพราะฉะนั้นกรรมาธิการต้องสอบ รวมทั้งแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จด้วย ไม่ต้องมากอดผมนะ ไปไกลๆ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ
ขณะที่ 'สิระ' ยังถูก “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบ 'สิระ' ว่ามีพฤติกรรมขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 และฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรง หลังปะทะคารมกับรองผู้กำกับ สภ.กระรน จ.ภูเก็ต
การแก้เกมของพรรคพลังประชารัฐที่ส่ง “เบี้ย” มาแลก “ขุน” .
ส่ง “เอ๋-ปารีณา” – “สิระ” มาป่วนเกมลากพล.อ.ประยุทธ-พล.อ.ประวิตรเข้าสภา แต่กลายเป็นว่า “ส่งมาให้ฝ่ายค้านเชือดซ้ำทางการเมือง”
ยิ่งรัฐมนตรี-ส.ส.ของรัฐบาล-พลังประชารัฐหลายคนมีประวัติ “สีเทา”
ยิ่ง “2 ป.” พล.อ.ประยุทธ์-พล.อ.ประวิตร “ให้ท้าย” – คนมีแผล-ชนักปักต้องหลังระวังอาจพลาดท่า “ตายหมู่” ในทางการเมือง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง