ไม่พบผลการค้นหา
การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนจากรัสเซียพุ่งทะยานขึ้นกว่า 55% จากสถิติของเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ แทนที่ตำแหน่งผู้ส่งออกเจ้าใหญ่เดิมอย่างซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากการที่รัสเซียตัดสินใจเพิ่มส่วนลดราคาน้ำมันของตนเอง เพื่อหาผู้ซื้อเจ้าใหม่ หลังชาติตะวันตกคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย สืบเนื่องจากวิกฤตสงครามยูเครน

จากข้อมูลของหน่วยงานศุลกากรของจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 มิ.ย.) เปิดเผยว่า การนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมายังจีน อาศัยผ่านการขนส่งทางท่อขนส่งน้ำมันไซบีเรียแปซิฟิกตะวันออก และการขนส่งทางทะเล คิดเป็นปริมาณรวมกันกว่า 8.42 ล้านตัน ซึ่งเป็นการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียมายังจีนกว่าวันละเกือบ 2 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นมาจากอัตราหนึ่งในสี่ของ 1.59 ล้านบาร์เรลเมื่อช่วง เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่สุดของโลก

บริษัทกลั่นน้ำมันเจ้าใหญ่ของจีนอย่างซิโนเปก และบริษัทน้ำมันเจิ้นหัวของรัฐบาลจีน เพิ่มอัตราการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียอย่างมหาศาล หลังจากตนได้รับส่วนลดราคาน้ำมันพิเศษของรัสเซีย เนื่องจากการที่โลกตะวันตกประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย สืบเนื่องมาจากการทำสงครามในยูเครนของรัสเซียตั้งแต่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา

ส่วนลดราคาน้ำมันของรัสเซียคิดเป็นมูลค่ากว่า 30% ซึ่งช่วยให้รัสเซียสามารถเดินหน้าขายน้ำมันของตนเอง จากการที่ถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรการนำเข้าพลังงาน เพื่อหวังจะโจมตีเศรษฐกิจรัสเซียให้ล่มสลาย และไม่สามารถเดินหน้าทำสงครามในยูเครนต่อไปได้ ทั้งนี้ จากรายงานเมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาระบุว่า รัสเซียส่งออกน้ำมันไปทั่วโลกได้กว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7 แสนล้านบาท)

ราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้น กลับเอื้อประโยชน์ให้แก่รัสเซียในการขายน้ำมันที่สามารถเพิ่มส่วนลดในอัตราที่สูงขึ้นได้ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันโลกปรับตัวพุ่งสูงขึ้นกว่า 60% ตลอดระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมา โดยตัวชี้วัดราคาน้ำมันโลกในตอนนี้ระบุว่า ราคาน้ำมันโลกต่อบาร์เรลตกอยู่ที่ประมาณ 112 เหรียญ (ประมาณ 7,000 บาท)

การซื้อน้ำมันจากรัสเซีของจีน เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาท่าทีที่ระมัดระวังระหว่างจีนกับรัสเซีย หลังจาก สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนออกมาประกาศว่า ตนพร้อมจะให้การสนับสนุนรัสเซีย และยืนยันการเป็นพันธมิตรกับทาง วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียต่อไป ทั้งนี้ จีนไม่เคยประณามการเข้ารุกรานยูเครนโดยรัสเซียเลยแม้แต่โอกาสเดียว

นอกจากการที่จีนจะเลี่ยงการวิจารณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซียแล้ว จีนยังได้กล่าวโจมตีการคว่ำบาตรของโลกตะวันตกต่อรัสเซียว่าไม่ต่างอะไรไปจาก “การก่อการร้ายทางการเงิน” และ “การติดอาวุธทางเศรษฐกิจ” อีกทั้งจีนยังได้กล่าวโจมตีการขายอาวุธไปยังยูเครนของสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ อีกด้วย

ซาอุดีอาระเบียตกไปเป็นผู้ขายน้ำมันรายใหญ่เจ้าที่สอง ในขณะที่เมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ซาอุดีอาระเบียส่งออกน้ำมันมายังจีนคิดเป็นสัดส่วน 9% หรือในปริมาณ 1.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตกลงมาจากช่วงเดือน เม.ย.ที่ 2.17 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้รัสเซียกลับมาเป็นเจ้าของตำแหน่งการส่งออกน้ำมันมายังจีนรายใหญ่สุดในรอบ 19 เดือน

นอกจากนี้ จากการเปิดเผยข้อมูลจากศุลกากรจีนเมื่อวานนี้ยังได้ชี้อีกว่า จีนได้นำเข้าน้ำมันจำนวน 260,000 ตันจากอิหร่าน นับตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าทางการสหรัฐฯ จะประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านก็ตาม แต่จีนยังคงเพิ่มการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยน้ำมันจากอิหร่านคิดเป็นอัตราการนำเข้าน้ำมันมายังจีนถึง 7% ทั้งนี้ การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนพุ่งขึ้นกว่า 12% ในช่วงเดือน พ.ค.


ที่มา:

https://www.theguardian.com/business/2022/jun/20/russia-becomes-chinas-top-oil-supplier-amid-ukraine-war-sanctions?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR1w4p2QoR4YoIioDOzjce0fVcLTuQeLGgS8OUS7IQluVh5AtgrOSgFHcP4