ไม่พบผลการค้นหา
สมเกียรติ ชี้ ราชการไทยถ้าไม่ปรับตัว ประเทศจะถดถอย แก้ปัญหาไม่ได้ แนะให้เริ่มจากมีรัฐธรรมนูญที่ตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง

สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เผย เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ประสิทธิภาพของระบบราชการของไทยอยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น โดยสิ่งที่น่าเป็นกังวลคือ หากปล่อยให้ขีดความสามารถเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าประเทศจะเดินถอยหลังและไม่สามารถแก้ปัญหาสำคัญได้ 

ประธานทีดีอาร์ไอชี้ว่า นับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิดขึ้น ยังเป็นความโชคดีที่รัฐไทยมีขีดความสามารถด้านสาธารณสุขและการบริหารเศรษฐกิจมหภาคสูง ประกอบกับความร่วมมืออย่างดีจากประชาชน จนทำให้ไทยไม่ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เลวร้าย

อย่างไรก็ตาม รัฐกลับมีขีดความสามารถต่ำในอีกหลายด้านสำคัญ อาทิ การให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน แนวทางพัฒนาทักษะแรงงานผ่านระบบศึกษาและการฝึกอบรม ไปจนถึงการส่งเสริมเรื่องการวิจัยและพัฒนาและการบริหารเศรษฐกิจเพื่อลดการผูกขาดทางการค้าและความเหลื่อมล้ำ 

ด้วยเหตุนี้ เมื่อมองโดยรวมแล้ว รัฐไทยจึงไม่ได้มีศักยภาพในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าในระดับสูง ซ้ำร้ายยังเป็นที่มาให้ไทยติดอยู่กับ ‘กับดักรายได้ปานกลาง’ มาเป็นเวลานาน 

สมเกียรติ เสริมว่า หากเปรียบรัฐไทยเป็นระบบคอมพิวเตอร์ จะพบว่าระบบราชการซึ่งเปรียบเสมือนระบบปฏิบัติการ (os) ของภาครัฐมีปัญหาอยู่มากในแทบทุกขั้นตอนการทำงาน ซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนสูงต่อสังคม ทั้งยังเป็นต้นทุนที่ไม่คุ้มค่าด้วย 

“ระบบราชการเสมือน os ที่ตอบสนองช้า หน่วยความจำน้อย ล้าสมัย สร้างภาระให้ประชาชน” สมเกียรติ แจง

ด้วยเหตุนี้ ประธานทีดีอาร์ไอ เสนอว่ารัฐบาลต้องหันกลับมาปฏิรูปตนเอง ผ่านการกลับมาเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชน พร้อมกับการปฏิรูปกฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ส่งเสริมให้มีการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที 

อย่างไรก็ตามสถาบันวิจัยย้ำว่า การปฏิรูปทั้งหมดต้องเริ่มจากการสร้างกติกาบ้านเมือง หรือ รัฐธรรมนูญ ให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตยที่ตอบสนองต่อประชาชนและมีขีดความสามารถสูง ซึ่งทีดีอาร์ไอแนะให้หันไปยึดต้นแบบจากรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน พ.ศ.2540