กระแสภาพโปรไฟล์ NFT ของเหล่าคนดังตะวันตกเริ่มพุ่งสูงขึ้นเมื่อช่วง ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ ปารีส ฮิลตัน ได้ปรากฏตัวในรายการทอล์คโชว์ช่วงดึกของ จิมมี่ ฟอลลอน โดยเธอพูดถึงภาพการ์ตูนวานร Bored Ape Yacht Club ที่ตนซื้อมาด้วยราคาสูง จนเหล่าคนดังอื่นๆ หันมาซื้อ NFT กันอย่างเป็นวงกว้าง สร้างปรากฏการณ์สะท้อนไปถึงผู้คนทั่วไปอีกจำนวนไม่น้อย ที่หันมาตามกระแสการลงทุน NFT ที่ร้อนแรง
อย่างไรก็ดี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพบว่า ทั้งฮิลตันและฟอลลอนได้ลบภาพ NFT ของตัวเองออกจากบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ถึงแม้ว่าฮิลตันจะยังคงขุด NFT เพื่อแสวงหารายได้ต่อไป ทั้งนี้ การแอบลบภาพ NFT ของเหล่าคนดังออกจากอินเทอร์เน็ตสอดคล้องมากันกับกระแสขาลงของราคาคริปโตที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้
ภาพ NFT ที่ออกแบบเองได้เพื่อนำมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ ถูกเปิดตัวกับทวิตเตอร์เมื่อช่วง ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับกระแสความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย หลายต่อหลายคนหันมาทำธุรกิจกับการค้าขายผลงานผ่าน NFT เช่นเดียวกันกับเหล่าคนดังที่หันมาเปลี่ยนภาพโปรไฟล์ของตนเองเป็นรูป NFT เช่น เซเรนา วิลเลียมส์, รีส วิเธอร์สปูน, ชอนดา ไรมส์, ทราวิส เบเกอร์ ไปจนถึง มีค มิลล์
คริปโตวินเทอร์ หรือ ฤดูหนาวของคริปโต คือ หนึ่งในต้นเหตุที่ถูกสันนิษฐานว่าเป็นตัวการที่ทำให้เหล่าคนดังเริ่มตีตัวออกห่างจาก NFT ซึ่งเคยเป็นกระแส หลังจากราคาการซื้อขายคริปโตตกต่ำลงอย่างหนักจนส่งผลให้นักลงทุนคริปโตหลายคนต้องสิ้นเนื้อประดาตัว
ปัจจุบัน ราคาคริปโตยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บริษัทด้านการลงทุนหลายเจ้าต่างออกมาลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า ราคาคริปโตที่กำลังตกลงอย่างน่าใจหายไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เหนือกว่าการจินตนาการว่ามันจะเกิดขึ้น เนื่องจากการลงทุนคริปโตเป็นการลงทุนที่ผูกติดอยู่กับการเก็งกำไรไปเรื่อยๆ โดยไม่มีสินทรัพย์ที่จับต้องได้
ในทางเดียวกัน เมื่อช่วงกลางเดือนก่อน บิล เกตส์ เจ้าพ่อไมโครซอฟต์ อภิมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลก ได้ออกมาแสดงความเห็นบนเวทีงานประชุมของ TechCrunch โดยระบุว่า เทรนด์การลงทุนอย่างคริปโตเคอร์เรนซีและ NFT ต่าง "อิงอยู่กับทฤษฎีคนโง่กว่าแบบ 100%"
เกตส์กล่าวเพิ่มเติมว่า นักลงทุนสามารถทำเงินได้อย่างมากมายในปัจจุบันจากสินทรัพย์ที่ไร้ค่า หรือไม่ก็สินทรัพย์ที่มีราคาสูงมากเกินไป ตราบเท่าที่ยังมีคนต้องการให้ราคากับสินทรัพย์พวกนี้มากขึ้นไปเรื่อยๆ โดย "ทฤษฎีโง่กว่า" ที่เกตส์หมายถึง ก็คือการที่สินทรัพย์หนึ่งซึ่งมีราคาสูงมากเกินไปอยู่แล้ว แต่ยังมี 'นักลงทุนที่โง่กว่า' ยอมให้ราคาที่สูงมากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ เกตส์ยังได้กล่าวถึง Bored Ape Yacht Club ที่หลายคนหันมาลงทุนกับมันว่า "รูปลิงแบบดิจิทัลราคาแพงพวกนี้น่าจะทำให้โลกดีขึ้นอย่างมหาศาลอยู่นะ" โดยที่งานประมูลของ Sotheby ในปี 2564 ภาพดิจิทัล '101 first-edition Bored Ape Yacht Club' ถูกขายไปในราคาสูงถึง 24.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 860 ล้านบาท
อภิมหาเศรษฐีอันดับ 4 ของโลกย้ำว่า เขาคุ้นเคยกับสินทรัพย์ที่จับต้องได้อย่างการทำฟาร์มซึ่งมีผลผลิตออกมาให้เห็นจริงจัง หรือบริษัทต่างๆ ที่มีผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นรูปธรรม โดยก่อนหน้านี้เกตส์เคยแสดงความเห็นกับ Bloomberg ในปี 2564 ว่า "การที่อีลอน มัสก์ และเทสลาลงทุนในบิตคอยน์นั้นก็คือเรื่องหนึ่ง แต่สำหรับนักลงทุนทั่วไปอาจจะไม่จำเป็นต้องไปตามแนวทางนั้น โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้มีเงินเย็นจำนวนมาก"
ที่มา: