นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไม่ขอชี้ขาดคุณสมบัติของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกคำสั่งศาลให้ยุติการปฏิติหน้าที่ ส.ส. เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภาฯ คนที่จะมีอำนาจชี้ขาด คือนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมชี้แจงการทำหน้าที่คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 สามารถเป็นได้ทั้ง ส.ส. และบุคคลภายนอก ซึ่งเรื่องนี้หากตนไปชี้ขาดจะเป็นการเสียมารยาท แต่หากผลการวินิจฉัยของประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นที่พอใจ สามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ แต่ในหลักการ ในอดีตเคยมีการตั้ง ส.ส. ที่ถูกยุติการปฏิบัติหน้าที่มาเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณมาแล้ว และอย่าเอาการตั้งกรรมาธิการสัดส่วนคนนอกมาเปรียบเทียบ เพราะตามข้อบังคับของสภาผู้แทนราษฎร ระบุไว้ชัดเจนว่า กรรมาธิการ ประกอบด้วยบุคคลที่เป็น ส.ส. หรือมิได้เป็น ส.ส. ก็ได้ ซึ่งกรณีนายธนาธร หากเข้าไปในโควตาคนนอก ก็สามารถเป็นกรรมาธิการได้ เหมือนนายวราเทพ รัตนากร และคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ไม่ได้เป็น ส.ส. เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง หรืออุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังนั้น จึงไม่ควรจะสงสัยว่าเป็นคนนอกหรือคนใน เพราะสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนตั้ง ซึ่งจะจัดตั้ง ส.ส. หรือคนนอก 100 เปอร์เซนต์ ก็ทำได้ แต่ปัญหาเป็นเรื่องของคนที่สงสัย จึงต้องหาทางออกที่สภา 

ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า จากคำอธิบาย นายธนาธรสามารถเป็นกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ได้หรือไม่นั้น นายวิษณุ ไม่ตอบ แต่หลักการคือสิ่งที่อธิบายไปหมดแล้ว โดยระบุว่า ไม่ว่า จะเป็นคนนอกหรือคนใน ก็ได้รับสิทธิประโยชน์รับเบี้ยประชุมเท่ากัน แต่ไม่สามารถไปโหวตในที่ประชุมสภาได้เท่านั้นเอง

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่รู้อยู่แล้วว่า จะเกิดปัญหาในการเสนอชื่อนายธนาธรแต่ต้องการทำเพื่อให้เป็นประเด็นทางสังคม นายวิษณุ ตอบว่า คนที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องการทำให้เป็นประเด็นทางสังคมเช่นกัน