ไม่พบผลการค้นหา
'คมนาคม' สั่งทุกหน่วยงานในสังกัด ลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเร่งด่วน เสียงเข้ม ภายใน 2 วัน ขสมก. ต้องไม่มีรถปล่อยควันดำวิ่ง ทยอยยกเครื่องยนต์รถ ขสมก. เป็นไบโอดีเซล B20 จำนวน 2,715 คันภายในต้นเดือน ก.พ. ขอความร่วมมือผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้างดกิจกรรมก่อฝุ่นละออง 16-22 ม.ค. ชี้ รฟท.- รฟม. หามาตรการจูงใจประชาชนใช้รถไฟฟ้าแทนขับรถส่วนตัว

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) บริษัทรถไฟฟ้า รรฟท. จำกัด กำหนดมาตรการเร่งด่วนให้ถือปฏิบัติทันทีในการร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อรับมือสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน 

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กระทรวงคมนาคมได้ประชุมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสั่งเพิ่มเติมมาตรการเพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น ดังนี้

1.ให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ดำเนินการจัดทีมตรวจสภาพรถทั้งหมด 16 ชุด เพื่อตรวจรถโดยสารควันดำในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เข้าตรวจสอบรถโดยสาร ขสมก. ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน โดยต้องไม่มีรถโดยสาร ขสมก. ที่มีควันดำวิ่งเด็ดขาด และขอความร่วมมือภาคเอกชนผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทั่วประเทศดำเนินการนำรถเข้าตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ก่อนรอบอายุกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาควันดำในทันที

2. ให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ดำเนินการปรับเครื่องยนต์เพื่อใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 เพื่อลดมลพิษทันทีในวันที่ 15 มกราคม 2562 815 คัน และดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562  อีก 1,260 คัน รวมการดำเนินงานปรับปรุงสภาพการใช้งานน้ำมันไบโอดีเซล B20 ทั้งสิ้น 2,715 คัน และให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันก่อนรอบปกติ เพื่อช่วยในการลดมลพิษ รวมถึงการเร่งประสานขอรับรถ NGV ในส่วนที่เหลืออีก 119 คัน เพื่อให้บริการประชาชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นอกจากนี้ ขสมก. จะเร่งดำเนินการจัดหารถที่ใช้พลังงานสะอาด 2,188 คัน ประกอบไปด้วย รถโดยสาร NGV รถไฮบริด รถไฟฟ้า (EV) เพื่อแก้ปัญหาระยะต่อเนื่อง 

3. สำหรับพื้นที่ดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าใน 3 โครงการ ได้แก่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม สีเหลือง และสีชมพู ในพื้นที่ถนนสำคัญ 5 เส้นทางได้แก่ ลาดพร้าว แจ้งวัฒนะ รามอินทรา รามคำแหง ศรีนครินทร์ ให้ประสานขอความร่วมมือผู้รับเหมางดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น งานถมดิน ในช่วงวันที่ 16 – 22 มกราคม 2562 รวมถึงเข้มงวดมาตรการในการลดฝุ่นละอองในพื้นที่ก่อสร้าง ลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดรถติดในชั่วโมงเร่งด่วนและเร่งคืนพื้นที่ผิวจราจรที่ดำเนินการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ เพื่อลดปัญหาการจราจรในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีน้ำเงิน 

4. มอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย แก้ปัญหาฝุ่นละอองบริเวณที่จราจรติดขัดหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษ โดยเฉพาะด่านบางขุนเทียน โดยติดตั้งเครื่องปล่อยฝอยละอองน้ำ (High Pressure Water) และแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดที่หน้าด่านเก็บเงินทุกด่านเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองสะสมอย่างถาวร

5. ให้กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กำชับ ติดตามการดำเนินงานของผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ให้เข้มงวดตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม และรบกวนผิวทางจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่าที่จำเป็นเพื่อแก้ปัญหารถติด

6. ให้กรมเจ้าท่า ประสานผู้ประกอบการขนส่งทางน้ำให้มีการตรวจสอบการใช้เครื่องยนต์เรือโดยสาร

7. ให้ รฟม. และบริษัท รถไฟฟ้า รฟฟท. ออกมาตรการเชิญชวนให้ประชาชนใช้บริการระบบขนส่งมวลชนโดยรถไฟฟ้า ในช่วงเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ เช่น พิจารณาลดอัตราค่าจอดรถในพื้นที่จอดแล้วจรของ รฟม. รวมถึงดำเนินมาตรการทางการตลาดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้บริการเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของประชาชนที่พบเห็นรถโดย หากพบรถโดยสารสาธารณะที่มีควันดำให้แจ้งศูนย์ปลอดภัยคมนาคม 1356 และ สายด่วน 1584 ของกรมขนส่งทางบก เพื่อเจ้าหน้าที่ ขบ. ดำเนินการตรวจสอบและระงับการออกวิ่งต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :