พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์โควิด 19 ในประเทศไทยว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อร้อยกว่าคน สถานการณ์ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นและลดลงแบบนี้ ไปเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งที่ตัวเลขลดลง เพราะประชาชนให้ความร่วมมือในการตรวจคัดกรอง และลดการเดินทาง ซึ่งจะทำให้การแพร่ระบาดคลี่คลายด้วยโดยเร็ว สิ่งสำคัญคือต้องร่วมมือกัน ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการใดๆ หากไม่ร่วมมือก็ไปต่อไม่ได้ เหมือนกฎหมายที่ทุกคนต้องเคารพ ถ้าไม่เคารพกฎหมายก็จะเกิดปัญหายุ่งยากตามมา ท้ายสุดทุกคนก็จะมาโทษรัฐบาล ยืนยันรัฐบาลปฎิบัติตามกฎหมายทุกฉบับไม่ได้เลือกมาพูดบางส่วน เพื่อทำให้เกิดความสับสน ดังนั้นขอให้คิดอยู่ในกรอบ และรัฐบาลทำเต็มที่ในการแก้ปัญหาโควิด 19 

ส่วนการที่ท้องถิ่นต้องการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถทำได้เป็นเรื่องสภาท้องถิ่น จะจัดซื้ออย่างไร ต้องจัดทำรายละเอียดทั้งหมด แต่วัคซีนต้องได้รับ อย.

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายคนตั้งความหวังกับวัคซีน รัฐบาลจึงได้จัดหาวัคซีนจากหลายช่องทาง ที่ได้มาตรฐาน อย. เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงกับประชาชน แต่วันนี้เป็นเรื่องที่น่ายินดีวัคซีนที่จะร่วมผลิตกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ส่วนวัคซีนอื่นๆ ต้องตรวจสอบต่อไป ซึ่งวันหน้าการผลิตวัคซีนจะมีมากขึ้น แต่สำคัญต้องดูประเทศที่ผลิตรับรองคุณภาพหรือไม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องตัดสินใจในการสั่งซื้อ

เผยยังมีคนลักลอบเปิดบ่อนอยู่

นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ติดตามตรวจสอบการแก้ปัญหาบ่อน และแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย ซึ่งเห็นว่าแนวทางที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้คือการติดตามจับกุมและใช้มาตรการยึดทรัพย์ ที่ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ แต่ก็ยังมีความพยายามลักลอบเล่นการพนันในหลายพื้นที่ ทั้งในโรงแรมและในรีสอร์ท โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบกับครอบครัวและสังคม พร้อมตั้งคำถามคนเล่นการพนันประกอบอาชีพอะไรถึงยังลักลอบเล่นกันอยู่ทุกวัน เช่นเดียวกับปัญหายาเสพติดจากกรณีล่าสุด ที่พบผู้เสียชีวิตจากการเสพยาแบบใหม่ คือ เคนมผง ที่เห็นว่า แนวทางที่ดีที่สุดคือต้องลดความต้องการเสพ โดยครอบครัวต้องช่วยกันดูแลและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหา ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย 

ขอทุกคนให้ความร่วมมือรัฐบาล แก้ปัญหาโควิด-19 ร่วมกัน ขออย่าเพิ่งเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีเหตุจำเป็น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อ หากไม่ร่วมมือสถานการณ์จะบานปลาย 

นายกรัฐมนตรี ระบุถึงสถานการณ์โควิด-19 ในขณะนี้มีตัวเลขขึ้น-ลง ดังนั้นแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือจากประชาชนมีมากขึ้น และการตรวจคัดกรองที่เข้มข้น ร่วมไปถึงการขอความร่วมมือในการเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การแพร่ระบาดคลี่คลายเร็ว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดจะต้องร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่ารัฐบาลจะออกมาตราการอะไรก็ตาม หากไม่ร่วมมือกันก็ทำไม่ได้ทั้งหมด ก็เหมือนกฏหมาย หากไม่เครพกฏหมาย ก็เป็นต้นทางที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย เกิดความยุ่งยากมากขึ้น สุดท้ายทุกคนก็มาลงโทษที่รัฐบาล

ห่วงอากาศหนาว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ช่วงนี้อากาศเย็น ขอให้ใส่เสื้อให้อุ่นๆ แต่ใครที่ตัวใหญ่อยู่แล้วคงไม่เป็นไร ใครที่ผอมๆต้องระวัง รวมถึงให้ระวังเรื่องการใช้ฝืนไฟด้วย ซึ่งในต่างจังหวัดช่วงเช้ามีอุณหภูมิ 18 องศา ภาคอีสาน 11 องศา ภาคเหนือคงแย่หน่อย ช่วงนี้อากาศเย็นจากประเทศจีนเข้ามาปกคลุมขอให้ติดตามการรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา ส่วนใครที่ซื้อเสื้อหนาวเก่ามาใช้ขอให้นำมาซักและต้มก่อน สำหรับใครที่จุดเตาไฟในห้องนอนขอให้ระวังไฟไหม้ด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• รมว.สธ.ไม่ขัดข้องหากท้องถิ่นจะนำวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่เอง
• 'Sinovac' วัคซีน "คุณภาพกลางๆ" ที่ไทยเลือกใช้สู้โควิด-19
• หญิงไทยผู้รับวัคซีนโควิดฟรี แม้(ยัง)ไม่ใช่พลเมืองแคนาดา
• นายกเล็กเมืองนนท์ ถกปลัด สธ. พร้อมทุ่มงบฯ 4 พันล้าน ซื้อวัคซีนโควิดให้คนนนท์