วันที่ 22 ก.ย. 2564 ที่พรรคเพื่อไทย อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้สร้างความสั่นคลอนให้กับเสถียรภาพของรัฐบาลในการบริหารบ้านเมืองอย่างหนัก เริ่มตั้งแต่การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลดคนใกล้ตัว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จากนั้น พล.ฮ.ระยุทธ์พยายามสร้างพลังกดเบ่งในพรรคด้วยการดึงบริวารในวงล้อมตัวเองเข้ามาในพรรค ทั้งสมศักดิ์ เทพสุทิน นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค แต่ก็ไม่สามารถยึดพรรคพลังประชารัฐได้ และน่าแปลกใจว่าในช่วงนี้มีการรื้อฟื้นหลายคดีที่ถูกดองไว้ขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้ง ทั้งกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ตั้งองค์คณะไต่สวน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับพวกรวม 6 ราย เหตุอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในเครือกระทิงแดง ใช้ที่ดิน “ป่าชุมชน” ใน จ.ขอนแก่น 31 ไร่ ขยายเขตโรงงาน หรือแม้กรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ The MATTER ชนะคดีฟ้อง ป.ป.ช.ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลผลสอบ พล.อ.ประวิตร ยืมนาฬิกาเพื่อน ศาลสั่ง ป.ป.ช.ให้เผยผลสอบข้อเท็จจริงด้วย
อรุณี กล่าวว่าขอให้ประชาชนจับตาดูการลงพื้นที่น้ำท่วมในจังหวัดเพชรบุรี และพระนครศรีอยุธยาในวันนี้ของทั้ง 3ป. เพราะจะเป็นการแบ่งขั้วทางการเมืองระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรอย่างชัดเจน ส.ส. และรัฐมนตรี ที่จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่จะไปเพชรบุรีกับพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่ยังคงอยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะไปพระนครศรีอยุธยากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทั้งในความเป็นจริงแล้วการลงพื้นที่เพื่อดูปัญหาน้ำท่วม เป็นแค่การจัดฉากเพื่อเอาประชาชนมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเท่านั้น
นอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักเป็นปัญหาเรื้อรัง แต่นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกลับไม่สนใจ แม้แต่รัฐมนตรีแรงงานที่เป็นคนพื้นที่ชลบุรี ยังไม่สนใจในความเดือดร้อนของประชาชน แต่กลับไปให้ความสำคัญกับเกมส์การเมืองที่ ทั้ง 3 ป.กำลังวัดพลังสนับสนุนกันอยู่ แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ไม่เคยมีประชาชนอยู่ในหัวใจตั้งแต่แรก หากไม่มีปัญหาการเมืองในพรรคคงไม่ลงพื้นที่แย่งซีนกันเอง สุดท้ายคนที่รับกรรมคือประชาชน ที่ยังต้องทนอยู่ในถุงดำของประเทศ ครอบไว้จนแทบจะขาดอากาศหายใจ ขาดอนาคต ขาดความหวัง ขาดการมีชีวิตที่ดี อนาคตมืดมนไร้หนทาง
ซัดรัฐบาลปล้มเหลวปราบยาเสพติด หลังยึดอำนาจผู้ติดยาเพิ่มทุกปี
นอกจากนี้ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่สถานบำบัดผู้ติดยาเสพติด ที่ จ.กาญจนบุรี ที่สภาพแออัดไม่เหมาะกับการบำบัดผู้ติดยาเสพติดว่า เป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของนโยบายปราบปรามยาเสพติดรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดนรกบนดิน ผู้ติดยาเสพติดแม้กระทำผิด แต่ไม่จำเป็นปฏิบัติกับเขาเหมือนไม่ใช่คน สถานบำบัดผู้ติดยาเสพติดควรเป็นที่พึ่งสุดท้ายก่อนกลับไปใช้ชีวิตปกติ และช่วยลดปัญหาในเชิงสังคมได้ ทั้งนี้เมื่อเปิดเข้าไปดูนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลพบว่าแผนการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติด ถูกบรรจุอยู่ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2561-2580) ในประเด็นความมั่นคงที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นแผนงานที่กว้าง ใช้ระยะเวลานาน และไม่มีการกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน จึงไม่แปลกใจที่สถิติการแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ล้มเหลวตลอดการเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ยึดอำนาจในปี 2557 จนถึงปี 2563 ผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นเกือบทุกปี ถือเป็นอีกหลักฐานแห่งความล้มเหลวชิ้นโบว์ดำของยุทธศาสตร์ชาติอีกด้วย
อรุณี ยังกล่าวอีกว่า ป.ป.ส.มีกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพบว่าบางโครงการใช้งบประมาณไม่เหมาะสมและมากเกินความจำเป็น เช่น ในปี 2563 ใช้งบ 9.99 ล้านบาทไปกับการอบรมนักบริหารยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดร่วมกับสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) รวมถึงการจ้างเหมาเอกชนดําเนินงานเพื่อสนับสนุนงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดถึง 81 ล้านบาท จึงอยากสอบถามว่า งบประมาณเหล่านี้ถูกใช้ไปเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ เหตุใดคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยยาเสพติดจึงแย่ลงเรื่อยๆ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อยากให้ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ทบทวนการทำงานของตัวเองใหม่ เพราะตลอดการเข้ามาเป็นเจ้ากระทรวง การทำงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ทั้ง ป.ป.ส. ป.ป.ง. ดีเอสไอ กรมราชทัณฑ์ สำนักงานคุ้มครองพยาน กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ อ่อนด้อยซึ่งคุณภาพไม่สามารถเป็นที่พึ่งที่หวังให้กับประชาชนได้
"ถ้าคิดวิธีแก้ปัญหาผู้ติดยาเสพติดไม่ออก ลอกการบ้านรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้นะคะ ท่านเคยประกาศนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ว่า “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” ขืนดันทุรังใช้ยุทธศาสตร์ชาติมาแก้ปัญหายาเสพติด แม้แต่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังมองไม่เห็นเลยค่ะ" อรุณีกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง