คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส. กทม., นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.กทม. นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส และคณะทำงาน ลงพื้นที่ย่านสำเพ็ง กทม. เพื่อพบปะกับกลุ่มผู้ค้าสำเพ็งและตัวแทนสมาคมพ่อค้าผ้าไทย ใกล้ท่าน้ำราชวงศ์ ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนเดินตลาด เพื่อรับฟังปัญหาเศรษฐกิจในซอยวานิช 1
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวระหว่างการหารือว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้เป็นรัฐบาล แต่ก็มีกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ที่จะนำปัญหาต่างๆ เข้าไปแก้ไขให้ประชาชนได้ ก่อนหน้านี้ลงพื้นที่เดินตลาดและย่านการค้าในหลายจังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานคร พบสภาพเศรษฐกิจที่เงียบเหงา จึงกล่าวได้ว่าเวลานี้ คือช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคเพื่อไทย พยายามที่จะเสนอให้มีการออกกฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะในเเง่เงินทุน นอกจากนี้ยังต้องคัดค้านประเด็นต่างๆ ที่เป็นผลกระทบจากอีอีซี ให้ทั้งภาครัฐและสาธารณะชนได้รับรู้ รวมถึงผลักดันในสภาฯ เพราะหากไม่แก้ไขจะกระทบไปถึงเอสเอ็มอีและเกษตรกรในระดับฐานราก ก็จะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะจากการเข้ามาของ อาลีบาบา ซึ่งนายทุนรายใหญ่ของจีน
ขณะที่ตัวแทนจากสมาคมพ่อค้าผ้าไทย สะท้อนปัญหาการค้าปัจจุบันว่า หากมีนโยบายจากภาครัฐในการสนับสนุนการค้า ดึงดูดให้คนบริโภคเสื้อผ้าของไทยเอง น่าจะช่วยให้เม็ดเงินจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้า และสิ่งทอได้รับอานิสงส์มากขึ้น ซึ่งอาจจัดเป็นอีเวนต์หรือมีมาตรการส่งเสริมที่ชัดเจน เพราะ ฝีมือการตัดเย็บของไทยมีคุณภาพไม่ต่างจากประเทศคู่แข่งอื่นๆ
โดยผู้ค้าบางราย ไม่อยากให้รัฐบาลกำหนดค่าแรงขั้นต่ำแต่อยากให้เป็น ค่าแรงเสรี ที่สะท้อนกำลังซื้อและต้นทุนการผลิตที่แท้จริง ทั้งมีปัญหาจากการที่ต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจแข่งขันกับผู้ค้าของไทย เป็นเหมือนการแย่งอาชีพ และยังประกอบธุรกิจได้โดยที่ไม่ต้องจดทะเบียน จึงมีช่องว่างเรื่องภาษีที่ได้เปรียบผู้ประกอบการค้าที่จดทะเบียน