เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีรัฐมนตรีบางคนลาออก เพื่อไปเป็น ส.ว. ว่า เป็นเรื่องที่เกิดจากการดำเนินการแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน โดยในส่วนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งมาให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาจาก 200 คน ให้เหลือ 50 คนนั้น ขณะนี้ คสช.ได้คัดสรรเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมสำรองอีก 50 คน คสช.จึงต้องถามเจ้าตัวอีกครั้งว่า เมื่อได้รับเลือกแล้วยังยืนยันที่จะเป็น ส.ว.อยู่หรือไม่ หากยืนยันจะต้องไปจัดการเรื่องคุณสมบัติต้องห้าม โดยเฉพาะการถือหุ้นในกิจการสื่อ การถือหุ้นในกิจการสัมปทาน การถือหุ้นในกิจการที่เป็นสัญญาผูกขาดตัดตอนกับรัฐ ที่จะต้องไม่มาเกิดกับ ส.ว. โดยบางอย่างห้ามเฉพาะเจ้าตัว แต่บางอย่างห้ามไปถึงคู่สมรส บุตร รวมถึงคู่สมรสที่ไม่จดทะเบียน จึงขอให้ช่วยจัดการให้ถูกต้อง ซึ่งผลจากการสอบถามไป มีบางรายไม่ประสงค์ที่จะเป็น ส.ว.แล้วก็มี จึงต้องปรับเลื่อนรายชื่อที่สำรองเอาไว้ขึ้นมาแทน ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเลื่อนรายชื่ออยู่
นายวิษณุ กล่าวว่า อีกส่วนคือ ที่ต้องนำรายชื่อให้หัวหน้า คสช.พิจารณานั้น ขณะนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดสรร ส.ว.ได้นำรายชื่อ ทั้ง 395 คน ให้หัวหน้า คสช.พิจารณาแล้ว ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของ คสช.ไปแล้วจำนวนหนึ่ง ยังไม่เสร็จสิ้นทั้งหมด โดยจะต้องคัดให้เหลือ 194 คน และสำรองอีก 50 คน
โดยมีการคัดไปแล้ว แต่ยังไม่ครบ 194 คน เสร็จไปมากกว่าร้อยละ 80 ที่ติดอยู่คือ เรื่องคุณสมบัติและความสมัครใจ ส่วนรัฐมนตรีบางคนที่ลาออกเป็นเพราะรายชื่อนิ่งแล้ว จึงเหลือหน้าที่เคลียร์คุณสมบัติให้ถูกต้อง แม้แต่ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีคุณสมบัติได้รับการพิจารณาเป็น ส.ว.ก็ควรลาออกก่อนวันที่จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ทั้งนี้ หากพิจารณารายชื่อทั้งหมดเรียบร้อยแล้วจะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ภายในวันที่ 10 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นระยะเวลา 3 วัน หลังจาก กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พ.ค.
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีบุคคลในคณะรัฐมนตรีมีรายชื่อเป็น ส.ว.ถึงครึ่งหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตอบไม่ถูก ไม่กล้าพูด เพราะมันยังไม่นิ่ง ส่วนคนที่นิ่งแล้วสามารถยื่นใบลาออกต่อเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เลย แต่ตนได้ให้คำแนะนำเป็นส่วนตัวกับบางคนว่า เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ชีวิตควรอยู่ให้ผ่านพ้นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไปก่อน จากนั้นอยากอยู่หรือไปก็พิจารณาเอาเอง แต่ไม่จำเป็นต้องลาออกเสียตั้งแต่ตอนนี้ ซึ่งการประชุม ครม.วันที่ 7 พ.ค. ที่จะถึงนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐมนตรีบางคน แต่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของรัฐบาลนี้ เพราะยังไม่รู้ว่าจะตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร หรือว่าตั้งได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม การที่มีรัฐมนตรีลาออกก็ไม่ได้ไปเป็น ส.ว. แต่มีเหตุผลอย่างอื่น จึงใช้ช่วงเวลาเดียวกันนี้ และการที่รัฐมนตรีบางคนลาออกก็ไม่ส่งผลกระทบต่องาน เพราะมีการแต่งตั้งรักษาการขึ้นมาดูแลอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องที่จะประชุม ครม.ต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรมากมาย
ส่วนที่มีข่าวว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ลาออกจากคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อมาเป็น ส.ว. นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่อง แต่ถ้าจะเป็น ส.ว.จริง ต้องลาออกจากประธาน สนช.ด้วย ต่อข้อถามว่า มีกระแสข่าวมาตลอดว่า นายวิษณุจะไปเป็น ส.ว. นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ตอบ และไม่มีอะไรที่ควรเป็นข่าว และเมื่อถามย้ำว่า การที่ไม่ปฏิเสธ แปลว่ามีโอกาสไปเป็น ส.ว.ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ