นพ.อัษฏางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้กรมควบคุมโรคยกระดับการดำเนินมาตรการ เพื่อเฝ้าระวังป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างเข้มข้น เน้นการเฝ้าระวังตามจุดผ่านเข้าประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณสนามบินหลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ในส่วนของประเทศไทยได้เตรียมพร้อมเข้มข้นทุกระดับเฝ้าระวังมาอย่างต่อเนื่องทุกช่องทางเข้า-ออก ทั้งที่ด่านควบคุมโรคที่สนามบินด่านทางน้ำและด่านพรมแดนทางบก ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในต่างประเทศมาตั้งแต่มีรายงานผู้ป่วยในช่วงเดือน ส.ค. 2561
จากการคัดกรองผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 ก.ค. 2562 จำนวนทั้งสิ้น 318 รายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 10-15 ราย ซึ่งไม่พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาแต่อย่างใด โดยทุกรายจะได้รับการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานสากล นอกจากการดำเนินมาตรการที่ด่านควบคุมโรคที่สนามบินแล้ว ในด่านทางน้ำและด่านพรมแดนทางบกได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นเช่นเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง