รายงานข่าวจากเว็บไซต์มติชน ระบุว่า นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 11.43 น. ของวันที่ 16 มีนาคม (ตามเวลาประเทศไทย) หรือ ราวเที่ยงคืนกว่าของวันเดียวกันตามเวลาในสหรัฐฯ ขณะมีอายุ 58 ปี 9 เดือน

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า นายวีรชัยเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูของโรงพยาบาลจอห์น ฮอปส์กิน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นมีรายงานว่า นายวีรชัยเป็นโรคเอ็มดีเอส ซึ่งเป็นกลุ่มอาการผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดในไขสันหลัง

สำหรับนายวีรชัย มีบทบาทสำคัญในการเป็นหัวหน้าคณะฝ่ายกฎหมายของไทยในการต่อสู้คดีพื้นที่ทับซ้อน เขาพระวิหาร เมื่อปี 2556 ขณะที่ ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยในครั้งนั้นศาลโลกไม่ได้ตัดสินให้กัมพูชา ได้รับพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. พื้นที่ "ภูมะเขือ" ศาลไม่ได้ตัดสินเรื่องเขตแดนหรือ ให้ใช้มาตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน และประเด็นสุดท้าย ศาลยังแนะนำให้ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมมือกัน ในฐานะเป็นมรดกโลก โดยมียูเนสโก ร่วมหารือ 

สำหรับประวัติโดยสังเขปของ นายวีรชัย พลาศรัย

นายวีรชัย พลาศรัย มีชื่อเล่น แสบ เกิดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2503 ภรรยาชื่อนางอลิซาเบธ พลาศรัย 

การศึกษา มัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดม และไปศึกษาต่อปริญญาตรีและปริญญาโท Licencie en Droit Public, Universite de Paris X (Nanterre), Maitrise, U.E.R. Droit, Universite de Paris X (Nanterre), Doctorat de 3 emeCycle, Universite de Paris I และปริญญาเอก Pantheon Sorbonne ประเทศฝรั่งเศส และหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (ปรอ.20) 

เริ่มรับราชการ ในกระทรวงต่างประเทศ เมื่อปี 2530 ตำแหน่ง เลขานุการตรี กองแอฟริกาและประเทศกลุ่มอาหรับ กรมการเมือง และเติบโตในหน้าที่การงาน ถึงล่าสุด ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา 

กระทรวงต่างประเทศได้รับรายงานการเสียชีวิตทูตวีรชัยแล้ว แต่ยังไม่ทราบสาเหตุ

น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงได้รับรายงานจากสถานเอกอัคราชทูต ณ วอชิงตัน ดี.ซี. ว่า ท่านทูตวีรชัยได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที 16 มีนาคม เวลา 00.43 น. ตามเวลาสหรัฐฯ ที่โรงพยาบาลจอห์น ฮอปสกิน แมดิซีน มลรัฐแมรี่แลนด์ หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอผลการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาล ด้านการประกอบพิธีศพ ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องภายในครอบครัว