ไม่พบผลการค้นหา
อิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศเปิดตัว “ไทยแบล็ค DLD” โคเนื้อพรีเมียมไขมันแทรก ยกระดับเนื้อโคไทยสู่ครัวโลก

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานงานแถลงข่าวเปิดตัวโคเนื้อสายพันธุ์ใหม่ “ไทยแบล็ค DLD” พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ผศ. น.สพ.ดร.ธีรวัฒน์ สว่างจันทร์อุทัย ผู้แทนคณบดีคณสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) และ น.สพ.วิษณุ ไพศาลรุ่งพนา ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ ณ ลานเอนกประสงค์หน้าตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์ พญาไท 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มุ่งมั่นพัฒนาอุตสาหกรรมปศุสัตว์ของไทยให้ก้าวสู่ระดับโลก ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อ ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยมีแนวโน้มการส่งออกเนื้อโคไปยังตลาดเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับการพัฒนาโคเนื้อพันธุ์ “ไทยแบล็ค DLD” เป็นการพัฒนาเพื่อผลิตเนื้อคุณภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัย โดยมีเป้าหมายเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของเนื้อโคไทยในระดับสากล และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทย ขานรับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการผสมผสานจุดเด่นของโค 3 สายพันธุ์ ได้แก่

- โคพื้นเมืองไทย

- โคแองกัส 

- โควากิว 

ทำให้ได้โคที่มีไขมันแทรกสูง เนื้อนุ่ม รสชาติดี และเหมาะกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยเมื่อได้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพสูง นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าและความสามารถในการแข่งขันของเนื้อโคไทยในตลาดสากลแล้ว ถือเป็นโอกาสดีที่คนไทยควรให้ความสำคัญ “นิยมไทย บริโภคเนื้อโคไทย ต้องโคไทยแบล็คกรมปศุสัตว์” 

‘ต้องขอชื่นชมกรมปศุสัตว์ ที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มุ่งมั่นทำการวิจัยร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย ซึ่งใช้เวลากว่า 15 ปี จนประสบความสำเร็จ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ตอบโจทย์ความนิยมเนื้อโคพรีเมี่ยมในประเทศไทยที่มีมากขึ้น เป็นความท้าทายของกรมปศุสัตว์ ที่จะทำอย่างไรให้สามารถผลิตเองได้ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตจะเดินหน้าพัฒนาสายพันธ์ุที่มีคุณภาพต่อไป โดยนำเทคโนโลยีจีโนมกับการปรับปรุงพันธุ์ เข้ามาใช้ซึ่งช่วยลดระยะเวลา ทำให้สามารถขยายพันธ์ุได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกันนี้ กรมยังได้เตรียมน้ำเชื้อแช่แข็งไว้สำหรับให้บริการผสมเทียมให้กับเกษตรกรที่สนใจไว้ด้วยแล้ว’ 

IMG_20250226190046000000.jpg

นายอิทธิ กล่าว อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์ได้เริ่มพัฒนาโคสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้แม่โคพื้นเมืองไทยที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องของเส้นใยกล้ามเนื้อละเอียด เลี้ยงง่าย ทนโรค ทนแมลง และให้ลูกดก ผสมกับโคพันธุ์แองกัสที่มีเปอร์เซ็นต์ซากสูงและโคพันธุ์วากิวที่มีไขมันแทรกสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีจีโนมเพื่อการคัดเลือกพันธุกรรมที่แม่นยำ การใช้เครื่องอัลตร้าซาวด์ประเมินคุณภาพซากขณะโคมีชีวิต และการเพิ่มจำนวนโคที่มีลักษณะดีเยี่ยมผ่านเทคนิคการย้ายฝากตัวอ่อน การพัฒนา “ไทยแบล็ค กรมปศุสัตว์” ไม่เพียงช่วยลดการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการสร้างตลาดเนื้อโคระดับพรีเมียมภายในประเทศ และส่งออกไปยังตลาดโลก กิจกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ได้พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโคเนื้อไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการ 6 หัวข้อ ได้แก่ 

(1) การแนะนำโคเนื้อพันธุ์ “ไทยแบล็ค DLD” 

(2) เทคโนโลยีจีโนมกับการปรับปรุงพันธุ์ 

(3) การกระจายพันธุกรรมชั้นเยี่ยมด้วยเทคโนโลยีการผลิตตัวอ่อนภายนอกร่างกายและการย้ายฝากตัวอ่อน 

(4) แนวทางการเลี้ยงขุนโคเนื้อคุณภาพสูง 

(5) การประเมินคุณภาพซากโคขณะมีชีวิต

(6) การประกอบอาหารจากโคเนื้อพันธุ์ “ไทยแบล็ค DLD” 

“โครงการนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก สวก. และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนเทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์โคเนื้อ ภายใต้ชื่อ “โครงการการสร้างโคเนื้อพันธุ์ไทยแบล็คสำหรับผลิตเนื้อโคคุณภาพสูง 
ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพที่ทันสมัย” “ไทยแบล็ค DLD” ถือเป็นความสำเร็จของการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี มาพัฒนาสายพันธุ์โคเนื้อของไทย เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์เนื้อโคคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาสายพันธุ์นี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร แต่ยังช่วยลดการนำเข้าเนื้อโคจากต่างประเทศ และสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของประเทศไทยในการสร้างสายพันธุ์โคเนื้อ ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคที่ชื่นชอบเนื้อโคเกรดพรีเมียม” อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าว 

ขณะนี้กรมปศุสัตว์ ได้เตรียมน้ำเชื้อแช่แข็งไว้สำหรับให้บริการผสมเทียมให้กับเกษตรกรที่สนใจ โดยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยการผสมเทียมและเทคโนโลยีชีวภาพทั่วประเทศ สำหรับช่องทางการจำหน่ายเนื้อหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากโคไทยแบล็ค DLD จะมีจำหน่ายที่ร้านค้าสวัสดิการกรมปศุสัตว์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวปิดท้าย