พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 ก.ย. นี้ ว่า ได้มอบหมายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลในภาพรวม โดยให้เจ้าหน้าที่ทำงานในส่วนของตัวเองไป โดยตนได้เน้นย้ำเพียงว่าขอให้ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล เพราะว่าทุกคนเป็นเด็กและเป็นลูกหลานของเราทั้งนั้น และต้องขอร้องอะไรที่ไม่ควรไม่ถูกโดยเฉพาะสถานที่ราชการต่างๆที่มีกติกาและกฎหมายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรปฏิบัติให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างกัน อีกทั้งได้ย้ำเจ้าหน้าที่ ขอให้ดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะอาจมีหลายคนหรือหลายฝ่ายที่พยายามให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น เพื่อนำไปสู่ความบานปลาย ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นไม่ให้เกิดขึ้นแต่ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาทุกคนทราบดี คนทั้งประเทศทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วกฎหมายมันคืออะไร รัฐธรรมนูญคือรัฐธรรมนูญและมีกฎหมายลูกอีกหลายร้อยกฎหมาย ถ้าเราแต่อ้างเรื่องรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวก็เป็นกฎหมายในกรอบใหญ่ แต่ในทางปฏิบัติมีกฎหมายลูกที่ทุกคนต้องระมัดระวังไว้ด้วย ตนไม่ได้ขู่ใครแต่ประเทศชาติมันอยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ดังนั้นถ้าตั้งใจฝ่าฝืนกฎหมาย ตนคิดว่าคนทั้งประเทศจะยินยอมหรือไม่ เพราะเกิดผลกระทบกับคนอื่นด้วยในช่วงนี้ ตนไม่ได้ไปขัดแย้งอะไรกับท่าน จะชุมนุมอะไรที่ท่านอ้างตามรัฐธรรมนูญก็ว่าไป แต่ในส่วนที่จะทำให้บ้านเมืองมันเสียหายเดือดร้อนขอให้มีจิตสำนึกตรงนี้ด้วย เพราะท่านคือคนไทย ถ้าประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีปัญหาอยู่ในช่วงนี้ ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ คงไม่ใช่นายกหรือรัฐบาลเพียงผู้เดียว
"ผมขอให้เข้าใจในหลักการและเหตุผลตรงนี้ด้วย ส่วนแนวทางการขับเคลื่อนอะไรต่างๆ ตนทราบอยู่แล้วว่าจะทำอะไรบ้างไปที่ไหนอย่างไร เพียงขอเตือนให้ระมัดระวังที่สุด อะไรที่ไม่สมควรก็อย่าทำ ตนก็พยายามจะอดทนอย่างยิ่งยวดอยู่แล้ว ท่านก็เห็นว่าระยะเวลาที่ผ่านมาผมก็พยายามอดทน และหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุว่า วันนี้ที่หลายส่วนยังเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจต่างๆ ดังนั้นถ้ามีอะไรที่เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น แล้วสิ่งต่างๆจะดีขึ้นได้หรือไม่ หากไม่ได้แล้วใครจะต้องช่วยกันดูแลต่อไปและใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นอยากให้ทุกคนคิดให้ครบถ้วนกระบวนความ การชุมนุมอะไรก็แล้วแต่ก็เป็นสิทธิ์ แต่สิทธิของคนอื่นจะว่าอย่างไรรวมถึงเรื่องสถานที่ราชการ สิ่งเหล่านี้มีกติกาและกฎหมายของประเทศ ซึ่งทุกคนจะได้ประโยชน์และเสียประโยชน์จากการกระทำ ทำอะไรได้อย่างนั้น แม้ตัวเองอาจจะไม่เดือดร้อน แต่ประเทศชาติเดือดร้อนและคนอื่นเดือดร้อน ดังนั้นในเมื่อทุกคนบอกว่ารักชาติและรักประเทศต้องการจะแก้ไขประเทศก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองก่อนว่าจะต้องเข้าใจกันอย่างไร
หวั่นชุมนุม ทำ 60 ล้านคนได้รับผลกระทบ ชี้ผ่านบทเรียนในอดีตมาเยอะพอแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอดก็ไปไม่ได้ทั้งหมดวันนี้ต้องมองไปข้างหน้า โดยสืบสานจากวันนี้ไม่ใช่จะเปลี่ยนทีเดียวทั้งหมด จึงต้องดูว่าทำได้หรือไม่กฎหมายเป็นอย่างไรวิธีการทำงานเป็นอย่างไร ซึ่งบางคนพูดเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเชื่อถือ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พูดนั้นเป็นอันตราย แต่กลับพูดเพื่อปลุกเร้าคน จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด
เราผ่านบทเรียนกันมาพอสมควรแล้วในอดีตที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดมาหลายครั้งแล้ว บางครั้งก็คนเดิมๆ อยู่ วันนี้ก็ยังทำเช่นนั้นทุกคนก็คงทราบดี ผมคงไม่เอ่ยถึงใครให้มีปัญหากันอีก แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึกตราบใดที่ทุกคนยังอยู่ในประเทศไทยต้องมีจิตสำนึกร่วมกัน ว่าทำอย่างไรให้ประเทศชาติปลอดภัย ประชาชนปลอดภัย การพัฒนาประเทศต่างๆเดินไปข้างหน้า หลายส่วนทุกคนก็ต้องยอมรับว่ามีความก้าวหน้า ผมคิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่นำทุกอย่างมาแก้ไข ปัญหาอุปสรรคในอดีตที่ผ่านมาและเดินหน้าประเทศไทยหลายมิติด้วยกัน จึงขอให้ความเป็นธรรม ด้วยกับการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าคนมายังไงก็ตามแต่ตนก็คิดว่าตนทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย เป็นการทำงานตามหน้าที่ในเมื่อผมเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของตน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ไม่ได้ต้องการให้ใครมาชื่นชมตนเอง แต่ภูมิใจว่าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อใคร ทำเพื่อคนไทยทุกคนทำเพื่อลูกหลาน 67 ล้านคน ดังนั้นขอให้นึกถึงคนกว่า 60 ว่าจะเดือดร้อนหรือไม่ถ้าประเทศชาติวุ่นวาย โดยเฉพาะวันนี้ที่ได้เตรียมการเรื่องการท่องเที่ยวนำคนเข้ามาเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ดังนั้นถ้าทุกอย่างหยุดวันนี้แล้วใครจะทำจะทำได้หรือไม่ จึงขอให้มองและสื่อสารทั้งสองทางและวิเคราะห์ใคร่ควรว่าควรทำอย่างไรกัน ถือเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน เพราะขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาเยอะพออยู่แล้วพยายามแก้ให้มากที่สุด ซึ่งเหมือนวันนี้ที่ตนได้มอบรางวัลให้คนดีๆ ที่ยังมีจำนวนมากกว่าคนไม่ดี ดังนั้นคนไม่ดีก็ต้องแก้และทำให้ตัวเองเป็นคนดีขึ้น และให้สังคมยอมรับมากยิ่งขึ้นเพียงเท่านั้น
ถ้าวันนี้ยังมัวแต่ขัดแย้งกันไปมาก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าใครจะมาหรือจะไปก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ แล้วถามว่าประเทศชาติจะอยู่ได้หรือไม่ ที่เราเรียกว่าศักยภาพของประเทศไทยที่มีมากมายก็จะถูกทำลายไป จึงขอฝากไปยังพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่นอกเหนือจากกลุ่มที่ชุมนุมได้เข้าใจ ว่าเราจะช่วยเหลือบ้านเมืองกันได้อย่างไรในเวลานี้
ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมใช้พื้นที่ใกล้เขตพระราชฐานจะมีการเตือนอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กฎหมายคือกฎหมาย
นายกฯ เผยได้รมว.คลัง คนใหม่เดือนต.ค.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามคนนอก 3 รายชื่อได้แก่ ชาติชาย พยุหนาวีชัย อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมิสิน สมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และกานต์ ตระกูลฮุน อดีตซีอีโอเอสซีจี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ และมีกรอบเวลาที่จะแต่งตั้งเมื่อใด ว่า ก็มีกรอบเวลา ก็คงภายในเดือนหน้า คือเดือน ต.ค.
ส่วนที่การเปิดเผยรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสื่อมวลชนนั้น นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า คนเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ตนยังไม่ได้พูดอะไร ใครเสนอมายังไม่ทราบ ทุกคนมีคุณสมบัติทั้งหมดแต่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี และขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเขาด้วย
เมื่อถามว่าได้มีการทาบทามบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแล้วหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนได้ทาบทามมาตลอด ส่วนมีผู้ตอบรับแล้วหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้คอยฟังเดือน ต.ค.นี้