'บิล เกตส์' ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ กลับมาเอาชนะ 'เจฟฟ์ เบซอส' ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแอมะซอน ในการเป็นคนรวยที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ย.) ที่ผ่านมา
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ 'บิล เกตส์' กลับมายึดบัลลังก์คืนได้หลังห่างหายไปมากกว่า 2 ปี อาจจะเป็นการตัดสินใจมอบสัญญามูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในระบบประมวลผลคลาวด์ ของเพนทากอน ที่ส่งผลให้หุ้นของไมโครซอฟท์โตขึ้นถึงร้อยละ 4 ส่งให้ 'บิล เกตส์' มีความมั่งคั่งถึง 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท ขณะที่ความมั่งคั่งของ 'เจฟฟ์ เบซอส' ลงมาอยู่ที่ 1.08 แสนล้านดอลลาร์าหรัฐฯ หรือประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท
ตามข้อมูลจากดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์กที่วัดความมั่งคั่งของ 500 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก 'เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์' เจ้าของกลุ่มธุรกิจแบรนด์หรูอย่าง LVMH Group ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton นั่งแท่นคนที่รวยที่สุดในยุโรป ติดอันดับที่ 3 ต่อจาก 'บิล เกตส์' และ 'เจฟฟ์ เบซอส'
นอกจากนี้ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ 'บิล เกตส์' กลับมารวยกว่า 'เจฟฟ์ เบซอส' ก็มาจากปัจจัยทางครอบครัวของเบซอสที่ทำให้เขาต้องออกมาหย่ากับอดีตภรรยาและแบ่งเงินเกือบ 1 ใน 4 ของแอมะซอนให้กับเธอในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ขณะที่บิล เกตส์ ไม่เคยผ่านข่าวฉาวแบบนี้มาก่อน จะมีก็แค่ที่เขาบริจาคเงินกว่า 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาทให้กับมูลนิธิ 'บิลและเมลินดา เกตส์' ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2537
นอกจากนี้บิล เกตส์ ยังออกมากล่าวถึงความพยายามในการออกกฎหมายเก็บภาษีคนรวยว่าเขาพร้อมที่จะจ่ายภาษีและจ่ายมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 300,000 ล้านบาทมาตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;