วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่ สุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ ปราศรัย ตำหนินายกรัฐมนตรี ที่นำมาตรา 112 มาดำเนินคดีกับแกนนำผู้ชุมนุม ว่า ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ ตนได้ติดตามข่าวจากในหนังสือพิมพ์ และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามมาตรานี้ก็ไม่เป็นไร การดำเนินคดีตามมาตรา 112 มีกระบวนการอยู่ ที่ยังใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ หนึ่งกฎหมายมาตรา 112 ยังคงมีอยู่ และสองจะใช้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเหตุการณ์ หากมีการพูดคุยกันถึงขั้นเข้าข่ายมาตรานั้นจริงๆ จะละเว้นไม่ได้ พร้อมย้ำกระบวนการในการดำเนินการยังคงมีอยู่ ไม่ใช่ว่าใครคิดจะทำก็ทำได้ ซึ่งกฎหมายมาตรานี้ต่างจากประมวลกฎหมายอาญา 300 กว่ามาตรา ซึ่งมาตรา 112 มีกระบวนการเพื่อกลั่นกรองไม่ให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้โดยง่าย และไม่ใช่ว่าจะ ปรับ ตัด หรือทิ้งไป ซึ่งรายละเอียดขอให้ทางตำรวจเป็นผู้อธิบาย
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ธนบัตรราษฎร หรือคูปองเป็ด ที่ใช้แลกซื้อของภายในกิจกรรมการชุมนุม ที่หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าผิดพ.ร.บ.เงินตรา วิษณุ ระบุว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่ก็ได้ติดตามข่าว ส่วนตัวคิดว่าไม่มีจุดมุ่งหมายให้เป็นเงิน เพราะบางคนได้รับก็ฉีกทิ้งหรือเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของแต่ละคน ตนเชื่อว่าไม่มีเจตนาไปถึงขั้นนำไปแทนธนบัตรชำระหนี้ตามกฎหมาย และยังไม่เข้าข่ายเป็นเงินปลอม เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เงิน
ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า การผลิต การจ่ายแจก หรือนำออกมาใช้ซึ่งธนบัตรเป็ดดังกล่าว เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งผู้ผลิต ผู้จ่ายแจก ผู้นำไปใช้ และร้านค้าผู้รับธนบัตรดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทยมีกฎหมายที่ควบคุมเรื่องดังกล่าวไว้ คือ พระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ.2501 ซึ่งในมาตรา 9 ได้บัญญัติไว้ว่า ห้ามผู้ใดทำ จำหน่าย ใช้หรือนำออกใช้ซึ่งวัตถุหรือเครื่องหมายใดๆ แทนเงินตรา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และมีการดำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนไว้ คือ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
นอกจากนั้นยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240 อีกด้วยที่บัญญัติว่า ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้นๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปีถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000 บาทถึง 400,000 บาท
ส่วนผู้ที่นำธนบัตรเปิดออกใช้จ่ายก็มีความผิดตาม มาตรา 244 ที่บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใดๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 300,000 บาท ดังนั้น การผลิตและนำออกมาจ่ายแจกให้ผู้ชุมนุมและร้านค้าใช้ธนบัตรเป็ด จึงเข้าข่ายความผิดทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถดำเนินการจับกุมดำเนินคดีได้ทันที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :