และแล้วก็เดินทางมาถึงเสียทีหลังจากรอกันมาเนิ่นนาน ลือกันมาหลายเดือนสำหรับวันประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภา ซึ่งเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี สิ่งนี้เองที่จะนำไปสู่ 'การเลือกตั้งใหม่' ที่คนไทยทุกคนจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง หลายคนใช้โอกาสนี้ในการไฟเขียวให้คนที่รัก-พรรคที่ชอบในใจไปต่อ แต่หลายคนก็ใช้การเลือกตั้งครั้งนี้ในการ 'ชำระแค้นด้วยปลายปากกา' ขอกำหนดอนาคตตัวเองใหม่ แต่ก่อนจะถึง 'วันเลือกตั้ง' มี 'ไทม์ไลน์ที่นับโดยประมาณ' หลังจากวันนี้อย่างไร? Voice สรุปให้ดังนี้
1. 25 มี.ค. ประกาศวันเลือกตั้ง - วันรับสมัคร ส.ส.
หลังมีการประกาศพ.ร.ฎ.ยุบสภาในวันนี้ (20 มี.ค.2566) แล้ว ตามกฎหมาย กกต. จะต้องกำหนดและประกาศ 'วันเลือกตั้ง' รวมถึง 'วันรับสมัคร' ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ภายใน 5 วันหลังยุบสภา เท่ากับต้องประกาศภายในวันที่ 25 ม.ค.
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างนี้ รัฐบาลหลังการยุบสภาจะไม่มีอำนาจเต็ม เป็นเพียง 'รัฐบาลรักษาการ' ซึ่งตามรัฐธรรมนูญและพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินกำหนดว่าไม่มีอำนาจในการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อ ครม.ชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี, ไม่สามารถแต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต. , ไม่สามารถอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจาก กกต., ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐในทางส่อที่จะให้เข้าใจได้ว่าใช้เพื่อการหาเสียง
2. 3-7 เม.ย. รับสมัคร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 2 แบบ
หลังจากประกาศวันชัดเจนแล้ว จากนั้น กกต.จะทำการเปิดสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลา 5 วัน และเมื่อปิดรับสมัครผู้ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. และนับต่อไปอีกไม่เกิน 7 วัน กกต.จะต้องประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ รวมถึงการส่งบัญชีรายชื่อผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง (แคนดิเดตนายกฯ) พรรคละไม่เกิน 3 คน คาดว่าการเปิดรับสมัครจะเกิดขึ้นในวันที่ 3-7 เม.ย. และไม่เกิน 14 เม.ย. ต้องประกาศรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 2 แบบ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ แต่ละพรรค
3. 19 เม.ย. ประกาศหน่วยเลือกตั้ง-ชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
จากนั้น กกต.จะประกาศหน่วยเลือกตั้ง สถานที่ลงคะแนน และรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ให้ประชาชนอย่างเราๆ ทราบก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน โดยคาดว่าขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 19 เม.ย.โดย กกต. จะส่งหนังสือแจ้งเจ้าบ้านให้เช็ครายชื่อก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน เราสามารถเช็คได้ว่า ชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านของเราครบถ้วนหรือไม่ ขาดใครหรือเปล่า หรือใครที่ไหนไม่รู้โผล่ชื่อเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของเรา หากมีชื่อเกินหรือขาด เราจะมีเวลาแจ้งและทักท้วงก่อนถึงวันเลือกตั้งได้ไม่น้อยกว่า 10 วัน โดยสามารถแจ้งชื่อได้ที่สำนักงานเขตและอำเภอของแต่ละจังหวัด
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เอง ทางกกต.ก็จะต้อง 'สรรหา' และ 'แต่งตั้ง' คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) ให้เรียบร้อยก่อนถึงวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 20 วัน หากมีการเปลี่ยนแปลงหน่วยเลือกตั้งหรือสถานที่ลงคะแนนจากเดิม ก็จะต้องแจ้งให้ประชาชนทราบก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วันด้วยเช่นกัน
'วันเลือกตั้ง' ที่จะเกิดขึ้นภายใน 45-60 วันนับตั้งแต่ยุบสภาตามที่กฎหมายกำหนด หลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าเป็นวันที่ 14 พ.ค. 2566 กรุณาจดวันนี้ไว้ในปฏิทินด้วยเด้ออออ!
แต่....อ๊ะอ๋า ถ้าวันเลือกตั้งไม่ว่าง ไม่ต้องตกใจ!
เพราะสำหรับคนที่ไปเลือกตั้งในวันเลือกตั้งไม่ได้ จะมีการประกาศวันเลือกตั้งล่วงหน้า ให้พวกเราสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิได้ โดยคาดว่าวันไปที่ให้พวกเราไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าจะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. 2566 แต่สำหรับคนที่ไม่ว่างไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้จริงๆ ก็ยังสามารถแจ้งเหตุที่ไม่สามารถไปใช้เลือกตั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เสียสิทธิอื่นๆ ทางการเมือง เช่น การลงสมัคร ส.ส. ตำแหน่งทางการเมือง หรือสิทธิทางการเมืองต่างๆ ซึ่งถูกจำกัดสิทธิ 2 ปี โดยเราสามารถแจ้งเหตุแห่งการไม่ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ภายใน 7 วัน ก่อนหรือหลังวันเลือกตั้งทางไปรษณีย์และช่องทางออนไลน์ของ กกต.