พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี หัวหน้ากองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวในเวลาต่อมาว่า IDF กำลังสู้รบ "อย่างเข้มแข็งและทั่วถึง" ในฉนวนกาซาตอนใต้ โดยฮาเลวีพูดคุยกับกองหนุนจากแผนกฉนวนกาซา เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ทางทหาร และการสังหารผู้บัญชาการกลุ่มฮามาส พร้อมกันนี้ เขาได้ย้ำกับทหารว่า “เราต่อสู้อย่างเข้มแข็งและทั่วถึงในฉนวนกาซาทางตอนเหนือ และตอนนี้เราก็กำลังทำอยู่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซาด้วย”
โฆษก IDF เปิดเผยในเวลาต่อมาเพื่อยืนยันว่า อิสราเอล “ยังคงขยายการบุกรุกภาคพื้นดินต่อไป” ทั่วทั้งฉนวนกาซา พร้อมย้ำว่ากองกำลังของอิสราเอล “กำลังดำเนินการสู้รบแบบเผชิญหน้ากับผู้ก่อการร้าย”
นับตั้งแต่การหยุดยิงนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ( 1 ธ.ค.) อิสราเอลได้กลับมาทำปฏิบัติการทิ้งระเบิดขนานใหญ่ในฉนวนกาซาอีกครั้ง โดยชาวเมืองข่านยูนิสระบุว่า การทิ้งระเบิดในระลอกนี้ของอิสราเอล เป็นการโจมตีระลอกที่หนักที่สุดจนถึงขณะนี้
ทั้งนี้ การหยุดยิงระยะเวลา 7 วัน ทำให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 110 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา เพื่อแลกกับชาวปาเลสไตน์ 240 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของอิสราเอล
เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ธ.ค.) กองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพไปยังหลายเขตของข่านยูนิส พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนออกจากพื้นที่ไปโดยทันที ทั้งนี้ ทางการอิสราเอลเชื่อว่าสมาชิกผู้นำกลุ่มฮามาสกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองแห่งนี้ ซึ่งมีประชากรหลายแสนคนกำลังหลบภัย หลังจากต้องหลบหนีการสู้รบจากทางพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา ในช่วงแรกของสงครามอิสราเอล-ฮามาส
กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 500 รายนับตั้งแต่อิสราเอลกลับมาทิ้งระเบิดอีกครั้งใส่ฉนวนกาซาหลังการพักรบสิ้นสุดลง โดยปัจจุบันนี้ มีรายงานพบผู้เสียชีวิตในฉนวนกาซาแล้วมากกว่า 15,500 คน นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มทิ้งระเบิดตอบโต้ฉนวนกาซา หลังการโจมตีของกลุ่มฮามาสในพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 ราย และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 240 ราย
ประชาชนในฉนวนกาซาหลายแสนคน ได้หลบหนีการสู้รบเพื่อไปหลบภัยในเมืองข่านยูนิส หลังจากที่อิสราเอลบอกให้พวกเขาหลบภัยออกไปจากพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ในขณะที่จากการรายงานตัวเลขล่าสุดขององค์การสหประชาชาติระบุว่า มีผู้พลัดถิ่นภายในฉนวนกาซาแล้วประมาณ 1.8 ล้านคน
ที่มา: