ไม่พบผลการค้นหา
'ไป๋จิ่ว' สุราที่อยู่คู่กับสังคมจีนมาอย่างยาวนานและส่งออกไปขายทั่วโลกนานนับร้อยปี และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาไป๋จิ่วของจีนก็มียอดจัดจำหน่ายทั่วโลกมากกว่าวิสกี้ดังจากสก็อตแลนด์

เมื่อกล่าวถึง 'สุรา' หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ประเทศหนึ่งที่ทุกคนนึกถึงคือ จีน มีการค้นพบว่าสุราที่เก่าแก่ที่สุดในโลกถูกบรรจุอยู่ในไหดินเผาที่มณฑลเหอหนาน ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีการคาดการณ์ว่าแอลกอฮอล์ในไหนั้นมีอายุระหว่าง 7,000 - 5,800 ปีก่อนคริสตกาล 

สุราของจีนถือเป็นสิ่งที่มีค่าและราคาแพงซึ่งวัฒนธรรมการดื่มสุราได้เข้าไปแทรกซึมอยู่ในทุกๆกิจกรรมทางสังคม การเมือง หรือแม้แต่การสงครามของชาวจีนมานานนับพันปี และกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของคนจีนนิยมดื่ม 'ไป๋จิ่ว' ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกเหล้าขาวในภาษาจีนกลาง โดยหนึ่งในเหล้าขาวที่โด่งดังไปทั่วโลกนั้น คือ 'เหมาไถ'

คุณปิยะพงษ์ กาญจนธานนท์ ผู้บริหารของบริษัทสยามดราก้อน (เอเชีย-แปซิฟิก) กล่าวว่า จีนเป็นประเทศที่ผลิตเหล้ามานานหลายพันปี สุราเป็นเครื่องดื่มที่คู่กับชีวิตมนุษย์มานาน ในงานเลี้ยงสังสรรค์หรือแม่ทัพที่ไปออกรบก็มักดื่มสุราเพื่มความฮึกเหิม ทำให้อุตสาหกรรมสุราของจีนนั้นใหญ่มาก


DSC07304.JPG

(คุณปิยะพงษ์ กาญจนธานนท์ ผู้บริหารของบริษัทสยามดราก้อน (เอเชีย-แปซิฟิก) )

'เหมาไถ' ไป๋จิ่วที่นิยมไปทั่วโลก

'เหมาไถ' เดิมเป็นสุราท้องถิ่นที่ผลิตในเมืองเหมาไถ มณฑลกุ้ยโจวของจีน และกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกเมื่อปี 1915 หลังจากได้รับรางวัลเหรียญทองจากงาน Panama-Pacific Exposition ที่เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และในปี 1951 เหมาไถ ได้รับการขนานนามให้เป็นสุราประจำชาติของจีน ส่งผลให้เหมาไถได้กลายเป็นสุราที่ถูกนำมาเสิร์ฟให้กับผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่มาเยือนจีน 

ทั้งนี้หลังจากการเยือนจีนของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสันของสหรัฐฯในปี 1972 ทำให้ 2 ปีต่อมาเหมาไถได้กลายเป็นที่รู้จักของนักดื่มทั่วโลก และในปี 2017 สุราจีนแบรนด์ 'เหมาไถ' ก็มียอดจัดหน่ายทั่วโลกแซงหน้าวิสกี้ของอเมริกาอย่างจอห์นนี่ วอล์กเกอร์

ปัจจุบันเหมาไถมีมูลค่าการตลาดทั่วโลกสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท และในปีนี้คาดการณ์ว่ากำไรของเหมาไถจะอยู่ระหว่าง 4.20 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.88 แสนล้านบาท) และ 5.27 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 2.36 แสนล้านบาท)


ริชาร์ดนิกสัน_เหมาเจ๋อตุง.jpg

(ประธานาธิบดีนิกสันและนายโจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีจีนดื่มไป๋จิ่วร่วมกันในปี 1972)

คุณปิยะพงษ์กล่าวว่า เหมาไถกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักดื่มทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แม้แต่ในตลาดยุโรป ทวีปที่เป็นต้นกำเนิดแอลกอฮอล์หลายประเภท เหมาไถก็ได้รับความนิยมในหลายประเทศและมีแนวโน้มว่าจะได้รับการยอมรับจากนักดื่มในยุโรปมากขึ้น

ขณะที่ในประเทศไทย กลุ่มนักดื่มหลักของเหมาไถยังคงเป็นคนจีนที่อาศัยอยู่ในไทยเป็นหลัก แต่ในอนาคตสยามดราก้อนมองว่ากลุ่มลูกค้าจะขยายฐานไปยังกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติมากยิ่งขึ้น

ยิ่งผลิตยิ่งไม่พอ

เหมาไถกลายเป็นสุราชั้นนำและยอดนิยมไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่การผลิตนั้นเรียกได้ว่ายังไม่เพียงพอต่อการตอบสนองตลาดนักดื่มทั่วโลก เนื่องจากกระบวนการที่มีความละเอียดและพิถีพิถันเพื่อคงคุณภาพและรสชาติดั้งเดิมไว้ในทุกขวด 

คุณปิยะพงษ์กล่าวว่า เหล้าเหมาไถใช้วัตถุดิบหลักจากเมืองเหมาไถ มณฑลกุ้ยโจวเท่านั้น โดยใช้ข้าวฟ่างแดงที่ปลูกในเมืองเหมาไถและต้องเป็นการปลูกแบบออร์แกนิค ขณะที่น้ำที่นำมากลั่นสุรา ต้องมาจากแม่น้ำ 'ชื่อสุ่ย' หรือแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านมณฑลกุ้ยโจวเท่านั้น ซึ่งในช่วงหน้าฝน น้ำจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เนื่องจากดินที่อยู่รอบๆ และในช่วงเดือนตุลาคมน้ำจะใสจากการตกตะกอนของดินและจะนำน้ำที่ผ่านการตกตะกอนมาผลิตสุรา

นอกจากนี้เหมาไถยังมีข้อจำกัดในเรื่องของปริมาณการผลิต โดยเฉพาะ 'กุ๊ยโจว เหมาไถ' และรุ่นพิเศษต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เหมาไถกลายเป็นที่นิยมของนักดื่มทั่วโลกจากการหาดื่มที่ค่อนข้างยากและมีจำนวนน้อย แม้แต่ในจีนเองแต่ละมณฑลก็มีโควต้าในการขายจำกัดเพียงแค่วันละ 2,000 ขวดเท่านั้น

คุณปิยะพงษ์กล่าวว่า กระบวนการผลิตสุราของเหมาไถ 1 รอบนั้นจะใช้ระยะเวลาขั้นต่ำ 5 ปี เช่น หากในปีนี้มีการผลิตเพียง 100,000 ขวด ในปีที่ 6 ก็จะมีสุราเหมาไถขายเพียงแค่ 100,000 ขวดทั่วโลกเท่านั้น

สำหรับปีนี้เหมาไถวางแผนจะขายเหล้าเพียงแค่ 31,000 ตัน ลดลงจากปริมาณการขายเมื่อปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 32,000 ตัน ส่วนหนึ่งมากจากการผลิตที่ลดน้อยลง

สุราจีนดื่มยังไงก็ไม่ให้แฮงก์ ?

'ไป๋จิ่ว' ขึ้นชื่อว่า เป็นสุราที่ดื่มแล้วไม่แฮงก์หรือปวดหัวในตอนเช้า คุณปิยะพงษ์กล่าวว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นเป็นเพราะกระบวนการกลั่นสุรา อย่าง 'เหมาไถ' มีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันเพื่อให้ได้สุราที่บริสุทธิ์ที่สุดตั้งแต่การนึ่งข้าวฟ่างแดงที่เป็นวัตถุดิบหลักถึง 9 ครั้ง ก่อนจะนำไปหมักอีก 8 ครั้งและเข้าสู่กระบวนการกลั่นถึง 7 ครั้งถึงจะได้ไป๋จิ่วที่มีดีกรีกว่า 53 เปอร์เซ็นต์ 


271D80E2-C27B-45C2-9877-8C4D34CB5A2F.jpeg

('ไป๋จิ่ว' ในจอกเหล้าที่ใสเหมือนน้ำเปล่าแต่มีดีกรีแอลกอฮอลล์กว่า 53 เปอร์เซ็นต์)

ด้วยดีกรีกว่า 53 เปอร์เซ็นต์จึงทำให้ 'เหมาไถ' มีฤทธิ์ที่ร้อนแรง เมื่อดื่มเข้าไปอาจจะมีอาการร้อนวูบวาบในท้องในบางครั้ง แต่ทั้งนี้การดื่มไป๋จิ่วของคนจีนส่วนใหญ่จะดื่มในงานสังสรรค์ หรือดื่มเพื่อการปลุกขวัญกำลังใจให้แก่ทหารในการออกทำศึกสงครามในสมัยก่อน คนจีนไม่นิยมดื่มไป๋จิ่วคนเดียว อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะดื่มในรูปแบบไหนกับใครแต่การดื่มไป๋จิ่วที่ถูกต้องนั้นจะต้องดื่มแบบเพียวๆ ไม่ผสมเครื่องดื่มอื่นลงในแก้ว เพราะจะทำให้สุราเสียกลิ่นและรสชาติ 

หากคำนวณสัดส่วนปริมาณการผลิต 'เหมาไถ่' พบว่าอาจมีเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศเท่านั้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่รัฐบาลจีนคาดหวังและผลักดันคือการส่งเสริมเหมาไถออกไปขายทั่วโลก เพื่อเหตุผลในแง่เศรษฐกิจและส่งออกวัฒนธรรมการกินดื่มของจีนใ่ห้เป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก

ทั้งนี้จะดีแค่ไหน หากรัฐบาลไทยหันมาส่งเสริมสินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของไทย (GI) ให้ไปไกลในระดับโลกได้้บ้าง ซึ่งมันไม่เพียงแต่เป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมในวงกว้าง แต่ยังเป็นการสร้างรายได้ลงสู่ระดับล่างได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย