ไม่พบผลการค้นหา
'รังสิมันต์' เจ็บปวดแทนประชาชนไปไม่ถึงฝัน แต่ยังมีปัจจัยอื่นนอกจาก 'ก้าวไกล' ชี้ถอยมาเยอะแล้ว แต่พยายามฝ่ายเดียวยังไม่พอ

วันที่ 2 ส.ค. ที่ตึกไทยซัมมิท รังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ กรุณพล เทียนสุวรรณ สส.แบบบัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค และ ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรค รับยื่นหนังสือจากกลุ่มคาร์ม็อบ 'แห่มาลัยวิวาห์คล้องใจ สนับสนุน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล' ที่แสดงจุดยืนต้องการให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจับมือร่วมรัฐบาล

โดย รังสิมันต์ กล่าวก่อนรับหนังสือ ว่า เรื่องที่ประชาชนมาวันนี้ ก็เพราะอยากให้ 8 พรรคร่วมจับมือกันแน่น เป็นจุดยืนของก้าวไกลในการจับมือ และที่ทุกคนได้เห็นจากข่าว ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล จะแถลงในมุมของก้าวไกล ตนและตัวแทน สส.ของพรรค มารับหนังสือจากประชาชนที่มาให้กำลังใจ และปรารถนาดี อยากเห็นการทำงาน 8 พรรคในการตั้งรัฐบาลประชาชน และต้องยอมรับว่าการตัดสินใจใดๆ ไม่ได้อยู่เฉพาะที่ก้าวไกล ยังมีตัวแปรอื่นๆ

เมื่อถามว่า เจ้าบ่าวไม่อยู่แล้ว เจ้าสาวจะยังไง รังสิมันต์ กล่าวว่า เข้าใจมาโดยตลอดว่าเราแต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้ว MOU เปรียบเสมือนการจดทะเบียน แต่วันนี้ ไม่ใช่เจ้าสาวรอเก้อ แต่กำลังจะมีการหย่ากันมากกว่า เมื่อถามว่า เมียน้อยจะเยอะหรือไม่ รังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ทราบ คงต้องไปถาม ผู้ที่จะไปมีกิ๊ก หรือจะเรียกว่าภรรยาน้อยอะไรก็แล้วแต่

รังสิมันต์ ระบุว่า อยากขอบคุณประชาชน การมาร่วมตัวกันของประชาชนเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่ถูกยอมรับว่าเป็นประชาธิปไตย แต่หลักการในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเป็นเรื่องที่ถูกยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเป็นสาระสำคัญหากจะบอกว่าจะมีระบอบประชาธิปไตย ผู้ชุมนุมก็มีสิทธิในการแสดงออกอยู่แล้วจึงขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจ และความประสงค์ของผู้ชุมนุมคือต้องการเห็น 8 พรรคทำงานร่วมกัน แต่วันนี้ไม่ใช่การตัดสินใจของพรรคก้าวไกล

ส่วนการที่ต้องไปเป็นฝ่ายค้านจะแสดงฝีมือได้อย่างไรนั้น รังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่ใช่การแสดงฝีมือแต่จะเป็นการทำให้ฝันของประชาชนเป็นจริงมากกว่า ในนามความรู้สึกส่วนตัว หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ก็เห็นสัญญานการปล่อยข่าวมาโดยตลอด และคงรู้อยู่แล้วว่าอาจจะมีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแบบนี้ได้

“แต่ข้อเท็จจริงที่ตนเจ็บปวดที่สุด คงเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่เขาฝัน มันน่าเศร้า มันอีกนิดเดียว คุณเคยรู้สึกมั้ยว่า มันอีกนิดเดียวจริงๆ”

รังสิมันต์ ยอมรับว่า ความพยายามจากพรรคก้าวไกลฝ่ายเดียวยังไม่เพียงพอ ทั้งเรื่องที่พรรคก้าวไกลยอมถอยตำแหน่งประธานรัฐสภา รวมถึงให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลถอยมาเยอะ เพื่อให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลสามารถจัดตั้งรัฐบาลประชาชนได้

แต่เหตุการณ์ในวันนี้ก็ทำให้ทราบแล้วว่าเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ สส.พรรคก้าวไกลกำลังมีการประชุมกัน ว่า เราจะมีจังหวะเดินต่อไปอย่างไร เพราะในวันที่ 4 ส.ค.นี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ซึ่งหลังจากนี้ ชัยธวัช จะมีคำตอบให้สื่อมวลชนและประชาชน ว่าทางพรรคจะเดินต่อไปอย่างไร 

รังสิมันต์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น และหากจินตนาการว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียงเป็นพรรคเดียว ก็น่าจะจบ แม้อาจจะอาจจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะเสียงไม่ถึง 376 เสียง แต่ตนก็เชื่อว่าถ้าเราเหนียวแน่น ต้องรอ 10 เดือนก็ไม่มีความหมาย ซึ่งไม่ต้องถึงก็ได้ แต่ตอนนี้ก็ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าจะเกิดการสลายขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยทำให้เราเจอวิกฤตในตอนนี้ ประชาชนและไม่สามารถตั้งรัฐบาลที่ประชาชนให้มาได้