วันที่ 16 ม.ค. กลุ่มราษฎร พร้อมตัวแทนจากหลากหลายกลุ่ม พร้อมด้วยมวลชนกว่า 50 คน จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาล ที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีการนำผ้าสีขาว ยาวกว่า 200 เมตรจำนวน 3 ผืน วางลงบนพื้นเพื่อให้ประชาชนร่วมเขียนข้อความสื่อถึงผู้มีอำนาจและรัฐบาล โดยเฉพาะการเรียกร้องให้หยุดใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับประชาชน ซึ่งมีประชาชนที่ สัญจรผ่านไปมาให้ความสนใจร่วมกิจกรรมพร้อมเขียนข้อความเพื่อสื่อสารและเรียกร้องไปยังรัฐบาล อาทิ การศึกษาไทยต้องพัฒนา / หยุดคุกคามประชาชน / รัฐบาลล้มเหลวสังคมแตกแยกในภาวะสิ่งแวดล้อมปั่นป่วน / โควิด คือข้ออ้าง

ทั้งนี้ หลังเริ่มกิจกรรมได้เพียงไม่ถึง 10 นาที พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผกก.สน.พญาไท ประกาศไม่ให้มีการทำการชุมนุมมั่วสุมตามประกาศ พรก.ฉุกเฉิน และ พรบ.โรคติดต่อ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมผู้ทำกิจกรรมทุกคนโดยทันที พร้อมทั้งยึดหลักที่เป็นป้ายผ้า ที่ถูกเขียนข้อความทั้งหมด ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อย นำกำลังยึดพื้นที่คืน พร้อมทั้งประกาศให้ประชาชนและสื่อมวลชนที่อยู่ในพื้นที่จัดกิจกรรมออกจากพื้นที่ภายใน 5 นาที

ด้านกิตติ์พิวัฒน์ สีบุญเรือง ตัวแทนการ์ดปลดแอกให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลังเกิดเหตุชุลมุนว่า กิจกรรมวันนี้เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความล้มเหลวของรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยการเขียนลงป้ายข้อความ แต่ตำรวจก็เข้ามาประกาศให้ยุติการทำกิจกรรมโดยอ้าง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเข้าจับกุมผู้ร่วมกิจกรรม

เขามองว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย และเป็นการเข้าจับกุมผู้ร่วมกิจกรรมด้วยความรุนแรงโดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ รัฐบาลต้องออกมารับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว

"วันนี้ตำรวจใช้ความรุนแรง และตีกรอบสิทธิการออกเสียง ยังไงรัฐบาลก็ต้องออกมารับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้" ตัวแทนการ์ดปลดแอกกล่าว

• กิตติ์พิวัฒน์ สีบุญเรือง ตัวแทนการ์ดปลดแอกให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

อย่างไรก็ตามได้มีการจับกุม การ์ดกลุ่มปลดแอกและประชาชนที่ทำกิจกรรม (ไม่ทราบชื่อ) จำนวน 2 คน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีที่ สน.พญาไท ท่ามกลางประชาชนที่ส่งเสียงแสดงความไม่พึงพอใจ ชู 3 นิ้ว แสดงอารยะขัดขืน และเกิดเหตุชุลมุนขึ้นหลายครั้ง ก่อนที่เวลาประมาณ 12.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกระจายกำลังล้อมพื้นที่รอบเกาะพญาไท

ขณะที่ในทวิตเตอร์ แฮชแท็กว่า #ม็อบ16มกรา ขึ้นอันดับหนึ่งของเทรนด์ทวิตเตอร์ ประเทศไทย โดยมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์กระกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าจับกุมผู้ร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว

ผบ.ตร.สั่งจัดการม็อบหากจำเป็น

ที่ สภ.คลองหลวง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่าตำรวจเตรียมออกหมายเรียกกลุ่มการ์ดวีโว่และผู้ที่กระทำความผิดทุกคนข้อหาความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.ธงชาติ ,ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ,ทำให้เสียทรัพย์และข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน หลังกลุ่มการ์ดวีโว่ เปลี่ยนธงชาติไทยบริเวณด้านหน้า สภ.คลองหลวง และนำผ้าสีแดงที่มีข้อความว่า 112 สลับขึ้นยอดเสา เมื่อวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา

พร้อมเตรียมพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับตำรวจที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเพื่อให้เกิดความกระจ่าง รวดเร็วแต่ยึดหลักความเป็นธรรม และเน้นย้ำไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก เนื่องจากกระทบความรู้สึกของคนทั้งประเทศ

ผบ.ตร. ย้ำว่า หลังจากนี้ต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาใหม่ว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ และหากจำเป็นต้องใช้กำลังหรือบังคับใช้กฏหมายก็ต้องทำ อย่าลังเล ขอให้มั่นใจสิ่งที่ทำ เพราะไม่ได้สั่งให้ทำอะไรนอกอำนาจหน้าที่ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดต้องรับผิดชอบร่วมกันและไม่ทอดทิ้งกัน ซึ่งอาจจะเพลี่ยงพล้ำเรื่องการข่าวก็ว่ากันไป แต่อย่างที่บอกว่าสงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร