ไม่พบผลการค้นหา
ปธ.บริษัท คิงส์เกตฯ เผยการพิจารณาคดีข้อพิพาทเหมืองทองระหว่างบริษัทกับรัฐบาลไทย ได้เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมเริ่ม 18 พ.ย. เนื่องจากใช้อนุญาโตฯ ที่ฮ่องกง แต่สถานการณ์ในฮ่องกงรุนแรงขึ้น จึงขอเลื่อนเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและพยาน พร้อมหาทางย้ายที่พิจารณาไปสิงคโปร์ให้เร็วที่สุด

นายรอส สมิธ-เคิร์ก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เปิดเผยถึงความคืบหน้ากระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่าง บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด กับราชอาณาจักรไทย ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (ทาฟต้า) ว่าจากการติดตามสถานการณ์ในฮ่องกงอย่างใกล้ชิด ซึ่งมีการยกระดับความรุนแรงของสถานการณ์เมื่อไม่กี่วันมานี้ บริษัทจึงตัดสินใจร่วมกันกับรัฐบาลไทยขอให้คณะอนุญาโตตุลาการเลื่อนการพิจารณาคดีออกไปก่อน เพราะบริษัทคำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงานและพยานทุกคนของบริษัท

ล่าสุดบริษัทและรัฐบาลไทยได้รับอนุญาตจากคณะอนุญาโตฯ ให้เลื่อนการพิจารณาคดีตามกระบวนการอนุญาโตฯ กับราชอาณาจักรไทย ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย ออกไปจากเดิมซึ่งมีกำหนดพิจารณาระหว่างวันที่ 18 – 29 พ.ย.นี้ ที่ฮ่องกง ซึ่งขณะนี้ บริษัทกำลังเร่งดำเนินการให้มีการจัดการพิจารณาดคีขึ้น ที่ประเทศสิงคโปร์ อย่างเร็วที่สุด

"ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า การเลื่อนพิจารณาคดีในครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าคดีของบริษัทมีความแข็งแกร่งลดลงแต่อย่างใด เพราะเรายังคงมั่นใจในข้อโต้แย้งและหลักฐานต่างๆ ที่เรามี แต่นี่เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่บริษัทพึงมีต่อคนของตน ในการดูแลสวัสดิการและความปลอดภัยของพนักงานและพยานของบริษัท ซึ่งบริษัทจะแจ้งวันและสถานที่ในการพิจารณาคดีให้ทราบในโอกาสต่อไป และบริษัทยังคงพร้อมที่จะเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการปฏิบัติเพื่อหาทางออกร่วมกันกับรัฐบาลไทย" นายรอส กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ในจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ แต่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งมาตรา 44 ให้เหมืองแร่ทองคำชาตรียุติการประกอบกิจการในปี 2559 เป็นสาเหตุให้ทางบริษัทตัดสินใจส่งหนังสือแจ้งรัฐบาลไทยละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย นำไปสู่กระบวนการอนุญาโตฯ ดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :