“ผมไม่ไว้วางใจ คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา และคุณอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ให้กระทำการปฏิรูปกองทัพ โดยกองทัพเองได้ พูดอย่างนี้แล้ว ผมคิดว่าเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญมาก อย่างน้อยที่สุด จะชั่ว จะดี อะไรก็แล้วแต่ ระฆังของการปฏิรูปกองทัพมันถูกตีขึ้นแล้ว” นี่คือคำกล่าวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่กล่าวในงาน จากโคราชสู่ปฏิรูปกองทัพ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2563
พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคการเมืองแรกๆ ที่ชูนโยบายการปฏิรูปกองทัพ ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และได้เริ่มต้นทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการปฎิรูปกองทัพอย่างแท้จริง โดยเริ่มต้นจากความพยายามผลักดันร่างกฎหมายยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร กรณีดังกล่าวเป็นกระแสที่คนในสังคมต่างพูดถึงกันอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เงียบไปท่ามกลางเหตุการณ์ทางการเมือง ปรากฎขึ้นมา
ทว่าการพูดถึงเรื่องการปฎิรูปกองทัพก็ถูกจุดขึ้นอีกครั้ง หลังจากการเกิดโศกนาฏกรรมจากการกราดยิงที่ จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2563 จนทำให้ผู้ชีวิตรวม 30 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
เพียงเวลาไม่นานหลังจากเหตุการณ์ยุติลง คำถามหลายคำถามพุ่งตรงมา เช่นว่า เพราะเหตุใดจึงมีการกดขี่กันระหว่างผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา จนเรื่องราวบานปลายกลายเป็นความสูญเสียมากขนาดนี้
หรือ เพราะเหตุใดคลังอาวุธของกองทัพจึงถูกปล้นได้อย่างง่ายดาย จนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้ก่อเหตุมีอาวุธ และกระสุนมากพอที่จะก่อเหตุได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน และสร้างความเสียหายได้มากขนาดนี้ เพราะเหตุใดหลังจากที่เกิดการปล้นปืนในจุดแรก กองทัพจึงไม่สามารถยุติเหตุการณ์ไว้ได้ในค่ายทหาร
และเพราะเหตุใดจึงมีการปล่อยให้นายทหารชั้นผู้ใหญ่สามารถทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้ ในขณะที่ตนเองเป็นผู้ที่จะต้องเซ็นต์รับรองให้กับการกู้เงินของนายทหารใต้บังคับบัญชา
กระแสดังกล่าวไม่เพียงแต่มุ่งตั้งคำถามกับกองทัพในฐานสถาบันเพียงอย่างเดียว แต่พุ่งเป้าไปยังบรรดานายทหารเกษียณอายุราชการ ที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านพักของกองทัพด้วยมีความเหมาะสมหรือไม่
หนึ่งในบรรดาคนที่ถูกตั้งคำถามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับพุ่งตรงไปที่ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และส.ส.บัญชีรายชื่อ หลังออกมายอมรับว่าแม้จะเกษียณแล้ว ก็ยังอยู่ที่บ้านพักนายทหาร ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งทำให้ พล.ท.พงศกร โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงว่า ขออภัยที่ไม่ได้แจ้งเรื่องการพักในหน่วยทหารให้ทราบตั้งแต่แรก เพราะอยู่ในช่วงทำเรื่องย้ายออก และเพื่อให้การย้ายออกมีความชัดเจน ตนจึงจะทำหนังสือแสดงความต้องการคืนบ้านพักภายในวันที่ 31 มี.ค. นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวงรอบการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี
นอกจากนี้ พล.ท.พงศกร ยังได้ขอลาออกจากกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และหน้าที่รับผิดชอบอื่นๆ หากมีต่อพรรคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปด้วย
เสียงของประชาชนมองว่าอย่างไร?
'วอยซ์ ออนไลน์' สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ นอกจากนี้ ยังถามว่า สมควรหรือไม่ ที่ทหารที่เกษียณอายุราชการแล้ว ยังสามารถอยู่ในบ้านพักข้าราชการได้ โดยประชาชนส่วนใหญ่มองว่าต้องมีการปฏิรูปกองทัพ
ชายวัยกลางคน เขาเป็นพนักงานบริษัท อายุ 37 ปี มีความคิดที่เชื่อว่า ทหารยศที่น้อยๆ ก็โดนกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชาที่ยศใหญ่กว่า
"ผมชอบนะถ้าเลิกซื้ออาวุธ" เขาให้เหตุผลว่าปัจจุบันไม่ต้องไปสู้รบกับใครแล้ว จะซื้ออาวุธมาเพื่ออะไร ก็ดีนะถ้ามีการปฏิรูปกองทัพ ก็ดีเลยแหละ" ชายวัยกลางคน กล่าว
ส่วนประเด็นเรื่องบ้านพักทหารที่ยังมีนายทหารเกษียณอายุราชการยังคงพักอาศัยอยู่นั้น เขาตั้งคำถามว่า ทำไมทหารที่เกษียณอายุราชการแล้ว จึงไม่ไปซื้อบ้านอยู่ข้างนอก แล้วเอาบ้านพักตรงนั้น ให้ทหารที่เข้ามาใหม่อยู่ดีกว่า
ด้าน พนักงานออฟฟิศ อายุ 22 ปี กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าทุกหน่วยงานมีช่องว่างช่องโหว่อยู่แล้ว ต้องไปจัดการภายในองค์กร ส่วนกรณีของบ้านพักทหาร คิดว่า ถ้าหมดวาระแล้วก็ควรออกจากบ้านพักของราชการ เพื่อให้นายทหารรุ่นใหม่ได้เข้ามาอาศัย
ขณะที่ นักศึกษา อายุ 20 ปี กล่าวว่า ถ้าดูจากในต่างประเทศ การเกณฑ์ทหารทำให้มีการสมัครใจ มีสวัสดิการที่ดีกว่า จะได้คนที่มีคุณภาพมากกว่า แล้วเขาก็ตั้งใจทำงานมากกว่า แทนที่จะถูกบังคับมา อีกทั้ง ต้องดูความจำเป็นว่า เรายังต้องใช้ทหารในส่วนไหนบ้างของประเทศชาติ ถ้าเกิดไม่มีความจำเป็น มันกินงบประมาณและภาษี ก็ควรดออกไป
เช่นเดียวกับ นักศึกษาอีกราย อายุ 21 ปี เห็นว่ากองทัพควรถูกปฏิรูป โดยยกตัวอย่าง ในอังกฤษ หรือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งทหารจะไม่ได้มายุ่งเกี่ยว กับการบริหารประเทศ ในต่างประเทศจะปล่อยให้กองทัพของประเทศนั้นได้จัดการเกี่ยวกับกองทัพของตัวเอง ส่วนเรื่องบ้านพักข้าราชการทหารที่ให้นายทหารที่เกษียณอายุราชการได้พักต่อนั้น คิดว่าคงไม่เหมาะสม เพราะว่าเมื่อเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ไม่ควรเอาภาษีรัฐบาล ควรเอาเงินมาสนับสนุน สวัสดิการด้านอื่นของประเทศ โดยเฉพาะด้านการคมนาคมให้ดีขึ้น
อีกหนึ่งความคิดเห็น จากแม่บ้าน วัย 42 ปี ซึ่งมีสามีเป็นทหาร ก็ระบุว่า แม้ตัวเองจะมีสามีรับราชการทหาร ก็คิดว่าต้องมีการปฏิรูปกองทัพ อย่างกรณีเหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ส่วนตัวก็สงสารทหารที่โดนกระทำ
"ประชาชนไม่เข้าใจก็คิดว่าเขาเป็นคนไม่ดี แต่ก็เข้าใจว่า ก็ไม่ควรไปทำกับคนที่ไม่รู้เรื่อง มีหลายอย่าง ควรมีการดูแลทหารระดับชั้นล่างขึ้นไปว่าการเป็นอยู่เขาเป็นอย่างไร ถ้าเกิดใครไม่เข้าไปลึกๆ ตรงจุดนั้นจะไม่ค่อยเข้าใจ เพราะว่าแฟนเราก็เป็นทหาร แต่ว่าเราก็แบ่งนะคะ ว่าอันไหนผิดอันไหนถูก ไม่ใช่ว่าทหารทำผิด แต่เราเข้าข้าง ส่วนกรณีเรื่องบ้านพักข้าราชการทหาร จริงๆ ควรต้องให้ออก เพราะว่าให้คนที่เขามีสิทธิ มีสิทธิได้อยู่ต่อ" แม่บ้านคนดังกล่าวระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง