ไม่พบผลการค้นหา
ไผ่ จตุภัทร์ ศิษย์เก่าโรงเรียนภูเขียว ขอคณาจารย์ในโรงเรียนหยุดคุกคามนักเรียนที่ไป 'ค่ายราษฎรออนทัวร์' พร้อมบุกไปตั้งค่ายหน้า สภ.ภูเขียว หลังนักเรียนที่ลงชื่อไปค่ายถูกติดตาม คุกคามถึงบ้าน

เข้าสู่ปี 2564 ในช่วงเดือนเเรก แม้การชุมนุมที่นำโดยกลุ่มราษฎรจะเบาบางลงไป โดยเหตุผลหลักคือเรื่อง สวัสดิภาพความปลอดภัยของผู้ร่วมชุมนุมจากการแพร่รพบาดของไวรัสโควิด-19 แต่การทำงานทางความคิดของกลุ่มราษฎรนั้นยังคงเดินหน้าต่อไป

หนึ่งในกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือ การจัดค่ายเรียนรู้ปัญหาการเมือง และเรียนรู้หลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษชน นำโดย จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ซึ่งเป็นคนเริ่มกระบวนการจัดค่ายเพื่อนำ นิสิต นักศึกษา และนักเรียนมัธยมศึกษาในภาคอีสานเข้ามาเรียนรู้เรื่องดังกล่าว ในพื้นที่หมู่บ้านนาหนองบง ตำบลเขาหลวง อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย

ก่อนเริ่มค่ายมีนักเรียนสนใจกว่า 30 คน แต่ถูกทำให้กลัวจนเหลือคนไปแค่ 3 คน

ค่ายเรียนรู้ดังกล่าว มีการจัดขึ้นแล้วทั้งหมด 2 รอบ ใช้ชื่อค่ายว่า 'ราษฎรออนทัวร์' ครั้งแรกจัดขึ้นโดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักกิจกรรมในมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคอีสาน โดยค่ายครั้งนี้จัดโดยไร้อุปสรรคและสำเร็จลุล่วงไปแล้วในช่วงระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. ที่ผ่านมา

ทว่าปัญหาเริ่มเกิดขึ้นในการจัดค่ายครั้งที่สอง ที่จัดขึ้นช่วง 28-31 ม.ค. ซึ่งกลุ่มราษฎรได้วางกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา ในอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก แรกเริ่มเดิมทีหลังจากมีการประชาสัมพันธ์การออกค่ายไป ปรากฏว่า มีกลุ่มนักเรียนมัธยมฯ ในโรงเรียนภูเขียว ประมาณ 30 คนลงชื่อแสดงเจตจำนงค์เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ จนกระทั่งก่อนถึงวันเดินทางไปยังหมู่บ้านนาหนองบง จำนวนผู้เข้าร่วมค่ายจากอำเภอภูเขียวเหลืออยู่เพียง 3 คนเท่านั้น

เหตุที่เป็นเช่นนั้น ใช่ว่านักเรียนกลุ่มดังกล่าวจะถอดใจล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปเรียนรู้กับกลุ่มราษฎรไปเอง แต่เป็นเพราะพวกเขาถูกเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างข้าราชการครู และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สร้างบรรยากาศของความกลัวขึ้นจนต้องยุติความตั้งใจเดิม

ครูประจำชั้นส่งไลน์ห้ามไปค่ายราษฎรออนทัวร์ โจมตีเป็นค่ายล้างสมอง

เริ่มต้นจากโรงเรียน ผู้ประสานงานค่ายราษฎรออนทัวร์ ให้ข้อมูลว่า มีครูประจำชั้นของแต่ละห้องเรียนส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มไลน์ ทั้งกลุ่มไลน์ของห้องเรียน และกลุ่มไลน์ของผู้ปกครอง เพื่อแจ้งให้ทราบว่าโรงเรียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดค่ายดังกล่าว และแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีนักเรียนไปร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ยังพบว่ามีครูบางคนใช้ข้อความลดทอนค่ายดังกล่าวด้วยว่าเป็น 'ค่ายล้างสมอง'

ตำรวจโทรหาพ่อมานักเรียนที่ลงชื่อไปค่าย ไปหาที่บ้าน ขู่ให้ระวังตัว ตั้งด่านสกัด และขับรถตามไปถึงจังหวัดเลย

ขณะเดียวยังพบว่า มีนักเรียนหลายอย่างน้อย 4 ราย ที่ลงชื่อว่าจะไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรไปพูดคุยกับผู้ปกครองในเชิงขอความร่วมมือแกมข่มขู่ ให้ห้ามไม่ให้บุตรหลานเดินทางไปร่วมกิจกรรมดังกล่าว ในกรณีที่นักเรียนบางคนยังคงยืนยันว่าจะร่วมกิจกรรม ก็พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเดินทางไปพบที่บ้าน และถ่ายภาพบ้านของนักเรียนคนดังกล่าวไว้ด้วย

สุดท้ายยอดรายชื่อผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมก็ลงลดเหลือเพียง 3 คนเท่านั้น แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การติดตาม และการคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐจะยุติลง ปรากฎว่า ในวันที่ 28 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเดินทางออกจากอำเภอภูเขียว นักเรียนมัธยมฯ รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า บริเวณจุดนัดขึ้นรถพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาถ่ายป้ายทะเบียนรถตู้ที่ทางกลุ่มราษฎรจัดเตรียมไว้สำหรับการเดินทาง และขับรถตามมาประมาณ 20 กิโลเมตร

เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดเลยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอ้างว่าตั้งด่านตรวจโควิด เรียกให้รถตู้ที่เดินทางมาหยุด ในขณะที่รถคันก่อนหน้าที่ผ่านไปหลาย ไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่เรียกตรวจแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอให้ผู้โดยสารในรถทุกคนแสดงบัตรประชาชน พร้อมทั้งขอถ่ายภาพบัตรประชาชนเก็บไว้ แต่อย่างไรก็ตามทางผู้ประสานงานค่ายได้ติดต่อทนายความ เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจยินยอมที่จะให้รถตู้โดยสารของกลุ่มราษฎรผ่านไปได้

และสุดท้ายเมื่อเดินทางไปถึงบริเวณหน้าทางเข้าหมู่บ้านนาหนองบง ก็พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดรถอยู่บริเวณดังกล่าวด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามค่ายดังกล่าวก็ไม่จัดกิจกรรมเสร็จสิ้นตามวัตถุประสงค์ แต่ในช่วงเดินทางกลับไปยังอำเภอภูเขียว ยังคงสังเกตได้ว่ามีคนขับรถตามมาด้วยเช่นกัน

ราษฎรออนทัวร์หน้า สภ.ภูเขียว.jpg

เมื่อครูว่าค่ายล้างสมอง ก็ไปชี้แจงวัตถุประสงค์หน้าโรงเรียน เมื่อตำรวจอยากรู้เรื่องค่าย ก็ตั้งค่ายหน้าสถานีตำรวจ

ต่อมาวันนี้ เวลา 08.00 น. กลุ่มราษฎร นำโดยสมาชิกจากกลุ่ม UNME of Anarchy ทราย เจริญปุระ และแอมมี่ the bottom blues ได้เดินทางไปบริเวณรั้วด้านข้างโรงเรียนภูเขียว เพื่อชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการจัดค่ายราษฎรออนทัวร์

จตุภัทร์ ย้ำว่า ขอให้อาจารย์ฝ่ายปกครองและครูโรงเรียนภูเขียวหยุดปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของนักเรียนเพราะตัวเองก็เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนภูเขียว จากนั้นตัวแทนกลุ่ม UNME of Anarchy จึงอ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีนักเรียนถูกปิดกั้นการเข้าร่วมค่ายราษฎรออนทัวร์ครั้งที่ 2 ว่า การทำค่ายราษฎรออนทัวร์มีจุดประสงค์ เพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์ และปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม

ต่อมากลุ่มราษฎรได้เดินทางไปกางเต็นท์แคมป์ปิ้งที่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจภูธรภูเขียว โดยมีความตั้งใจว่าจะจัดค่ายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็น หากมีข้อสงสัยอะไรจะได้เข้ามาถามได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปคุกคามนักเรียนมัธยมในพื้นที่ ที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเจรจา พร้อมยินดีตั้งโต๊ะแถลงข่าวขอโทษที่เข้าไปคุกคามกลุ่มนักเรียนมัธยมฯ โดยจะแถลงข่าวขอโทษในเวลา 18.00 น.

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น. กลุ่มราษฎรได้จัดเวทีปราศรัยทางการเมือง พร้อมขึ้นป้าย 'ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์' และป้าย 'SAVEเมียนมาร์' ที่ด้านหน้า สภ.ภูเขียว ระหว่างรอการแถลงขอโทษของเจ้าหน้าที่ตำรวจ