พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประมงที่จังหวัดตราดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2562 โดยเสนอให้แก้ไข พ.ร.ก. ประมงมาตรา 34, 69, และ 81 ว่าสังคมไทยจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าการแก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายบางมาตรานั้นจะเป็นผลดี หรือส่งเสริมการทำลายล้างทรัพยากรทางทะเลฝ่าฝืนมาตรฐานแรงงาน และเปิดช่องให้มีการค้ามนุษย์เหมือนในอดีตกันแน่
การลงพื้นที่หรือหาประโยชน์ทางการเมืองนอกสภานั้นอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทรัพยากรและเศรษฐกิจการประมงของชาติ โดยไม่รู้ตัวหากศึกษาข้อกฎหมายอย่างแท้จริงจะพบว่า ถ้ายกเลิกมาตรา 81 จะทำให้การประมงกลับไปไร้การควบคุมเหมือนที่ผ่านมา ถ้าไม่มีอุปกรณ์ VMS ก็จะไม่รู้ว่าเรือประมงลำใดออกนอกน่านน้ำ หรือไปทำประมงผิดกฎหมายซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นกติกาสากล
นอกจากนี้การเขียน logbook มีไว้เพื่อใช้พิสูจน์แหล่งที่มาของสินค้าประมงและยังนำข้อมูลไปจัดสรรวันทำประมงได้ส่วนการที่เรือประมงต้องแจ้งศูนย์ PIPO นั้นจะช่วยตรวจสอบให้แรงงานเข้าออกอย่างถูกต้อง
สำหรับมาตรา 69 ที่ห้ามจับปลากะตักในเวลากลางคืน ก็เพื่อรักษาปริมาณปลากะตักให้เหมาะสม มีปลาเหลือให้ลูกหลาน เพราะกลางคืนปลากะตักจะรวมเป็นฝูงขนาดใหญ่ หากจับในเวลานี้จำนวนปลาจะลดลงเร็วขึ้น
ส่วนมาตรา 34 ที่ห้ามชาวประมงพื้นบ้านที่ได้รับอนุญาตแล้วออกไปทำประมงนอกชายฝั่ง ขณะนี้ยังไม่มีการบังคับใช้ชาวประมงพื้นบ้านยังออกไปทำประมงได้ตามปกติ และภาครัฐกับชาวประมงพื้นบ้านกำลังทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง