นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพรรค แถลงข่าวเปิดนโยบายเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง มุ่งเน้นการพัฒนาการศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาเกิดจนเข้าสู่วัยทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องเร่งแก้ไขและปรับเปลี่ยนโครงสร้างทั้งระบบโดยมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กตาม 7 เป้าหมายหลัก ประกอบด้วย สุขภาพดี มีทักษะการคิดวิเคราะห์, มีทักษะการพูด 2 ภาษา, มีทักษะการใช้เทคโนโลยี, มีคุณธรรมและจิตสาธารณะ, เข้าใจสิทธิและหน้าที่, และมีทักษะการใช้ชีวิต
อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์ยังได้กำหนดนโยบายด้านการศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพเด็กไทยไว้ 10 ข้อด้วยกัน ประกอบด้วย
1. 'เกิดปั๊บรับสิทธ์ิเงินแสน' ซึ่งเป็นเบี้ยเด็กเข้มแข็งตั้งแต่แรกเกิดจะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือนไปจนอายุครบ 8 ปี เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงตั้งแต่วัยแรกเกิด
2. ศูนย์เด็กเล็กคุณภาพดีท่ัวประเทศไทย เป็นการจัดการศึกษาปฐมวัยให้มีคุณภาพ ช่วยพัฒนาหลักสูตรที่เน้นกระบวนการคิดมให้เด็กมีเติบโตอย่าง มีคณุภาพในทุกด้าน ทั้งทางสมอง ร่างกาย จิตใจ และ อารมณ์
3. อาหารเช้า - กลางวันฟรี มีคุณภาพ ซึ่งรัฐจะช่วยสนับสนุนค่าอาหารเช้า และ อาหารกลางวันฟรี ให้แก่เด็กนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
4. เด็กทุกคนจะต้องพูดภาษาอังกฤษได้ ด้วยระบบ EnglishforAll จัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษโดยเจ้าของภาษา เน้นทักษะการสื่อสารตั้งแตระดับชั้นอนบุาล โดยเฉพาะการพูด และการฟัง
5. ปรับหลักสูตรเพื่อโลกอนาคต ระดับประถมศึกษา จะเน้นการคิดวิเคราะห์มากกว่าการท่องจำ ชั้นมัธยมต้น จะเน้นการค้นหาความถนัด และ ความชื่นชอบของตัวเอง ชั้นมัธยมปลาย จะให้เลือกเรียนตามความถนัด และ ชื่นชอบของตนเอง ส่วนมหาวิทยาลัย จะลดขั้นตอน และ ภาระการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
6. เรียนฟรีถึง ปวส. จบแล้วมีงานทำ ซึ่งจะสนับสนุนให้เรียนฟรีในสาขาวิชาชีพทั้งระดับปวช. และ ปวส. เพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงกับตลาดแรงงานไทย โดยเพิ่มการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน
7. การศึกษาตลอดชีวิตคูปองเพิ่มทักษะสำหรับผู้ใหญ่ เป็นการแจกคปูองเพิ่มทักษะ และ ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับประชาชนในวัยทำงาน เพื่อสร้างโอกาส สร้างงาน และ สร้างอาชีพ
8. คืนครูให้นักเรียน ลดภาระงานของครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน เช่น งานธุรการ และ ปรับวิธีการประเมินครูโดยใช้คณุภาพของนักเรียนเป็นนัวชี้วัดผลงานของครู
9. จัดตั้งกองทุน Smart Education เพื่อสนับสนุน Social Enterprise และ Startup ทางด้าน การศึกษา รวมถึงการนำเทคโนโลยี EdTech หรือ (EducationTechnology) มาใช้พัฒนาการเรียนการ สอน และ การสอบให้มีประสิทธิภาพ
10. กระจายอำนาจจากกระทรวงศึกษาธิการสู่โรงเรียนมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ ยังเปิดเผยว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมเดินหน้าแก้ปัญหาหลักของการศึกษาไทย เช่น ปัญหาความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาคุณภาพเด็ก, ปัญหาคุณภาพการเรียนการสอน, ปัญหาความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ซึ่งจำเป็นต้องเร่งแก้ไขด้วยการเปลี่ยนโครงสร้างทั้งระบบ โดยเริ่มจากการกระจายอำนาจไปที่ระดับโรงเรียน เพิ่มอำนาจการบริหารจัดการตัวเอง และเป็นโรงเรียนที่ประชาชนเป็นเจ้าของโดยแท้จริง